แพร่ระบาด
ตาของผมเริ่มพล่าเลือนเข้าไปทุกขณะ แต่กลับมีความรู้สึกหิวมากขึ้นทุกที ทั้งหิวทั้งกระหาย ใครก็ได้ขอน้ำให้ผมดื่มหน่อย เสียงลมหายใจหอบถี่ขึ้น จังหวะการเต้นของหัวใจเริ่มแผ่วลง นี่ผมกำลังจะตายใช่มั้ย หรือผมติดเชื้อโรคร้ายนี่เข้าไปแล้ว โธ่เอ๊ย! ผมยังไม่อยากตาย ใครก็ได้ช่วยด้วย และแล้วความมืดสนิทก็มาเยือน สติก็เริ่มขาดหาย ...
จุดเริ่มต้น
เวลา 8.30 น. วันที่ ณ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
ผมกำลังรอขึ้นเครื่องบินเพื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นกับ มิกิ สาวสวยขาวหมวยทรงโตที่ได้รู้จักกันที่ถนนข้าวสารเมื่อสองอาทิตย์ก่อน จากวันนั้นจนถึงตอนนี้เรียกได้ว่าผมโชคดีสุดๆ ต้องขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้ผมได้ช่วยเธอจากโจรวิ่งราวที่แย่งกระเป๋าเธอไป แล้วผมจับมันได้จนดูเป็นฮีโร่ในคืนนั้น หลังจากคืนนั้นผมก็อาสาเป็นไกด์และเพื่อนใจของเธอมาจนถึงตอนนี้
มิกิกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่โตเกียวและเธอชวนผมไปเที่ยวด้วย โชคดีที่ตั๋วเครื่องบินโลว์คอสพากันลดราคา ขอบคุณการตลาดแบบห้ำหั่นกันของสองแบรนด์ที่ทำให้การเดินทางไปประเทศในทวีปนี้เป็นเรื่องง่าย
ข่าวคราวการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบล่าสายพันธุ์ใหม่ยังคงป่าวประกาศทั้งในสื่อทีวีและหนังสือพิมพ์ มันเริ่มแพร่ระบาดมาจากแอฟริกา ที่เมืองไทยก็แค่เตือนไม่ให้ไปประเทศในย่านที่ติดเชื้อ แต่ผมก็เห็นหน่วยแพทย์ที่คอยตรวจร่างกายนักท่องเที่ยวหนาตาพอสมควร
เริ่มแพร่พันธุ์
เวลา 10.30 น.
ผมกับมิกิยังคงรอขึ้นเครื่องบินเช่นเดิม เพราะเครื่องดีเลย์กว่าที่คิด อากาศก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นใจนัก ฝนดันมาตกหนักเอาดื้อๆ หลายๆ เที่ยวบินเริ่มประกาศงดเที่ยวบินกะทันหัน หลายๆ คนต้องติดแหง็กเหมือนพวกผม
นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งถูกตรวจร่างกายอยู่นาน ผมเห็นบางคนไอและจามเป็นเลือด มิกิชวนผมไปหาอะไรทานระหว่างรอ นักท่องเที่ยวบางคนที่ตรวจร่างกายเสร็จก็เริ่มทยอยออกไป
ระหว่างที่ผมและมิกิรับประทานอาหารอยู่ในร้าน ก็มีชายผิวดำคนหนึ่งเป็นลมล้มฟุบไปกับพื้นระหว่างเดินลากกระเป๋าเดินทาง สักพักเขาก็ไอเป็นเลือดออกมาใส่หน้าผู้ชายอีกคนที่กำลังเข้าไปช่วยเหลือ คนเริ่มมุงกันเยอะขึ้น ไม่ทันเกินสองนาทีผู้คนก็แตกฮือ ชายผิวดำคนที่ล้มลงลุกขึ้นมาพร้อมร่างกายโชกเลือดและดวงตาแดงก่ำ
เขาหันไปกัดหนึ่งในฝูงชนที่มุงดู ฉีกกระชากอย่างน่าสยดสยอง มิกิตกใจจับมือผมแน่น คนในร้านต่างพากันกรีดร้องกับภาพความสยดสยองตรงหน้า ผมดึงมิกิออกมาจากจุดนั้นเพราะสถานการณ์เริ่มไม่ดี ผมนึกถึงหนังซอมบี้ต่างๆ ที่เคยดู
“ไม่จริงใช่มั้ย นั่นเขากลายเป็นซอมบี้” มิกิพูดเสียงสั่นระหว่างที่เราทั้งสองกำลังวิ่งลงจากบันไดเลื่อน
คำตอบยังไม่ทันหลุดจากปากของผม ผู้คนต่างวิ่งหนีกันอลม่าน ซอมบี้หลายตัวกำลังวิ่งไล่และกัดกินพวกเขา นี่มันเกิดอะไรขึ้น มันเป็นไปได้อย่างไร ผมกำลังฝันไปแน่ๆ สักพักคนส่วนใหญ่ในสนามบินก็กลายเป็นซอมบี้
ผมพามิกิลงมาชั้นที่มีสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ทลิงค์ เพราะหวังว่าจะหนีไปจากสนามบินได้ไวที่สุด ... รถไฟฟ้ามาพอดี เมื่อประตูเปิดพวกเราวิ่งพุ่งเข้าด้านในอย่างไม่คิดชีวิต แต่! กลับเป็นการเข้าไปติดกับ คนที่อยู่ด้านในล้วนเป็นศพหรือไม่ก็ซอมบี้
ผมกระชากเธอออกจากพวกมัน พยายามดึงเธอออกก่อนประตูรถไฟฟ้าจะปิด มิกิถูกกัดที่ข้อมือ นิ้วชี้ของเธอขาดเพราะแรงกระชากจากฟันของพวกมัน เธอร้องไห้บอกให้ผมหนีไป แต่ผมก็พาเธอไปด้วย
...
เราหนีมาแอบในห้องน้ำ มิกิหายใจรวยริน แผลของเธอติดเชื้อ เขียวช้ำ และเริ่มเน่า เธอบอกให้ผมหนีไปทิ้งเธอไว้แต่ผมไม่ยอม แล้วเธอก็วูบหลับไป ลมหายใจเธอขาดหาย ผมรู้แล้วว่าเธอกำลังจะกลายเป็นพวกมัน
ผมต้องตัดสินใจแล้วว่าจะทิ้งเธอไว้ที่นี่แล้วหนี หรือรอจนเธอเปลี่ยนสภาพแล้วกลายเป็นซอมบี้เช่นเดียวกัน ไม่นานเกินรอเธอฟื้นขึ้นมาพร้อมขย้ำที่คอของผม และแล้วความมืดมิดก็มาเยือนผมวูบหลับไป สติสัมปชัญญะขาดหาย
...
เสียงของมิกิดังขึ้น ผมสลึมสลือค่อยๆ ฟื้นขึ้น ผมมองไปรอบๆ มิกิยิ้มให้ เธอบอกว่าผมละเมอเสียงดังจนอายคนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ อ้าว! ผมเผลอหลับไปตอนนั่งรอเครื่องบินในร้านอาหารนี่เอง ข่าวคราวการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบล่าสายพันธุ์ใหม่ยังคงป่าวประกาศ ผมมองไปที่ชายผิวดำที่เดินมาล้มลงหน้าร้านอาหาร