ความสำเร็จที่สร้างได้
ความเจริญทางเทคโนโลยีทำให้คนในยุคปัจจุบันใส่ใจกับสุขภาพและความสวยความงามกันมากขึ้น จะเห็นได้ว่าธุรกิจเกี่ยวกับความงามได้มีการเติบโตมากขึ้นตามไปด้วยอย่างเช่น เช่น ผู้หญิงสวยและเก่งคนนี้ ที่ก่อตั้งธุรกิจนี้มาด้วยสองมือของตัวเองตั้งแต่แรก จนสามารถนำพาให้ “ของขวัญคลินิก” ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับแถวหน้าของวงการ แพทย์หญิงของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ วินธุพันธ์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัทของขวัญคลินิกเวชกรรม จำกัด
“จริงๆ แล้วตอนแรกเลยไม่ได้อยากเป็นหมอค่ะ เพราะชอบไปทางด้านแฟชั่นมากกว่า ใช้ชีวิตแบบ Enjoy My Life มาก คุณพ่อเป็นหมออยู่แล้วท่านบอกว่าถ้าเรียนหมอพอจบมาภาระหน้าที่มันหนักมาก โดยเฉพาะการเป็นหมอในเมืองไทย ซึ่งคุณพ่อเองก็ไม่อยากให้เราอยู่ในจุดนี้ แต่เผอิญว่าเมื่อสอบติด ทางครอบครัวญาติพี่น้องก็เห็นชอบ ก็เลยคิดว่าแค่หกปีเพื่อความสบายใจเรียนด้านนี้ก็ได้
“ต้องขอบคุณคุณหมอทุกท่านเลยนะคะ ที่เสียสละมาก เพราะการเป็นหมอเป็นอะไรที่หนักมาก เรียนก็หนัก เครียดก็เครียด การเป็นหมอไม่ใช่เรื่องง่าย หกปีที่เรียนมาทำให้ปลูกจิตสำนึกการตัดสินใจไม่เหมือนกับคนปกติทั่วไป ยกตัวอย่างเช่นตอนปีสุดท้ายหมอต้องฝึกงานที่โรงพยาบาลตำรวจ การเป็นหมอหรือตอนเรียนหมอไม่มีคำว่าปิดเทอมนะคะ ตอนนั้นทำงานสามวันถึงได้นอน มีบททดสอบจิตใจเยอะมาก ผู้ร้ายฆ่าคนมาก็ต้องรักษา เลยทำให้เรามองชีวิตคนละแบบกับคนทำอาชีพอื่นๆ อย่างเด็กอายุไม่ถึงยี่สิบแต่เป็นมะเร็งตับซึ่งสืบทอดมาจากรุ่นพ่อแม่ หรือผู้หญิงสวยแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องตายอยู่ดี ช่วยให้เขาพ้นความเจ็บป่วยได้ก็จะมีความสุขแต่ถ้าช่วยไม่ได้ก็จะเสียใจมาก คือเรากลับต้องมาเป็นทุกข์เสียเอง
“หลังจากได้ทดลองทำงานด้านนี้พอเรียนจบเรารู้สึกว่าไม่น่าจะเหมาะกับด้านนี้ ตัวหมอเองต้องการสร้างความสุขให้ผู้คนมากกว่า คนที่มีความสุขอยู่แล้วมาหาหมอแล้วยิ่งมีความสุขกลับไปมากขึ้น พอเรียนจบหกปีมีติดชื่อว่าแพทย์หญิงก็อำลาแล้วค่ะ ตอนนั้นคิดอยากทำงานด้านการตลาดหรือด้านการบันเทิงมากกว่า แต่ไม่ได้อยากเป็นดารานะ อยากเป็นคนผลิตรายการ อยากนำเสนอรายการที่ให้คนมีทัศนะคติที่ดีขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“พอคิดจะเลิกเป็นหมอ ญาติพี่น้องในครอบครัวก็มาคุยอีกว่าอุตส่าห์เรียนมาตั้งหกปี น่าจะทำอะไรเพื่อคืนสู่สังคมบ้าง สุดท้ายเราเลยพวกเขาไปว่าเจอกันครึ่งทาง เลยมาลงตัวที่ทางด้านนี้แทน เป็นหมอด้านความงาม Elastic, Plastic surgery หรือ Cosmetic หมอที่ฉีดโบท็อก ฟิลเล่อร์เก่งๆ เนี่ยไม่จำเป็นต้องจบด้านผิวหนังมาก็ได้ แต่ตัวหมอเองเรียนจบเฉพาะทางด้านผิวหนังมาจากอังกฤษ เป็นเรื่องโรคผิวหนังโดยเฉพาะ
ความสำเร็จที่สร้างได้
“สำหรับแพทย์ด้านความงามเนี่ย คนที่จะอยู่ในหนทางนี้ได้จะต้องเป็นเหมือนอาร์ตติสท์มันคือศาสตร์และศิลป์ ความงามก็เช่นกัน ไม่ใช่ว่าแค่มีเงินซื้อเครื่องเลเซอร์มาก็จะทำด้านนี้ได้นะ คือต้องมีพรสวรรค์ต้องรักด้านนี้ด้วย ในโลกนี้มีดีไซน์เนอร์หลายคนค่ะ แต่คนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ มีน้อยเหมือนกันค่ะศาสตร์ด้านความงามและการแพทย์ก็เช่นเดียวกัน
“หมอก็เหมือนดีไซน์เนอร์ค่ะ แต่ออกแบบเสื้อผ้าที่คุณถอดออกไม่ได้ ไม่เหมือนเสื้อผ้า หมอบอกกับคนไข้เสมอว่าอย่าตัดสินเลือกคลินิกหรือหมอเหมือนการซื้อสินค้า เพราะหมอคนนั้นจะตัดชุดให้คุณได้ชุดเดียวเพราะไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ให้เลือกหมอผ่าตัดศัลยกรรมความงามเหมือนเลือกแฟน เพราะอย่างหมอบอกว่าดวงตาแบบนี้สวยแต่คนไข้อาจชอบอีกแบบหนึ่งก็ได้ จมูกแบบนี้อาจจะไม่เหมาะก็ได้ ของบางอย่างอยู่บนหน้าคนอื่นสวยแต่อยู่กับเราอาจจะไม่สวยก็ได้
“สิ่งสำคัญคือต้องคุยกันต้องปรึกษาหมอให้แน่ใจก่อน เปรียบกับการเลือกแฟนเพราะบางคนหล่อมากดีมากแต่อยู่กับเราไม่ได้ บางคนอาจรู้สึกไม่ดีมากแต่กลับคุยรู้เรื่องอยู่กับเราได้นาน การศัลยกรรมก็เช่นเดียวกันค่ะ ความเหมาะสมสำคัญที่สุด เราไม่ได้เน้นทำธุรกิจแต่เราทำในสิ่งที่เราศรัทธา เพราะฉะนั้นของขวัญคลินิกจึงเติบโตเร็วมาก ต้องขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณทุกท่านที่ไว้วางใจเรานะคะ”
ของขวัญคลินิกเริ่มต้นหลังจากคุณหมอกลับมาจากเมืองนอก เมื่อ 8 ปีที่แล้ว เธอคิดต่างด้วยการเริ่มธุรกิจที่เปิดรวดเดียวถึง 3 สาขา พร้อมทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เปิดสามเดือนแรกปิดไปหนึ่งสาขาเหลือเพียงสองสาขา
“หมอเป็นคนคิดเด็ดขาดเหมือนกับเวลาโดนแมงมุมพิษกัดแล้วเป็นเนื้อร้ายสุดท้ายก็ต้องตัดทิ้งใช่มั้ยค่ะ การทำธุรกิจก็เช่นเดียวกันค่ะ เมื่อผิดโลเคชั่นก็ต้องตัดสินใจปิด ปัญหามีตั้งแต่เริ่มต้นค่ะ แต่ไม่เคยท้อนะคะ เป็นคนที่ถือคติว่า ‘It’s gonna be ok in the end. If it’s not ok, it’s not the end.’ อย่างตอนนี้ของขวัญคลินิกมีทั้งหมด 14 สาขา และกำลังขยายเพิ่มอีก อย่างตอนนี้ก็มีกำลังจะเปิดตัวที่ห้างสรรพสินค้า ดิเอ็มโพเรียมและ Bangkok Mall ตอนนี้เรามองการขยายในมุมกว้างน้อยลง แต่มองการขยายในเรื่องคุณภาพมากขึ้น ซึ่งหมอทำธุรกิจตลาด Mass ไม่เก่ง หมอเลยไม่ทำอะไรที่ Mass มากๆ ยกตัวอย่างถ้าหมอต้องทำแชมพูยี่ห้อหนึ่งแล้วต้องจ้างดารามาเป็นพรีเซ็นเตอร์เนี่ยหมอทำไม่เป็น หมอถนัดธุรกิจที่ Niche คือตัวเราใช้อะไรเราก็จะให้ลูกค้าใช้อย่างนั้นด้วย แล้วเราจะเข้าใจลูกค้าในกลุ่มนั้นๆ ไม่จำเป็นต้องมีเป็นร้อยสาขา มีน้อยแต่เน้นคุณภาพดีกว่าค่ะ
หลายคนต่างมองว่าคุณหมอเป็นไฮโซเปรี้ยวปรี๊ดใช้แต่ของเบรนด์เนมแพงๆ แต่เธอกลับบอกว่ามุมมองเรื่องนี้มีสองแบบ เสียงแรกคือการที่เห็นเธอเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการผลักดันชีวิตของตนเอง อีกเสียงจะเป็นด้านลบ ซึ่งอาจมองว่าเธออวดรวย นั่นก็เป็นสิ่งที่เธอไม่ได้สนใจอะไรนัก เพราะเธอมองว่า หากหลายคนมองว่าเธอเป็นคนที่มี แล้วขยันที่จะมีเหมือนเธอบ้างก็จะดียิ่งกว่า แต่ต้องได้มาด้วยวิธีที่ถูกต้องนี่ต่างหากคือสิ่งสำคัญ
“เพชรมันไม่ได้มีด้านเดียวค่ะ มันมีทั้งมุมที่สวยและไม่สวย ต้องอยู่ที่วิธีคิดก่อน ต้องเข้าใจทุกเหลี่ยม อย่าตัดสินใจจากสิ่งที่เห็นเพียงด้านเดียว อยากให้มองย้อนกลับไปว่าปัญหามันอยู่ที่ไหน หมอหาเงินเองมาตั้งแต่เด็กไม่เคยขอเงินแม่มาตั้งแต่อายุ 23 ปี เคยมีสื่อถามความเห็นหมอว่าคิดยังไงกับคนที่สวยแต่โง่ ใช้กระเป๋าแพงๆ ใบเป็นล้าน หมอเลยตอบกลับไปว่าคนโง่คงหาเงินเป็นล้านมาซื้อกระเป๋าไม่ได้หรอกค่ะ ถ้ามองโลกแคบคนที่เสียผลประโยชน์ไม่ใช่หมอค่ะ”