Limitless

Limitless

ถ้ามีคนเดินมาบอกคุณว่า “คุณสามารถเปลี่ยนชีวิตได้ด้วยการกินยาเพียงเม็ดเดียว” คุณจะเชื่อไหม?

ถ้าบอกผม ผมคงไม่เชื่อ แต่สำหรับ เอ็ดดี้ มอร์ร่า นักเขียนหนุ่มในวัยสามสิบเศษ จำเป็นต้องเชื่ออย่างไม่มีทางเลือก เพราะชีวิตเขามาถึงทางตัน และท้ายที่สุดยานี้กลับเปลี่ยนชีวิตเขาไปอย่างสิ้นเชิง เรียกได้ว่าจากกำลังจะลงเหวกลายเป็นทะยานสู่สวรรค์กันเลยครับ

นี่คือพล็อตเรื่องสั้นๆ ของภาพยนตร์เรื่อง Limitless ชี้ชะตา...ยาเปลี่ยนสมองคน นำแสดงโดย แบรนดลีย์ คูเปอร์ ในบทบาทของนักเขียนตกอับนามว่า เอ็ดดี้ มอร์ร่า ประกบกับ โรเบิร์ต เดอนิโร ในบทบาทของ คาร์ล แวน ลูน เจ้าพ่อตลาดหุ้นผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งคู่ต้องทั้งจับคู่และปะทะกันในเรื่อง โดยบทภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดัดแปลงมาจากนิยาย The Dark Fields ของ อลัน กลินน์ โดยในนิยายนั้นตัวละครเอกชื่อ 
เอ็ดดี้ สปิโนล่า ก่อนจะมาเปลี่ยนเป็น เอ็ดดี้ มอร์ร่า ในแบบฉบับของภาพยนตร์

มาต่อกันที่เรื่องของยาเปลี่ยนชีวิต ยานี้มีว่าชื่อ NZT มอร์ร่าพระเอกของเรื่องได้รู้จักมันจากเพื่อนเก่าคนหนึ่งที่บังเอิญได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ประสิทธิภาพของยานี้เกินจะเชื่อ เพราะหลังจากที่กินยาเม็ดนี้เข้าไปแล้ว จากสมองที่เคยทึบ นึกคิดอะไรไม่ออก จะกลายเป็นสุดโคตรอัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยาก ยาที่ว่าจะทำให้เรื่องราวที่เคยผ่านมาในชีวิตสามารถถูกดึงมาใช้ได้อย่างถูกที่ ถูกเวลา รวมทั้งหากต้องการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ก็สามารถเข้าใจได้ในเวลาอันสั้น เช่น พูดภาษาต่างประเทศได้ในเวลาไม่เกิน 3 วัน และไม่เกิน 10 วันก็สามารถเล่นเปียโนได้ เป็นต้น และหลังจาก NZT เม็ดแรก มอร์ร่าก็ได้สร้างสิ่งที่ไม่น่าเชื่อให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ทั้งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าถูกการเจอทวงค่าเช่าห้อง จัดการงานเขียนที่คั่งค้างไว้และยังไม่ได้เริ่มเขียนแม้แต่อักษรเดียวให้ลุล่วง รวมไปถึงเปลี่ยนห้องสุดรกให้กลายเป็นวิมานบนดินได้อย่างน่าอัศจรรย์

 

ผมไม่รู้ว่าในนิยายมีระบุถึงสรรพคุณ ข้อห้าม หรือข้อกำหนดต่างๆ ของยาชนิดนี้ไว้หรือไม่ แต่ที่ทราบแน่ๆ ก็คือ ในภาพยนตร์นั้นแทบไม่มี เนื้อหาที่มาของเจ้ายาวิเศษตัวนี้นั้น ต้องบอกตามตรงครับว่า ในเรื่องไม่ได้กล่าวถึงข้อจำกัดอย่างชัดเจน เท่าที่ทราบก็คือ เวลากินเข้าไปแล้ว ร่างกายแทบไม่ต้องการกินอาหาร คนที่ติดบุหรี่สามารถอดบุหรี่ได้นานเกิน 6 ชั่วโมง และแม้ NZT จะเป็นยาวิเศษที่ช่วยเปลี่ยนชีวิตคนได้ แต่ของทุกอย่างมักมีสองด้าน NZT เช่นกัน เพราะเมื่อไรก็ตามที่คุณหยุดกิน ร่างกายคุณจะค่อยๆ อ่อนแอ และต้องตายในที่สุด

 

และเมื่อมอร์ร่ารู้ถึงโทษของมันที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเอง แถมยังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับองค์กรลึกลับที่อยากได้ NZT ด้วย ทำให้เขามีทางเลือกไม่มากที่จะจัดการเรื่องทั้งหมด และเขาก็หวังว่า NZT จะช่วยเขาได้

 

หนังใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบ Flashback เปิดเรื่องมาด้วยสถานการณ์หนึ่ง อย่างในเรื่องเป็นสถานการณ์ที่ตัวละครเอกกำลังตกอยู่ในภาวะอันตราย และกำลังตัดสินใจกระทำบางอย่าง ภาพก็วิ่งย้อนกลับไปยังเหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้น และค่อยๆ ดำเนินเรื่องไปถึงจุดต่อ และนำพาสู่เหตุการณ์ในการคลี่คลายปมตอนท้ายในที่สุด

 

มุมกล้องของภาพยนตร์เรื่องนี้ดูโดดเด่นและน่าสนใจ แต่น่าจะมีหลายคนไม่ชอบ เพราะการซูมภาพเข้าไปเรื่อยๆ เหมือนกับวัตถุต่างๆ กำลังวิ่งเข้าหาเรานั้น มีโอกาสอย่างมากที่จะทำให้คนดูปวดตา และนำไปสู่การปวดหัวในที่สุด แต่สำหรับไอเดียในการเชื่อมต่อเฟรมแต่ละเฟรมเข้าด้วยกัน ต้องยอมรับครับว่าทำได้น่าสนใจทีเดียว อย่างตอนที่ค่อยๆ ซูมภาพสมอง และกลายเป็นแผนที่จนนำไปสู่สถานที่เริ่มเรื่อง ถือว่าทำการบ้านมาดีครับ

 

ในส่วนของนักแสดง แบรนดลี่ คูเปอร์ ก็ทำได้เกือบดีครับ แต่ถ้าเทียบกับ The Hangover ที่เขาฝากฝีไม้ลายมือไว้ เรื่องนั้นสนุกกว่าเยอะครับ (แบรนดลี่ คูเปอร์ ได้รับบทนำในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเพราะว่า ไชอา ลาบัฟ พระเอกจาก Transformers ซึ่งเป็นนักแสดงที่วางตัวไว้ ประสบอุบัติเหตุจนบาดเจ็บที่แขน ทำให้ต้องเปลี่ยนคน ทำให้เขาได้รับเลือก) สำหรับ โรเบิร์ต เดอ นิโร และนักแสดงคนอื่นๆ นั้น เป็นเพียงตัวละครที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับเรื่องเท่านั้น

 

ท้ายที่สุด ไม่ว่าบนโลกนี้จะมียาที่จะเปลี่ยนสมองคุณให้กลายเป็นอัจฉริยะหรือไม่ก็ตาม แต่เคล็ดลับง่ายๆ ที่นำคุณไปสู่ความมั่งคั่งได้ก็คือ เพียงแค่คุณรู้ก่อนคนอื่นสัก 50 ก้าว เท่านั้น จะกี่พัน กี่หมื่นล้าน คุณก็หามาได้

 

ว่าแต่ว่าตอนนี้บางคนอาจจะตามหลังคนอีกเป็นร้อยก้าว พันก้าวอย่างไม่รู้ตัวก็ได้ครับ

 

 
แม้ NZT จะเป็นยาวิเศษที่ช่วยเปลี่ยนชีวิตคนได้