มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่เรียนจบระดับมัธยมแล้วไม่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร หรือจบมหาวิทยาลัยไปแล้วค้นพบว่าสิ่งที่ร่ำเรียนไป 4 ปีนั้น ไม่ใช่ชีวิตที่ตัวเองต้องการ ฉะนั้นเด็กส่วนใหญ่จึงมีช่วงเวลาหนึ่งที่เกิดคำถามในใจ ถามตัวเองว่า ‘โตขึ้น...จะไปไหน?’ จึงเกิด a-chieve กิจการเพื่อสังคม ที่เข้ามาช่วยกระตุ้นให้เด็กเหล่านี้ได้รู้จักตัวเองก่อนที่จะสายเกินไป

a-chieve ขับเคลื่อนโดยคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจปัญหาของคนรุ่นใหม่ด้วยกัน เป็นการสนับสนุนให้เยาวชนได้ค้นพบอาชีพที่ตัวเองรักโดยหวังว่าจะช่วยให้เด็กเหล่านี้วางแผนการเรียนได้อย่างถูกต้อง และสามารถเลือกประกอบอาชีพที่เหมาะสมกับ
ตัวเองในอนาคตได้ เมื่อได้เลือกในสิ่งที่ชอบ เป็นในสิ่งที่ใช่ ก็จะทำให้เด็กใช้ศักยภาพตัวเองในการทำงานได้อย่างเต็มที่

วิน - นรินทร์ จิตต์ปราณีชัย หนึ่งในผู้ก่อตั้ง a-chieve เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของการรวมตัวกันกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีความสนใจที่จะช่วยเหลือสังคม แม้ในตอนแรกจะไปจับประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมกับคนไร้บ้าน 
แต่สุดท้ายก็มาเจอปัญหาของน้องชายเพื่อนที่กำลังขึ้น ม.4 แล้วตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเดินต่อเส้นทางไหน นั่นเลยกลายเป็นประเด็นปัญหาหลักที่ a-chieve ให้ความสนใจ และเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานานตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อจนมาถึงปัจจุบันซึ่งยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง

“เมื่อเรามองเห็นปัญหา เราก็ลองมาคิดดูว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง ตอนแรกเรายังไม่มีความคิดที่จะทำเป็นธุรกิจเพื่อสังคมอะไรเลย แค่อยากจัดโครงการ อยากทำอะไรขึ้นมาบางอย่างเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ เราก็ได้หางานของต่างประเทศมาศึกษาดูว่าเขาทำกันยังไง ก็เลยไปเจอตัวหนึ่งเรียกว่า ‘Job Shadow’ ของสหรัฐอเมริกา ที่ให้เด็กมัธยมไปสัมภาษณ์คนที่ทำงานในอาชีพนั้นๆ แต่ว่าของเราก็เอามาปรับเปลี่ยน คือให้ไปลองทำงานของจริงเลย 5 วัน ว่าคนที่ทำอาชีพนี้วันๆ เขาทำอะไรบ้าง 

“พอได้ไอเดียแล้วประจวบเหมาะกับมีโครงการ A day Foundation เป็นการเปิดหาโครงการที่น่าสนใจเพื่อสังคม สุดท้ายเราจึงได้ร่วมงานกับพี่โหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ เป็นโครงการแรกของเราเลย ชื่อว่า ‘โตแล้วไปไหน?’ ซึ่งได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี ต่อมาเราเลยจัดแผนประกวดธุรกิจเพื่อสังคมขึ้นมาในโครงการบ้านปู แล้วก็ได้รางวัลชนะเลิศมา จึงสร้างแบรนด์สร้างองค์กร จนกลายมาเป็น a-chieve”

โดยหลักๆ แล้ว a-chieve มีทั้งหมด 4 โครงการ พูดถึงเรื่องการมีอาชีพที่ใช่ ชีวิตที่ชอบ; A-Chieve Shadow โตแล้วไปไหน? กิจกรรมระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่เปิดโอกาสให้เด็กมัธยมได้ทำความรู้จักกับอาชีพต่างๆ ตลอดจนโลกของการทำงานจริงด้วยประสบการณ์ของตัวเอง, Talk ชิด! กิจกรรมที่นำพี่ต้นแบบอาชีพมา Talk กับน้องๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อทำความรู้จักและสร้างความเข้าใจในอาชีพ โดยการพูดคุยให้ความรู้ แชร์ประสบการณ์ และถาม-ตอบในสิ่งที่เด็กสงสัยอยากรู้ แบบตัวต่อตัว, Open World งานสัมมนา 1 วัน ให้เด็กมาเห็นภาพกว้างของสายงานอาชีพ 1 สายงาน และ ฟัก ฝัน เฟส เป็นงานเทศกาลประจำปีของ a-chieve ที่รวบรวมโครงการทั้งหมดไว้เป็นหนึ่งเดียว เน้นสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ 

“รุ่นน้องที่จบจากโครงการเหล่านี้ไปแล้ว มีประมาณ 200 กว่าคน ถ้าถามว่าประสบความสำเร็จไหม ในเรื่องคุณภาพหรือสิ่งที่น้องๆ ได้รับก็ถือว่าสำเร็จในระดับหนึ่ง ต้องบอกว่าเราเก็บฟีดแบ๊กจากน้องตลอด ซึ่งน้องก็ตอบมาเหมือนๆ กันว่า มีความรับผิดชอบมากขึ้น เห็นภาพของอาชีพว่าสำคัญมากแค่ไหน ถ้าไม่ได้เข้าไปสัมผัสกับการทำงานจริงๆ ก็จะไม่มีโมเม้นต์นี้ คือโครงการเราเน้นให้วิธีการคิดกับเด็กมากกว่า ให้เด็กมองเห็นทางเลือกของตัวเองชัดเจนขึ้น ไม่ได้เดินไปแบบไร้ทิศทาง

“จริงๆ ผมตั้งเป้าให้ a-chieve มี 3 ระดับ ขั้นแรกผ่านไปแล้ว สำหรับจัดโครงการเองโดยเข้าไปหาเด็กตรงๆ ซึ่งที่ผมให้มี 3 ระดับ เพราะทั้งประเทศมีเด็กมัธยมทั้งหมด 4.6 ล้านคน จะให้จัดแค่ Event อย่างเดียว มันเข้าไม่ถึงเด็กทั้งหมดหรอก เลยต้องเข้าสู่ระดับที่ 2 คือการทำ Website Content รวบรวมพวกข้อมูลอาชีพ หรือสร้าง Community เพื่อให้ทั้งเด็ก ผู้ปกครอง และอาจารย์ สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ง่ายมากขึ้น และส่วนสุดท้าย เราจะนำข้อมูลทั้งหมดหรือโครงการเหล่านี้ เข้าไปฝังในโรงเรียนให้ได้ ไม่ต้องถึงกับเป็นหลักสูตร แค่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับอาจารย์แนะแนว ช่วยเหลือเด็กได้ก็โอเค เพราะถ้าเราเข้าไม่ถึงเด็ก 4.6 ล้านคน ปัญหานี้ก็จะไม่จบสิ้นสักที มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นว่าเราทำอยู่คนเดียว ต้องให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม นี่คือความยากของธุรกิจนี้และเป็นเป้าหมายต่อไปของพวกเราครับ”

พูดง่ายๆ a-chieve เป็นเสมือนทั้งพี่และเพื่อนที่คอยเป็นกำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กมัธยม กล้าที่จะเชื่อในความฝันและศักยภาพของตัวเอง แล้วลงมือสร้างความฝันนั้นให้เป็นจริงขึ้นมาได้โดยไม่ต้องกลับมาเสียใจภายหลังหรือพร่ำบอกกับตัวเองว่า ‘รู้อย่างนี้...ไม่น่าเลย’ 

Know Them

โครงการโตแล้วไปไหน? ครั้งที่ 9 กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน นี้ โดยหลักในการคัดเลือกเด็กเหล่านี้ คือดูความตั้งใจกับทัศนคติ สำหรับเด็กที่พร้อมเรียนรู้

a-chieve มีสองความหมาย หากแปลเป็นภาษาไทยแบบตรงตัวจะแปลว่า ‘อาชีพ’ หรือถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะแปลได้ว่า ‘ประสบความสำเร็จ’

ทีมงาน a-chieve ปัจจุบันดำเนินงานทั้งหมด 3 คน ดูแลทุกส่วนตั้งแต่ด้าน PR, Marketing และ Website

ติดตามต่อได้ที่ www.a-chieve.org หรือ www.facebook.com/achieve.org