สาวสวยคนนี้คือทายาทในตระกูล “ตั้งคารวคุณ” ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์สียี่ห้อดังของเมืองไทยอย่าง TOA หลังจากเรียนจบในสายบริหารธุรกิจ เธอได้ทดลองทำงานในด้านบริหารให้กับบริษัทของครอบครัว แต่สุดท้ายกลับเลือกเดินตามความฝัน ในการเปิดแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองนาม “YUNA” เมื่อ 3 ปีที่แล้วและกำลังไปได้สวยในเส้นทางที่เธอเลือกเดิน

“จุดเริ่มต้นของแบรนด์เสื้อผ้า YUNA คืออยากจะทำอะไรที่เป็นธุรกิจของตัวเองอยากทำสิ่งที่ตัวเองชอบ ออกแบบเองดีไซน์เองแต่ก็มีดีไซน์เนอร์เก่งๆ อยู่ในทีมด้วย เราไม่ได้จบทางนี้มาโดยตรง เราจบปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตนานาชาติ จากคิงส์ คอลเลจ ประเทศอังกฤษ ไม่ได้เรียนดีไซน์มาโดยตรง 

“หลังจากเรียนจบกลับมาเคยทำงานอยู่ที่เอไอเอส ในส่วน International RoamingCoordinator ติดต่อกับต่างประเทศ ไปเป็นลูกน้องเขา ตอนนั้นเราเพิ่งจบออกมา เหมือนเป็นแค่เด็กฝึกงานด้วยซ้ำ อยู่ในแผนกโรมมิ่ง จากนั้นก็เข้าไปทำงานด้านการตลาดกับบริษัท TOA เรียนรู้เรื่องการบริหาร ตอนนั้นทำตำแหน่ง Marketing Executive แต่ก็ไม่ได้ชอบไม่ได้อินกับงานตรงนั้น

“ระยะเวลา 3 ปีตั้งแต่เปิดแบรนด์มา ก็คิดว่าก้าวไปในระดับหนึ่ง เป็นตามที่เราตั้งใจไว้เราได้แนวทางได้ทิศทาง รู้ว่าจะไปทางไหน ตอนนี้เราก็เน้นส่งออกซะส่วนใหญ่ ตอนนี้ก็มีอีกโครงการหนึ่งที่น่าจะทำเร็วๆ นี้ คือเปิดร้านสั่งตัดเสื้อผ้า ที่มี Personal Stylist เป็นที่ปรึกษาก่อนที่ลูกค้าจะตัดชุดในแบบนั้นๆ ให้คำปรึกษาว่าคนบุคลิกแบบนี้ควรเหมาะกับชุดแบบไหน 

“จากประสบการณ์ เราก็รู้ว่าคนส่วนใหญ่มีปัญหาแบบหุ่นไม่ดี เราไม่ได้พูดถึงเด็กวัยรุ่นนะ กลุ่มผู้ใหญ่ตั้งแต่ 25 ขึ้นไป จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่หุ่นยังดีอยู่ แต่พอเริ่ม 30 หุ่นก็จะเริ่มเปลี่ยน เราก็จะมีการปรับแก้แบบ ต้องทำให้ชุดพอดี ก็เลยมีความคิดนี้เกิดขึ้น เราไม่ได้บังคับว่าคุณต้องซื้อแบรนด์เรา เราเหมือนกับว่าเป็นแพคเกจ คุณสั่งตัดก็จะได้ชุด 3 ชุด ตั้งแต่ชุดราตรี ชุดทำงาน แล้วก็ชุดไปเดินเล่น แล้วคุณสามารถนำคำแนะนำของ Personal Stylist ไปใช้กับเสื้อผ้าแบรนด์ไหนก็ได้ เมื่อรู้ว่าหุ่นเราเหมาะสมกับแบบไหน

“สไตล์ของแบรนด์ YUNA เป็นเสื้อผ้าแบบคลาสสิก Simple Classic Elegant ถือว่าเป็นสโลแกนของเราเลย ต้องดูสง่างามด้วย คลาสสิกด้วย อย่างคอลเล็กชั่นที่แล้วกระแสตอบรับไม่ค่อยดี เพราะเราปรับนิดหน่อย ปรับให้มันดูเด็กมากขึ้น แต่ว่าโดยส่วนตัวเราไม่ได้ชอบไม่อยากให้มันดูโป้ แล้วกลุ่มลูกค้าเราก็ไม่ได้เด็ก กลุ่มลูกค้าจะเป็นวัยทำงาน 

อุณาวรรณ ตั้งคารวคุณ

“ไอเดียในการดีไซน์เสื้อยู่ที่แรงบันดาลใจของแต่ละซีซั่น อย่างเช่นซีซั่นล่าสุดที่กำลังจะออก ก็จะเน้นเป็นดอกกุหลาบ และรูปหัวใจ จะเป็นดอกกุหลาบใหญ่ๆ ติดไว้ที่ไหล่ หรือไม่ก็คัดติ้งตรงกระโปรงเป็นรูปหัวใจ หรือไม่ก็เป็นรูปหัวใจตรงเอว แบบเปิดให้เห็นเนื้อ แต่ว่าเป็นรูปหัวใจ ซึ่งแต่ละซีซั่นก็มีแรงบันดาลใจที่แตกต่างกันไป

“สำหรับคอลเล็กชั่นใหม่ที่กำลังจะออก จะกลับไปเป็นเราในแบบเดิม กลับไปเป็นยูนาในช่วงเริ่มต้น เราก็ชอบมันน่าจะโอเค สามารถใส่ไปทำงานได้แล้วก็ไปเที่ยวต่อได้ ทำงานได้ด้วยปาร์ตี้ได้ด้วย ตอนนี้เราอยู่ในช่วงขยายฐานลูกค้า เพราะว่าตอนนี้เราเปิดที่สิงคโปร์แล้ว เราจะต้องเป็นชุดที่ทำงานได้ด้วย แล้วก็มีสีที่เรียบมากขึ้น ไม่ดูฉูดฉาดมาก เพื่อให้ตอบรับความต้องการของลูกค้า”

สินค้าหลากหลายชนิดเมื่อประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง มักจะมีคู่แข่ง หรือ การลอกเลียนแบบเกิดขึ้น เสื้อผ้าก็เช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่า YUNA ก็ประสบกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

“มันเป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้ว เสื้อผ้าดีไซน์แบบของเราก็โดนก็อปปี้ขายตามประตูน้ำเยอะ เรื่องธรรมดาของทุกแบรนด์ รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร ไม่ได้รู้สึกว่าเขาเลียนแบบเราไม่ได้นะ เพราะว่าลูกค้าคนละกลุ่มกัน คนละตลาด คุณภาพของผ้าของเขากับผ้าของเราก็ต่างกัน แบบตัดเย็บก็ไม่ได้ คือเขาอาจจะไม่ได้เย็บแบบเรา ข้างในส่วนซิบก็ไม่มีแบบเรา ผ้าก็ไม่เหมือนกันแล้ว ราคาขาย กลุ่มลูกค้าไม่เหมือนกัน เราก็เลยไม่ได้คิดว่าเขาแย่งลูกค้าเรา เพราะถ้าเขาจะมาลอกเรามาพิมพ์ลายผ้าทำเหมือนเราเปี๊ยบ เขาก็ขายราคาถูกไม่ได้อยู่แล้ว ก็คิดซะว่าของเราสวยก็เลยโดนลอกเลียนแบบ แสดงว่าเขาชอบแบบของเรา

“ตอนนี้นอกจากจะทำแบรนด์ YUNA ก็มีลงทุนธุรกิจกับเพื่อนๆ บ้าง ส่วนกิจการของครอบครัวรอให้โรงงานขยายเสร็จก็จะกลับไปช่วยงานที่บ้านด้วย เพราะตอนนี้แบรนด์ก็ค่อนข้างลงตัว เราเปิดมา 3 ปีแล้วค่ะ ตอนนี้มีสาขาที่ สยามเซ็นเตอร์, เซ็นทรัลเวิลด์ และก็เพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ออร์ชาร์ด ประเทศสิงคโปร์ คือเรามีกลุ่มลูกค้าอยู่แล้ว สาขาสิงคโปร์ที่เพิ่งเปิดก็มีการตอบรับที่ดี ที่นั่นยังไม่ค่อยมีดีไซเนอร์ การแต่งตัวตัวเลือกเขายังไม่เยอะเท่าเมืองไทย เพราะคนประเทศเขายังไม่ลึกซึ้งเท่าไร ก็อยากไปบุกเบิกเรื่องแฟชั่นที่นั่น

“จะเห็นได้ว่าตอนนี้คนทำธุรกิจเปิดแบรนด์สินค้าต่างๆ ของตัวเองเยอะมาก จริงๆ ควรจะจับแนวทางของตัวเองให้ถูก ว่าจริงๆ เราชอบอะไร หากทำแบรนด์เสื้อผ้าควรต้องหาเอกลักษณ์ตัวเองให้เจออย่าไปตามคนอื่นมาก เพราะกระแสมาแล้วก็หมดไป เป็นแบบของตัวเองดีที่สุดค่ะ”