“มีแต่คนบอกว่าดวงตาของโมนิก้ามีเสน่ห์” เสียงใสๆ บวกกับรอยยิ้มทำให้หัวใจผมรู้สึกสดชื่นขึ้นในทันทีที่ได้เห็น ผู้หญิงคนนี้รอยยิ้มของเธอมีเสน่ห์พอๆ กับดวงตาของเธอเลยล่ะครับ สาวน้อยลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก มีดีกว่าคำว่า สวย เก่ง และน่ารัก ครับ

 นอกจากจะเป็นคนสวยแล้ว ด้วยลุคในวันนี้ของเธอ ผมว่าออกจะเซ็กซี่เล็กๆ แบบน่ารักๆ ด้วยซ้ำ แต่เธอกลับบอกว่าไม่ใช่คนเซ็กซี่เลย 

“ผู้หญิงคนหนึ่งจะเซ็กซี่หรือเปล่ามันอยู่ที่คนมองค่ะ ซึ่งโมว่าเรายังห่างจุดนั้นอยู่นะ โมขอเลือกเป็นคนน่ารักมากกว่าค่ะ ไม่น่าเบื่อดี สำหรับแฟชั่นเซ็ตนี้ก็ออกมาดูน่ารักๆ ไม่แรง โมชอบมาก สวย ดูดีค่ะ” 

เมื่อได้คุยกับเธอมากขึ้น ความเป็นคนเปิดเผยและตรงไปตรงมาของเธอ ก็ทำให้ผมอดที่จะเผลอนึกในใจไม่ได้ว่าควรจะจีบสาวน้อยคนนี้อย่างไรดี 

“คนที่จะเข้ามาเป็นแฟนโมตอนนี้ยาก เพราะโมยังไม่เปิดรับ กล้าพูดเลยค่ะ สงสัยอาจจะต้องเข้ามาแบบแทรกซึมจากเพื่อนก่อนถึงจะมีลุ้น จากนั้นก็ค่อยเข้ามาดูกันที่นิสัย โมต้องมองเห็นอะไรในตัวเขาสักอย่างแล้วจะเปิดใจรับเข้ามา โมเชื่อว่าการเปิดเผยความเป็นตัวตนที่แท้จริงตั้งแต่ที่รู้จักกันเลยจะดีกว่าค่ะ เพราะโมชอบที่จะเห็นความจริงใจ ของคนที่เข้ามาจีบมากกว่า” 

เหมือนเธอรู้ทันความคิด ผมเลยเปลี่ยนประเด็นไม่ให้เธอจับได้ด้วยการถามถึงผลงานที่ผ่านมา 

“โมเข้าวงการมาด้วยการถ่ายโฆษณาค่ะ มีทั้งในและต่างประเทศอย่างละเกือบ 40 ชิ้นได้ ชอบนะ เพราะเป็นงานที่เสร็จเร็ว ทำให้ให้โมยังสามารถมีเวลาเรียนกับเพื่อนๆ ได้ ส่วนงานละครก็เพิ่งมารับเมื่อโตขึ้น สามารถที่จะรับผิดชอบเวลาทั้งเรื่องเรียน เรื่องส่วนตัว และเรื่องงานได้ค่ะ”

ความสวยและน่ารักของเธอนั้นการันตีได้ด้วยตำแหน่งรองมิสทีนไทยแลนด์อันดับ 2 ของปี 2005 เมื่อบวกกับความที่เธอเป็นวีเจช่อง POP ของเคเบิลไลฟ์ทีวี ทำให้ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงได้คล่องแคล่วนัก 

“ตั้งแต่เป็นวีเจ โมพูดเยอะขึ้นมากเลยค่ะ เรามั่นใจที่จะพูดจะคุยมากขึ้น เชื่อว่าการทำงานมันสอนอะไรเราได้เยอะ เพื่อนจะเรียกว่าเป็นมนุษย์ทำงาน เพราะเพื่อนๆ ได้มีเวลาส่วนตัวไปเที่ยวกัน แต่โมต้องทำงาน แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะเพราะทุกงานที่ทำคืองานที่โมรัก มันเลยทำให้มีความตั้งใจจริงค่ะ

“ที่ผ่านมาก็มีคนนั้นคนนี้เข้ามาบ้างนะคะ แต่ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับใครสักเท่าไหร่ เพราะชีวิตทุกวันนี้มันมีเรื่องให้ทำมากมายจนไม่ได้มีเวลาจะมานั่งเหงาว่า โอ๊ย อยากมีแฟนจังเลย แต่ถ้ามีแฟน ก็เป็นสาวหวานเหมือนกันนะแต่ก็ไม่ถึงกับมากมาย อย่างเทศกาลต่างๆ จะอินมาก ของขวัญทุกชิ้นที่ได้จากโม ภูมิใจได้เลยว่าทำให้เองด้วยใจ เพราะคิดว่าของอย่างนี้มันอยู่ที่ใจล้วนๆ เลยค่ะ”

ใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างนี้ ผมว่าเธอต้องเป็นสาวโรแมนติกแน่ๆ แต่เธอกลับบอกว่า 

“โมคิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนโรแมนติกอะไรนะคะ แต่ที่รู้ๆ ยังไงๆ ก็ชอบคนโรแมนติกเป็นที่สุด เคยไปนั่งทานข้าวกับคนพิเศษ ข้างนอกร้านฝนตกหนักมาก เขาเดินออกไปนอกร้านแล้วกลับเข้ามาพร้อมช่อดอกกุหลาบแบบเยอะมากยอมรับว่าเซอร์ไพร์สนะคะ แต่ที่ประทับใจไปกว่านั้นก็คือ เขาซื้อมาจากลุงคนหนึ่งซี่งยืนขายตากฝนอยู่นานมาก เขามองเห็นความสำคัญของสิ่งรอบๆ ตัว และมีน้ำใจขนาดนี้ เล่นเอาซึ้งเลยล่ะค่ะ” 

ผมรู้สึกว่าหลงเสน่ห์ความน่ารักของเธอเข้าเต็มเปาแล้วล่ะครับ เลยลองเสี่ยงถามถึงสถานะของเธอตอนนี้ 

“ถ้ายังไม่แต่งงานก็ยังเรียกว่าโสดอยู่ใช่ใหมคะ” 

แล้วคนที่คบอยู่ล่ะ เรียกว่าแฟนได้ไหม ผมถามต่อ

“อย่าเรียกว่าแฟนเลยค่ะ เดี๋ยวแม่ดุ (หัวเราะ)”