จิวายุทธ จิวาลักษณางกูร
ชายหนุ่มผู้ฝากฝีมือวาดภาพประกอบไว้ในนิตยสารมากมาย อาทิ CG+, Wallpaper, Computer Art, Damn Magazine, Le Cool Bangkok, Rare Magazine และโปสเตอร์งานอีเว้นต์มากมายกับกลุ่ม ZAAP PARTY
จิวายุทธ จิวาลักษณางกูร (มาร์ช) นักวาดภาพประกอบอิสระ จากคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เขาเป็นหนึ่งในนักวาดภาพประกอบเนื้อหอมที่มีงานชุกมากที่สุดคนหนึ่ง แถมยังส่งต่อแรงบันดาลใจให้หนุ่มสาวหลายๆ คนในเวลานี้กับ Marchroom!
จิวายุทธ จิวาลักษณางกูร
“ตอนนี้ผมวาดภาพประกอบเป็นอาชีพหลักครับ เริ่มรับวาดภาพประกอบแล้วได้ค่าจ้างมาตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะมัณฑนศิลป์ สาขาการออกแบบนิเทศศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร สำหรับการวาดภาพประกอบโปสเตอร์งานปาร์ตี้ของกลุ่ม Zapp ที่ได้เข้ามาร่วมงานกันเพราะเพื่อนของผมตอนสมัยมัธยมได้มาทำงานกับกลุ่มจัดอีเว้นต์กลุ่มนี้
“งาน thesis ผมได้รับคัดเลือกเพื่อแสดงผลงานกับทาง TCDC และ ติด 1 ใน 5 สาขา graphic ของ degree show ชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กครับ พอมีคนชมว่าวาดสวยก็เลยชอบวาด เคยวาดภาพประกวดด้วยครับ แต่ไม่ค่อยชนะเท่าไหร่ ชอบอ่านการ์ตูนชอบวาดการ์ตูน จนเมื่อตอน ม.4 อาจารย์ที่ปรึกษาก็แนะนำว่าถ้าต้องการทำด้านนี้ก็ไปหาที่ติวดีๆ เถอะ ก็ไปเรียนพิเศษกวดวิชาบ้าง มาจริงจังอีกทีช่วง ม.6 ก่อนสอบเอ็นทรานซ์ห้าเดือนเท่านั้นครับ
“สำหรับแรงบันดาลใจในวัยเด็กจะเป็นหนังสือการ์ตูนเรื่อง ‘โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษครับ’ อินมากขนาดซื้อฟิกเกอร์โมเดลของเล่นมาเก็บไว้แทบทุกตัวเลย ตอนนั้นเริ่มจากอ่านการ์ตูนก่อนแล้วก็ค่อยๆ หัดวาดตาม ตอนเด็กๆเคยคิดว่าการ์ตูนเรื่องนี้ทำไมมันโหดจังแต่พอโตขึ้นมาอีกหน่อยกลับหลงใหล เรียกได้ว่า ‘อาจารย์ฮิโรฮิโกะ อารากิ’ เป็นไอดอลของผมเลยก็ว่าได้
“ผมจะแก้ไขงานจนให้ตัวเองชอบที่สุดก่อนที่จะส่งให้ลูกค้า คือเราต้องรู้สึกชอบกับงานก่อนถ้ายังไม่ชอบตรงไหนผมก็จะแก้ไขจนพอใจให้ได้ ผลงานที่ถือว่าเป็นมาสเตอร์พีซของผมคือ Thesis ที่ทำส่งตอนเรียน เป็นโปรเจ็กต์จบที่ทุ่มเทมาก ชอบมากกว่าผลงานที่ทำแล้วได้เงินอีก เป็นงานคอนเส็ปต์ที่ผนวกเรื่องศาสนาพุทธเข้ากับแฟชั่นครับ เป็นงานออกแบบภาพรอยสัก จะทำเป็นเหมือนสติ๊กเกอร์น้ำที่ลอกได้
“พูดถึงเรื่องอัตตาครับ แต่ละชิ้นจะพูดในเรื่องที่ต่างกัน ยกตัวอย่างในรูปเสือกับสิงโต จะพูดถึงอีโก้หรืออัตตาที่ไม่ยอมกันของสองฝ่าย เหมือนการเมืองไทยในช่วงนึงที่ต่างฝ่ายต่างทำให้ตัวเองดูดีโดยการให้อีกฝ่ายดูแย่ ก็มีสอดแทรกเรื่องที่เรารู้สึกเข้าไป อย่างอีกรูปหนึ่งจะเป็นการสลับกันของตัวอักษร ถ้ามองในมุมนึงจะเป็นคำว่า Gift แต่ถ้ากลับหัวจะมองเป็นคำว่า Take สื่อเรื่องการให้และการรับ
จิวายุทธ จิวาลักษณางกูร
“ส่วนผลงานหน้าปกนิตยสาร Computer arts นั้น รุ่นพี่ในคณะเป็นคนติดต่อให้ไปทำ ผมก็รับปากเลย เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ผมชอบเช่นกัน ส่วนใหญ่เวลารับงานจากลูกค้า ถ้าเป็นเอเจนซี่เขาจะระบุความต้องการมาแล้วว่างานจะต้องเป็นแบบไหน คอนเส็ปต์คืออะไร โทนงานต้องออกมาแบบไหน ต้องการสื่อสารเรื่องอะไร ข้อดีของการเป็นศิลปินอิสระหรือฟรีแลนซ์เนี่ย คือลูกค้าเขารู้อยู่แล้วว่าเราถนัดงานแบบไหน ลายเส้นเป็นยังไง เลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของตัวงานเท่าไหร่ คือคุยกันให้จบก่อนเริ่มงานได้เลย แต่กับ Zaap Party นี่จะให้อิสระเลย งานค่อนข้างเต็มที่กับไอเดียของเรามาก สนุกครับ
“ช่วงนี้งานชุกขึ้นครับ อย่างเดือนนี้ก็มีงานที่กำลังทำค้างอยู่ 8 งาน อย่างถ้าช่วงพีคสุดก็รับมา 10 งาน คืองานวาดภาพประกอบจะรับงานมาแล้วก็มีกำหนดส่งงานกัน ไม่ได้ฟิกว่าเดือนนี้กี่งาน คือบางงานอาจใช้เวลาทำเกินหนึ่งเดือน บางงานอาจวันเดียว ขึ้นอยู่กับการดิว รายได้ก็เหมือนกัน บางงานสำหรับหนึ่งโปรเจ็กต์อาจจะได้เยอะขนาดซื้อ Mac Book ได้สองเครื่องก็มี บางงานก็ไม่เยอะ ...
“ผลงานที่คิดว่า Mass ที่สุดก็ของ Zaap นี่แหละครับ เมื่อเป็นงานปาร์ตี้เลยต้องเน้นขายหน่อย ต้องเข้าใจง่ายเหมาะกับคอนเส็ปต์งานของเขา สื่อสารให้จบในภาพเดียวเพราะเป็นงานโปสเตอร์ เป็นงานชิ้นเดียวที่ต้องสื่อสารให้ครบว่าจัดที่ไหน ใครเป็นสปอนเซอร์ ธีมงานเป็นอย่างไร แต่ผมจะพยายามทำให้เป็นงานที่มันไม่เกร่อ แม้จะต้อง Mass ก็ตาม”
จิวายุทธ จิวาลักษณางกูร
นอกจากผลงานภาพประกอบแล้ว เขายังมีโครงการที่จะทำงานศิลปะแบบ Pure Art ที่ไม่มีเรื่องของธุรกิจหรือพาณิชย์ศิลป์มาเกี่ยวข้อง
“ในอนาคตอันใกล้ก็อยากจัดนิทรรศการที่รวบรวมผลงานของตัวเองครับ อยากทำ Exhibition แบบตั้งใจทำมากๆ สักงานนึง แต่มันยังไม่มีเวลาทำเลยครับ ก็มีคิดคอนเส็ปต์ที่อยากทำไว้คร่าวๆ แล้ว จากนั้นก็อยากไปเรียนต่อต่างประเทศด้านศิลปะ อยากทุ่มเทให้กับด้านสร้างสรรค์มากกว่านี้
“สำหรับศิลปินในด้านนี้ที่ผมชื่นชอบแล้วถือเป็นศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจก็คือพี่โอ ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์เขาเป็นอาจารย์ของผมด้วย ตอนแรกไม่ได้รู้จักเขาเลย แต่พอได้เห็นผลงานก็ทึ่ง เพราะส่วนใหญ่เคยเห็นและชอบแทบทั้งนั้น ตอนนั้นผมยังไม่รู้ตัวเลยว่าอยากจะทำอะไร แต่พอมาเรียนกับพี่โอทำให้รู้ว่างานวาดภาพประกอบก็เป็นอาชีพที่ทำเงินได้ ก็เลยมีเป้าหมายชัดเจนขึ้น
“ผมคิดว่าตัวผมโชคดีมากที่มีคนสนับสนุนมีคนชอบผลงานและมาได้ถึงขั้นนี้ สำหรับน้องๆ หรือคนที่อยากวาดภาพประกอบก็อยากให้อดทน สู้ อย่ายอมแพ้ บางคนวาดดีมากทักษะดีแต่ขาดโอกาสหรือแรงบันดาลใจที่จะสร้างผลงาน คนที่จะก้าวหน้าได้ต้องอย่าหยุดทำและขยันเข้าไว้ เมื่อโอกาสเข้ามาและเราพร้อมผมว่ามีหนทางครับ
“สิ่งสำคัญก็อยากฝากเรื่องการลอกเลียนผลงานกับเส้นแบ่งระหว่างงานที่เป็นแรงบันดาลใจ เพราะบางครั้งงานที่มีความคล้ายกันมากๆ แต่คนทำเป็นคนละคนกัน จนหลายคนตั้งคำถามว่ามันคือแรงบันดาลใจหรือการก็อปปี้กันแน่”