ม้ามืด

ม้ามืด

มีกีฬามากมายมายหลายประเภทที่ชาวเอเชียบุกไปยืนในอันดับที่แสงสปอร์ตไลท์ส่องมาถึงได้ แต่สำหรับกีฬาเทนนิสแล้วแม้จะมีอยู่บ้างแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะสร้างกระแสให้คนทั้งโลกได้จับตามองมากเท่าในครั้งนี้ ...

วงการเทนนิสต้องสั่นสะเทือนอีกครั้งก็เพราะในรายการแกรนด์แสลมปีนี้มีม้ามืดชาวเอเชียโผล่ขึ้นมาน่ะสิ เขาเป็นนักเทนนิสชายชาวเอเชียคนแรก (แม้จะเป็นคนที่ 2 ต่อจากหลี หน่า นักเทนนิสสาวจากจีนที่ได้แชมป์หญิงเดี่ยวเฟรนช์แลออสเตรเลียน โอเพ่นก็ตาม) เขาคือ เคอิ นิชิโครินักเทนนิสชาวญี่ปุ่นวัย 24 ปี แถมยังเป็นผู้ทำลายสถิติอันดับโลกในประเภทชายเดี่ยวชาวเอเชียของภราดร ศรีชาพันธ์ ที่เคยทำไว้ได้ในอันดับที่ 9 (เมื่อปี 2003) เพราะเขาเป็นผู้ครองอันดับ 8 และเข้ารอบชิงชัยแมทช์สุดท้ายจนสร้างเสียงฮือฮาได้ในรายการยูเอส โอเพ่น ปี 2014

แน่นอนว่าในแต่ละรายการที่เข้าแข่งขัน เคอิ นิชิโคริ นั้นไม่ได้มีรายชื่อติดโผตัวเต็งเลย แต่เขาก็สามารถคว้าตั๋วเข้ารอบชิงชนะเลิศในรายการนี้ได้ แม้ผลปรากฏว่าเขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับม้ามืดอีกคนวัย 25 ปี จากโครเอเชียอย่าง มาริน ซิลิช ซึ่งก็ได้ล้มพี่ยักษ์อย่าง โรเจอร์ เฟเดเรอร์มือ 2 ของรายการมาแล้วเช่นกัน

ว่าไปแล้วการเข้าชิงของ เคอิ นิชิโคริ นั้นมันไม่ได้ธรรมดาเลย เขาสามารถปาดหน้า โนวัค ยอโควิช มือ 1ของโลก ให้กลับไปซับน้ำตาเบาๆ ที่บ้านได้แบบตะลึงไปทั้งวงการ โดยก่อนหน้านี้ก็ค่อยๆ ทยอยสอย มิลอส ราโอนิช, สแตน วาวิงกา ให้ล่วงตกรอบกลับไปซดแห้วรออย่างคนเหงาๆ !!!

มันเกิดอะไรขึ้น?! เขาเป็นใคร?! นี่คือคำถามที่อยู่ในใจใครหลายคน 

ก็ไม่รู้ว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจอะไรที่ทำให้เดินเข้าคอร์ทและจับไม้เทนนิสตั้งแต่ 5 ขวบ ทั้งๆ ที่พ่อเขามีอาชีพเป็นวิศวกร และแม่ก็เป็นครูสอนเปียโนแต่เมื่อจังหวะของชีวิตที่สำคัญได้มาถึงก็คือ เขาได้มีโอกาสไปศึกษาต่อที่สถาบันกีฬา ไอเอ็มจี อคาเดมี่ ในรัฐฟลอริดา และขณะเดียวกันเดินหน้าสู่การเป็นนักเทนนิสมืออาชีพ เขาใช้เวลา 3 ปีก็สามารถเทิร์นโปรได้ สำเร็จ 

ในรายการจูเนียร์ สแลม (รายการเดี่ยว) ตั้งแต่ปี 2005-2006 เขาสามารถทำได้ดีที่สุดคือรอบก่อนรองชนะเลิศออสเตรเลี่ยน โอเพ่น ปี 2006 และ เฟรนช์ โอเพ่น ปีเดียวกัน ต่อมาในปี 2008 ก็สามารถคว้าแชมป์ เอทีพี แรกได้สำเร็จ ไต่อันดับ 244 ของโลกกลายเป็นนักเทนนิสชาวญี่ปุ่นคนแรกที่คว้าแชมป์ เอทีพี ในรอบเกือบ 16 ปี จากนั้นพอสิ้นปี เขาก็สามารถตะกายขึ้นมาได้ถึง Top 100 ด้วยการเป็นมือวางอันดับ 63 ของโลก แต่แล้วในปี 2009 นิชิโคริต้องอกหักจากรายการ เฟรนช์ โอเพ่น, วิมเบิลดัน และ ยูเอส โอเพ่น เพราะได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศอกขวา แถมยังร่วงลงไปอยู่ที่อันดับ 418 ของโลก

ทันทีที่หายขาดในปี 2010 เขาก็กลับมาอีกครั้ง และสามารถคว้าแชมป์ไปได้ ด้วยการเอาชนะ ไบรอัน ดาบูลในรายการ ซาราโซต้า โอเพ่น ที่รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกาแถมยังส่งท้ายปีด้วยการเข้ารอบ ยูเอส โอเพ่น เอาชนะมาริน ซิลิช มือวางอันดับ 11 (ของรายการในรอบที่สอง)แล้วกลับขึ้นมาอยู่ในอันดับ Top 100 อีกครั้ง กับอันดับ 98ของโลกและเมื่อปี 2012 เขาก็สามารถคว้าแชมป์ เอทีพีครั้งที่สอง และเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายในรายการเมเจอร์ได้สำเร็จ แถมยังทะยานขึ้นไปถึงมือวางอันดับ 15 ของโลก และกลายเป็นนักเทนนิสชาวญี่ปุ่นคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์เจแปน โอเพ่น ได้ในรอบ 41 ปี!!!

เอาเป็นว่ากราฟชีวิตเขายังพุ่งไม่สุด ดังนั้นในปี2013 เขาก็สามารถคว้า แชมป์ เอทีพี ครั้งที่สามเอาไว้ได้อีกครั้ง และในปีนี้ 2014 เขาก็สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมาด้วยมือของตัวเอง ด้วยการก้าวขึ้นสู่มือวางอันดับ Top 10 ของโลกได้สำเร็จ แถมยังล้มยักษ์ให้ชาวโลกเห็นกันต่อหน้าต่อตา (แม้จะเงิบจากคว้าแชมป์ในรายการยูเอส โอเพ่นไปก็ตาม) 

ที่สำคัญนอกจากจะสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการกีฬาเทนนิสในระดับโลกแล้ว ความภาคภูมิใจนี้ได้ถูกส่งผ่านไปยังชาวญี่ปุ่นและสะท้อนกลับมาด้วย ยูนิโคล่ ประกาศว่าแม้ เคอิ นิชิโคริ จะพลาดการคว้าแชมป์ที่อยู่แค่เอื้อมไป แต่ก็พร้อมที่จะอัดฉีดให้เงินปลอบใจเบาๆ 100 ล้านเยนเลยทีเดียว กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษจริงๆ 

 

เอเชีย