นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว

ในเชิงเศรษฐกิจภาคประชาชน สังคมจีนก้าวไปข้างหน้าเร็วมาก คนทั่วไปมีกำลังทางเศรษฐกิจพอที่จะเดินทางออกไปยังต่างประเทศมากขึ้น และวัยของนักเดินทางชาวจีนก็ลดลงอย่างมาก

นักท่องเที่ยวจีนรุ่นแรกๆ เมื่อราว 30 ปีที่แล้วส่วนใหญ่มาจากไต้หวัน  นอกจาก “ทัวร์คนแก่” และ “ทัวร์เถ้าแก่” แล้วก็มักจะเป็นกลุ่มแม่บ้าน กับคนที่ทำงานมาแล้วหลายๆ ปีและนักท่องเที่ยวรุ่นเมื่อ 30 ปีที่แล้วก็สร้างเรื่องที่ไม่น่าประทับใจให้กับประเทศที่ไปเยือนไม่น้อย เช่น การเอะอะโวยวาย ไม่รักษากฎระเบียบของสังคม เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในหมู่คนส่วนใหญ่ที่ไม่มีประสบการณ์ในการเดินทาง และไม่ค่อยได้รับรู้เรื่องราวของโลกภายนอก นักท่องเที่ยวไต้หวันรุ่นแรกๆ ก็เป็นเหมือนกับนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ในระลอกต่อมา ซึ่งเคยชินกับชีวิตในสังคมปิด พอมีเงิน ก็เข้าใจว่าจะทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ 

นักท่องเที่ยวไต้หวันและนักท่องเที่ยวจีนเมื่อต้นทศวรรษที่ 1980 มักจะใช้เงินมือเติบ ไปเที่ยวกับหมู่คณะที่ตระเตรียมทุกอย่างให้แบบสำเร็จรูป นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไปกิน ไปเที่ยวแบบเดียวกัน ซื้อของที่ระลึกและของฝากแบบเดียวกัน ไม่เฉพาะในประเทศแถบเอเชียเท่านั้น แต่ยังไปยุโรปและอเมริกาด้วย กิตติศัพท์การช็อปปิ้งของนักท่องเที่ยวจีนโด่งดังไปทั่วโลก นำด้วยกลุ่มไต้หวันก่อน ต่อมาคนจีนแผ่นดินใหญ่ก็สร้างชื่อล้ำหน้าในแง่การ “ซื้อแหลก” และ “ซื้อของแพง” จนสินค้ายี่ห้อหรูๆ หมดตู้ 

ปัจจุบัน ความเป็นนักจ่ายมือเติบของนักท่องเที่ยวจีนเหมือนจะโดดเด่นอยู่เพียงกลุ่มเดียวอย่างต่อเนื่องยาวนาน ขณะที่นักช็อปไต้หวันค่อยๆ สละตำแหน่งนี้ไป เศรษฐกิจไต้หวันไม่ได้เฟื่องฟูอู้ฟู่เหมือนก่อน นี่คือเหตุผลหนึ่ง แต่อีกสาเหตุคือการเติบโตสู่ความมีวุฒิภาวะของผู้คน และวัยของนักท่องเที่ยวไต้หวันที่กลายมาเป็นกลุ่มคนหนุ่มสาววัยทำงานแทนกลุ่มผู้สูงวัยเช่นเดิม นักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่ที่เดินทางออกไปเที่ยวยังต่างประเทศในปัจจุบันเริ่มมีวัยลดลงอย่างเห็นได้ชัด ความแพร่หลายของสายการบินราคาประหยัดมีผลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากอีกทั้งปัจจัยต่างๆ ในสังคมก็มีส่วนทำให้ “โลกทัศน์” และ “ชีวทัศน์” ของผู้คนเปลี่ยนไป 

กระแสนิยมหนุ่มสาวจีนเดินทางท่องเที่ยวออกนอกประเทศเป็นไปอย่างแพร่หลาย หนุ่มสาวจีนเหล่านี้มีทั้งที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่, ไต้หวัน, ฮ่องกง, สิงคโปร์ แนวโน้มการเดินทางด้วยตัวเอง (ไม่อาศัยบริษัททัวร์) มีมากขึ้น และประเทศไทยก็เป็นเป้าหมายหนึ่งที่หนุ่มสาวจีนจำนวนมากกำหนดไว้ในแผนการเดินทางของตน 

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนชีวิตของผู้คนทั้งโลกไปอย่างมาก และคนหนุ่มสาวจีนในแต่ละพื้นที่ก็รับอิทธิพลนั้นมาอย่างรวดเร็ว ข้อมูลที่เปิดกว้าง รวดเร็ว สะดวกสบาย เข้าถึงได้ง่ายแม้แต่ด้วยโทรศัพท์มือถือราคาไม่แพง ทำให้คนหนุ่มสาว “เห็น” และ “ฝัน” ในสิ่งที่ไม่ใช่ความเคยชินแบบเก่าในโลกยุคเก่า วิธีการสร้างรายรับเชิงอาชีพแบบใหม่ๆ เปิดโอกาสให้คนสามารถจัดสรรเวลาออกไปจากการงาน หรือกระทั่ง “เที่ยวไปทำไป” ได้สะดวก คนหนุ่มสาวจีนปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว และเปลี่ยนไปอย่างมากด้วย แม้ว่ายังมีคนจีนเป็นจำนวนไม่น้อยที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารไม่ดีนัก แต่พวกเขาก็มิได้ออกเดินทางท่องเที่ยวกันแบบหูหนวกตาบอด เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้พวกเขาเข้าถึงข้อมูลมากมาย อีกทั้งยังช่วยขจัดปัญหาอุปสรรคในการจองห้องพัก เที่ยวเตร่ และติดต่อสื่อสารด้านอื่นๆ อีกทั้งหนังสือคู่มือท่องเที่ยวประเทศไทยฉบับภาษาจีนที่พวกเขาพกพากันมาจากประเทศของตนก็ให้ข้อมูลทั้งในเชิงกว้างและเชิงลึกได้ดี 

นักท่องเที่ยวไต้หวันและฮ่องกงยังคงเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างสม่ำเสมอ ข่าวคราวในแง่ลบของพวกเขาลดลงกระทั่งค่อยๆ หายไปพร้อมกับวุฒิภาวะในฐานะพลเมืองโลกที่มีมากขึ้น พวกเขาเห็นโลกกว้างมากขึ้นเติบโตและเรียนรู้เพิ่มขึ้นตามวันเวลา ถ้าเราเข้าไปอ่านตามบล็อคและหนังสือที่เขียนเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางของพวกเขา เราจะเห็นมุมอีกมุมหนึ่งของปัจเจกชนที่ต่างออกไป ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับประเทศไทยที่เขียนด้วยภาษาจีนมีอยู่มากมาย หนังสือคู่มือเดินทางเที่ยวไทยที่เขียนด้วยภาษาจีนมีทั้งของไต้หวัน , ฮ่องกง , จีนแผ่นดินใหญ่ และสิงคโปร์ 

มีบล็อคเกอร์หลากหลายลีลาทั้งที่ทำเป็นอาชีพและสมัครเล่น นักเดินทางหลายคนตั้งใจตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านว่าเมื่อมาเที่ยวเมืองไทยจะไม่ไปดูกระเทยโชว์, ไม่ไปขี่ช้างจุดที่พวกเขาขีดเครื่องหมายไว้ ไม่ได้มีแค่ กรุงเทพ / พัทยา / เชียงใหม่ / ภูเก็ต อีกแล้ว พวกเขารู้จักเกาะสมุยและเกาะเสม็ด รู้จัก TCDC และรู้จักอะไรๆ ในเมืองไทยอีกไม่น้อย แน่นอนว่ายังมีนักท่องเที่ยวจีนที่ไม่รู้จักใช้ห้องน้ำส่วนรวม ไม่เคารพสิทธิผู้อื่น 

แต่คนเหล่านั้นย่อมเป็นคนละกลุ่มกับเด็กหนุ่มสาวที่เพิ่งฟังผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จ และเดินทางออกมาหาประสบการณ์ด้วยเงินออมจากการทำงานพิเศษ สาวฮ่องกงที่มาเพื่อเรียนมวยไทย, หนุ่มเซี่ยงไฮ้ที่ตระเวนกินอาหารหลากหลายอย่างพินิจพิเคราะห์, เด็กหนุ่มจีนเชื้อสายมาเลเซียที่อยากไปหาสำนักสักยันต์, เด็กสาวที่ตั้งใจไปแผงเสื้อผ้าในสวนจตุจักรและสยามสแควร์ และอีกหลายคนที่นั่งสงบอยู่ตามสถานที่สัปปายะ พวกเขาก็เป็นนักท่องเที่ยวจีนแต่พวกเขาเหล่านั้นไม่เป็นข่าว และกำลังมาเดินกระทบไหล่คนหนุ่มสาวที่เกิดและเติบโตอยู่บนแผ่นดินนี้ เราไม่อาจมองพวกเขาเหล่านั้นว่ามาด้วยเจตนาร้าย เราตระหนักรู้หรือไม่ว่ากำลังมีคนหนุ่มสาวจำนวนไม่น้อยที่เตรียมตัวเองให้พร้อมที่จะเติบโตในโลกกว้าง 

ในวันเวลาที่การเป็นพลเมืองของประเทศค่อยๆ ไร้น้ำหนักลง ความเป็น “พลเมืองโลก” ของปัจเจกบุคคล หรือของคนจำนวนหนึ่งกำลังเติบโตและเข้มแข็งยิ่งขึ้นทุกที 

จีน