‘เรื่องราวดีๆ มักมีความหมาย’ นี่คือคำนิยามของความรู้สึกที่เราอยากจะขอพูดถึงร้านกาแฟดีๆ ที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง เช่นที่เจ้าของร้านตั้งใจให้บรรยากาศเป็นไปในทุกครั้งที่ทุกคนได้ก้าวเข้ามาเยือนที่นี่ Ink&Lion Café

ดูจากชื่อร้านก็เดาได้เลยว่ามันต้องมีความหมาย ซึ่งเจ้าของร้านชายหญิงทั้งสองคนต่างก็คลายความสงสัยของเราถึงที่มาว่ามันคือความพยายามที่จะหาคำเพื่อสื่อความหมายถึง‘กาแฟกับงานศิลปะ’ เพราะทั้งสองคนต่างก็หลงใหลในงานศิลปะไม่แพ้กับเสน่ห์ของกาแฟซึ่งคำว่า Ink ในความเป็นหมึกนั้นมีพลังสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ มากมาย กาแฟ ก็เช่นกันมีเรื่องราวมากมายไม่รู้จบ เมื่อมารวมกับสัญลักษณ์เล็กๆ บนเครื่องชงกาแฟของที่ร้าน (เป็นรูปสิงโต) จึงกลายเป็น Ink&lion อย่างลงตัว

พวกเขาตั้งใจให้บรรยากาศร้านออกมาแบบเป็นกันเองสบายๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวเก๋ๆ ก็สามารถเข้ามานั่งในร้านได้แบบไม่ต้องเกร็ง จึงเลือกใช้พื้นปูนขัดมัน และเฟอร์นิเจอร์ไม้เพื่อให้ความรู้สึกดิบๆ โดยผนังรอบๆ ร้านจะใช้โชว์งานศิลปะของศิลปินที่สนใจนำงานศิลปะมาแสดงงานได้ที่ร้าน และก็ยังมีพื้นที่อีกส่วนหนึ่งเล็กๆ ด้านในร้านไว้สำหรับจัดแสดงงานได้โดยเฉพาะอีกด้วย

ส่วนกาแฟที่นี่นั้นจะมีให้เลือกสรรกันได้หลายวิธีในการชงไม่ว่าจะเป็น French Press, drip ฯลฯ แถมยังมีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลายสายพันธุ์ เพราะอยากให้ลูกค้าได้สนุกกับการดื่มกาแฟ และนิยมที่จะได้การแลกเปลี่ยนพูดคุยกันถึงเรื่องราวของกาแฟ 
ว่ามันมีเรื่องราวอย่างไร ซึ่งกาแฟที่ทางร้านใช้สำหรับชงด้วยเครื่องก็จะเป็นตัว House Brend คั่วกลาง เพราะจะเหมาะสำหรับทำเป็นกาแฟนมได้ แต่ในส่วนที่เป็น Slow bar ที่ชงมือก็จะเป็นคั่วอ่อน เพื่อที่จะได้เน้นความเป็นตัวตนของเมล็ดกาแฟได้ชัดเจน 

ที่อยากแนะนำก็คือกาแฟ ดริปเย็น เป็นกาแฟคั่วอ่อนที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละสายพันธุ์อยู่ซึ่งจะทำให้คุณตกหลุมรักในเสน่ห์ของกาแฟได้อย่างไม่รู้ลืมจริงๆ ใช้วิธีดริปด้วยน้ำร้อนที่ได้อุณหภูมิที่เหมาะสม แล้วจึงใส่น้ำแข็งเพื่อประยุกต์ให้เข้ากับสภาพอากาศและธรรมชาติการดื่มกาแฟของคนไทยที่ชอบเครื่องดื่มเย็น ซึ่งครั้งนี้เราได้ลองชิมกาแฟดริปจากเมล็ดกาแฟเคนย่า ที่ให้กลิ่นผลไม้ในลำคอ หอมกาแฟอ่อนๆ ตามสไตล์ และด้วยสายพันธุ์เคนย่ายิ่งทำให้กาแฟแก้วนี้มีเรื่องราวในการดื่มมากขึ้นเกินกว่าที่จะเขียนได้หมดในครั้งนี้

หากใครอยากลองของร้อนบ้างก็แนะนำให้ลอง เอสเปรสโซร้อน ซึ่งจะเป็น House Brend ของที่ร้านโดยเฉพาะ หอม รสเปรี้ยวติดปลายลิ้น หรือจะเป็น ลาเต้ร้อน ที่ถือว่าเนียนละมุนจนวางแก้วไม่ลงจริงๆ ทำให้เราได้รู้ว่ากาแฟนมแก้วนี้ไม่ได้ใช้กาแฟคั่วเข้ม
และไม่ได้กาแฟคั่วอ่อนบางเบาจนเราไม่รู้สึกอะไร มันจึงได้ความรู้สึกที่ประทับใจอยากกลับมาดื่มแก้วนี้อีกครั้งจริงๆ 

น่าสนใจตรงที่กาแฟที่นี่จะไม่ใช้นมข้นผสมเลย แต่จะแนะนำให้คอกาแฟเลือกระหว่างกาแฟปั่นหรือกาแฟนมเท่านั้นเมื่อสั่งกาแฟเย็น และด้วยความที่มีสไตล์ชัดเจนของที่นี่ จึงทำให้หลายคนรู้สึกประทับใจทั้งในรสชาติของกาแฟและบรรยากาศของร้านได้อย่างไม่รู้ตัว ทั้งที่เจ้าของร้านทั้งต่างก็บอกกับเราว่า “เพียงแค่ลูกค้าเข้ามาที่ร้านของเรา ดื่มกาแฟ แล้วพูดกับเราว่า ‘อร่อยจัง’ ก็พอแล้ว” 

How to go?

Ink & Lion Cafe อยู่ในเอกมัยซอย 2 เมื่อเข้าซอยไปแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแรก จะเห็นร้านอยู่ทางขวามือ www.facebook.com/inkandlioncafe