BLACKBEARD

BLACKBEARD

คาเลโก แจ็ก, จอลลี่ โรเจอร์, เอ็ดเวิร์ด อิงก์แลนด์, เฮย์เรดดิน บาร์บารอสซา, โรเบิร์ต บาร์โธโลมิว  ชื่อเหล่านี้คุ้นๆ กันบ้างไหมครับ ไม่ต้องนึกนาน ... เพราะชื่อเหล่านี้เป็นชื่อของโจรสลัดชื่อดังในอดีต ที่ล้วนโลดแล่นอยู่ในคาบสมุทรต่างๆ มาแล้วทั่วโลก 

แม้ท่านผู้อ่านอาจจะยังไม่คุ้นเท่าใด แต่ถ้าผมเอ่ยชื่อ Edward Teach หรือ Edward Thatch หรือ “เคราดำ” หลายท่านอาจจะพอนึกออกอยู่บ้าง  เพราะเป็นชื่อของโจรสลัดที่เป็นที่รู้จักจากเรื่อง Pirates of the Caribbean on Stranger Tide แต่ทราบหรือไม่ครับว่าชื่อ “เคราดำ” นี้ล้วนปรากฏให้เห็นอยู่ในภาพยนตร์ นิยาย หรือ การ์ตูน ที่เกี่ยวข้องกับ โจรสลัดทั้งสิ้น แม้แต่กัปตัน Hook จากเรื่องของ Peter Panก็มีต้นแบบมาจาก โจรสลัดเคราดำคนนี้นี่เอง เรื่องราวของเขามีตัวตนอยู่จริง ไม่ใช่เพียงแค่นิยายที่ปั้นแต่ง เหตุใดเขาถึงมีชื่อเสียงโด่งดัง เขาชั่วร้ายขนาดไหน ติดตามกันได้เลยครับ

BLACKBEARD
BLACKBEARD

Edward Teach  หรือ เคราดำ เกิดเมื่อปี 1680 (คำนวณอายุจากวันที่เสียชีวิต) เกิดที่เมือง Bristol ประเทศอังกฤษ เป็นโจรสลัดที่มีชื่อเสียง และกล่าวกันว่าโหดร้ายน่ากลัวที่สุดในช่วงปี 1702-1713 หรือในช่วงสงคราม Queen Anne’s War ระหว่างอังกฤษ ฝรั่งเศส และ สเปน เคราดำมีรูปลักษณ์ที่น่ากลัว ร่างกายสูงอ้วนใหญ่ พลังแขนแข็งแรงขนาดสามารถฟันหรือสับคนขาดสองท่อนด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว พกดาบ 3 เล่ม และปืน 6 กระบอกข้างลำตัวอยู่ตลอดเวลา ยามเมื่อปรากฏกายต่อหน้าศัตรู จะสวมหมวก Corsair ติดสายชนวนไฟที่มีควันพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา คาดการณ์ว่าที่เขาทำอย่างนี้เพื่อเป็นการข่มขู่ศัตรู แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุดก็คือเครายาวสีดำทมิฬ ที่ถูกถักจนเหมือนงูเลื้อยอยู่บนหน้า เคราดำได้ออกอาละวาดไปทั่วท้องทะเลแคริบเบียน ก่อคดีปล้นฆ่ามากมาย อีกทั้งเป็นจอมบัญชาการและเป็นจอมวางแผนตัวยง จนเป็นที่ต้องการจากทั้งสามประเทศ 

ไม่มีใครทราบที่มาที่ไปของ “เคราดำ” ที่แน่นอน บ้างก็ว่าเขาเกิดในตระกูลผู้ดีร่ำรวย แต่ด้วยนิสัยห่ามๆ ส่วนตัวบวกกับความเบื่อในชีวิตที่ต้องพิธีรีตอง เลยผันเปลี่ยนตัวเองมาเป็นโจรสลัด แต่ความคิดนี้ได้ถูกปัดตกลงไปด้วยความเห็นที่ว่า “ถ้ารวยอยู่แล้วจะออกมาใช้ชีวิตลำบากออกปล้นไปทำไม..?” แต่คำบอกเล่าเกี่ยวกับอดีตของ “เคราดำ” ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ เขาเป็นทหารเรือเก่า ที่ถูกเกณฑ์เข้าร่วมสงครามระหว่างสามประเทศ และได้ถอนตัวออกมาจากกองทัพ ซึ่งจากตรงนี้ความเป็นไปได้มีมากที่สุด เพราะ “เคราดำ” มีความรู้ในการรบและการเดินเรือแบบกองทัพ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้มาจากช่วงของการเป็นทหารเรือนั่นเอง ซึ่งเมื่อเขาผันตัวเองมาเป็นโจรสลัดแล้ว เขาก็ได้ออกปล้นสะดมเรือสินค้าต่างๆ ทั่วน่านน้ำในทะเล แคริบเบียน ลามไปจนถึงในแถบอเมริกาใต้ โดยเขาใช้ ท่าเรือ New Providence ในหมู่เกาะ บาฮามาส เป็นฐานที่ตั้งหลัก 

BLACKBEARD
BLACKBEARD

จนวันหนึ่งเขาได้มาเจอกัปตัน Benjamin Hornigold  โจรสลัดเชื้อสายอังกฤษ ในช่วงปี 1716 ซึ่ง Hornigold ได้ชักชวน “เคราดำ” ให้เข้ามาเป็นพรรคพวกซึ่ง “เคราดำ” ก็ไม่ปฎิเสธที่จะเข้าร่วมกับโจรสลัดชื่อดังรายนี้ Hornigold ถูกใจ “เคราดำ” เป็นอย่างมาก ถึงขนาดยกเรือหนึ่งในสองลำ เรือ Sloop ลำใหญ่ให้และตั้งให้เป็นกัปตันประจำเรือ ส่วนตัวเองเป็นกัปตันประจำเรือ Rangers ซึ่งในช่วงนี้ “เคราดำ” ได้สร้างผลงานออกปล้นทรัพย์สมบัติของเรือต่างๆ ไปทั่วน่านน้ำแคริบเบียน และได้ปล้นเรือสินค้าขนาดใหญ่ของฝรั่งเศสลำหนึ่ง นำมาติดตั้งปืนใหญ่จำนวน 40 กระบอก แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Queen Anne’s Revenge แล้วย้ายตัวเองจากเรือ Sloop มาประจำที่เรือลำนี้แทน ทำให้ในช่วงเวลาที่อยู่กับ Hornigoldเคราดำมีเรือโจรสลัดขนาดใหญ่เอาไว้อาละวาดถึง 3 ลำ และเป็นยุคทองที่ชื่อของเคราดำนั้นขจรขจาย

แต่แล้วจุดแตกหักระหว่าง Hornigold กับ เคราดำก็มาถึง ด้วย Hornigoldเป็นชาวอังกฤษ มีความเป็นชาตินิยมสูงมาก ดังนั้นเขาจึงไม่เลือกที่จะปล้นเรือสินค้าของอังกฤษ แต่จะกระทำกับเรือสินค้าของฝรั่งเศส และสเปน เท่านั้น ซึ่งใน
ความเป็นจริงเรือสินค้าของอังกฤษนั้นมีทองคำและสินค้าให้ปล้นมากกว่าของสเปนและฝรั่งเศสหลายเท่า ปล้นครั้งหนึ่งสามารถอยู่ได้ไปหลายปีทีเดียว ความไม่พอใจนี้สะสมมาเรื่อยๆ ไม่เพียงแต่ เคราดำ เท่านั้น บรรดาลูกเรือคนอื่นๆ
ก็ไม่พอใจเช่นกัน จนเป็นเหตุให้เคราดำแยกตัวกับ Hornigold ในที่สุด โดย เคราดำ ไปกับเรือ Queen Anne’s Revenge ส่วนตัว Hornigold ไปกับเรือ Ranger และ  Sloop และทั้งสองก็ไม่เจอกันอีกเลย

จากที่เคยมีคนควบคุม ตอนนี้ เคราดำ ไม่มีคนควบคุมอีกต่อไป เขาเลือกที่จะปล้นไม่เลือกหน้าเลือกสัญชาติ กระทำทุกสิ่งอย่างป่าเถื่อน จนชื่อเสียงของความโหดร้ายขจรขจายไปทั่วน่านน้ำ  สิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างหนึ่งของ เคราดำ ก็คือเขาเป็นคนที่รู้จักการวางแผนในการเดินเรือและในการปล้น รู้จักเส้นทางการหลบหนี ทหารเรือไม่สามารถไล่จับได้สักครั้ง อีกทั้งเป็นคนที่ทำให้เหล่าโจรสลัดด้วยกันรู้สึกเกรงกลัว ซึ่งในช่วงที่รุ่งเรือง มีโจรสลัดน้อยใหญ่จำนวนมาก มาขอร่วมเป็นลูกเรือ บ้างก็มาขออยู่ภายใต้อาณัติ อ้างความเป็นพรรคพวกของ “เคราดำ”ไปก่อกรรมทำเข็ญในที่ต่างๆ ซึ่งจากตรงนี้ได้ทำให้ โรเบิร์ต เมนาร์ด (Robert Maynard) นายทหารเรือของอังกฤษแฝงตัวเข้าไปอยู่บนเรือของ “เคราดำ” ได้สำเร็จ แต่ เมนาร์ด ไม่ได้ลอบทำการสังหาร เคราดำ แต่อย่างใด (อาจจะเป็นเพราะไม่มีโอกาส หรือถ้าสังหาร ตัวเองก็คงไม่รอด) แต่ก็ได้ศึกษาพฤติกรรมการเดินเรือ รวมถึงเส้นทางการหลบหนีของ เคราดำ อย่างละเอียด และได้ผูกสัมพันธ์กับลูกน้องคนสนิทของ เคราดำ คนหนึ่งชื่อว่า อิสราเอล แฮนส์ ไว้คอยส่งข่าว จากนั้นจึงได้แอบแยกตัวมาจากเคราดำ กลับสู่ประเทศอังกฤษ เพื่อเตรียมการไล่ล่าครั้งสำคัญ และแล้วจุดจบของ “เคราดำ” ก็มาถึง “แฮนส์” ลูกน้องคนสนิท
ได้แอบส่งข่าวไปให้ เมนาร์ด ถึงการเดินเรือของหนวดดำ ในชายฝั่งรัฐนอร์ทแคโรไลน่า(North Carolina) เมนาร์ด ก็ได้ทำการเดินเรือรบออกมาไล่ล่าเคราดำ แต่ เมนาร์ด ไม่ได้เข้ารบตีในทันที แต่ใช้วิธีการขับเรือตามไล่ให้หนวดดำไม่ได้พักผ่อน ซึ่งเรือรบหลวงของเมนาร์ด ได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดีทั้งเสบียงและน้ำ อาวุธเพียงพอสำหรับการไล่ล่าเคราดำในระยะยาว 

จากที่เคยหนีได้ คราวนี้ เคราดำ กลับหนีไม่พ้น ทั้งกังวลใจทั้งอ่อนแรง เสบียงอาหารก็ร่อยหรอไม่เหลือ การไล่ล่าระหว่างเมนาร์ด กับเคราดำนั้น กินเวลาถึง 2 อาทิตย์ และในวันที่สุดท้ายที่ “เคราดำ” ล้าอย่างที่สุด เมนาร์ด ก็ได้ตัดสินใจ
เข้าตีอย่างแตกหัก 

BLACKBEARD
BLACKBEARD

เคราดำที่จนมุมยืนหยัดสู้กับทหารฝ่ายศัตรูที่ล้อมหน้าล้อมหลังเขา โดยเริ่มแรกเคราดำถูกยิงลูกระเบิดใส่ไปยังดาดฟ้าเรือที่เขายืนประจำการอยู่จนบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ยังฮึดสู้ลงมาดวลดาบและยิงปืนสู้กับทหารและ เมนาร์ด จนโดนดาบศัตรูฟันทั้งด้านหน้าและหลังเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งวันที่เขาเสียชีวิตตรงกับวันที่ 22 พฤศจิกายน 1718  

กล่าวกันว่าจากการตรวจสอบศพพบว่า เคราดำ โดนยิงกว่า 25 นัด มีบาดแผลที่ถูกดาบฟันกว่า 20 บาดแผล และสุดท้าย เขาถูกเมนาร์ดตัดหัวและตรึงไว้หน้าเรือด้วยตะปู ส่วนร่างถูกโยนลงทะเล มีเรื่องเล่ากันว่าร่างไร้หัวของ เคราดำ ยังว่ายวนรอบๆ เรือหลายรอบก่อนที่จะจมทะเลในที่สุด และกล่าวกันว่า ในปัจจุบันก็ยังมีนักเดินเรือหลายๆ คน พบเห็นร่างอันไร้ศีรษะว่ายน้ำอยู่บริเวณชายฝั่งรัฐนอร์ทแคโรไลน่า ให้พบเห็นสร้างความสยองขวัญ อยู่เรื่อยๆ จนถึงบัดนี้ 

ตำนานโจรสลัดหนวดดำ