The Long Bar

The Long Bar

ร้านนี้มีชื่อเท่ๆ ว่า The Long Bar ครับ อยู่บนชั้นล็อบบี้ของโรงแรมแชงกรี-ลา ที่มาของชื่อร้านก็คงเดาได้ไม่ยากครับ เพราะเขามีเคาน์เตอร์บาร์ยาวที่เรียกว่ายาวที่สุดในกรุงเทพฯ ก็ว่าได้ โดยยาวถึง 14.2 เมตร ได้รับการออกแบบและตกแต่งโดย บริษัทวิลสันแอนด์แอสโซซิเอทส์ ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบตกแต่งภายในนานาชาติที่มีชื่อเสียงมาก เคาน์เตอร์บาร์นี้อยู่ในโทนสีน้ำตาลธรรมชาติ แม้สีสันจะไม่ฉูดฉาด แต่ก็ไม่ดูแห้งแล้ง เพราะถูกกระตุ้นความรู้สึกด้วยแสงสีม่วง รวมทั้งแสงจากโคมไฟที่ประดับบนผนังไม้ด้านหลังก็สว่างเรืองรอง ทำให้ดูทันสมัย

 

The Long Bar เน้นเสิร์ฟเครื่องดื่มเก๋ๆ และอาหารว่างในสไตล์อิตาเลียน เครื่องดื่มที่แนะนำก็อย่างเช่น เฟลิตวิธมี ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มค็อกเทลสูตรพิเศษสร้างสรรค์ที่มีส่วนผสมของดอกกุหลาบสีแดงสด วอดก้าราสเบอร์รี ราสเบอร์รี่เข้มข้น น้ำแครนเบอร์รี และน้ำสับปะรด หรือจะเป็น ริเวอร์แคว ที่มีส่วนผสมของวอดก้า มะกรูด เหล้าแตงโม น้ำแอปเปิ้ล น้ำมะนาว และน้ำเชื่อม ส่วนใครที่เป็นคอกาแฟ The Long Bar ก็มีแก้วพิเศษที่ต้องลองคือ คาราเมลคาปูชิโน่ และ 
คอฟฟี่อาฟเตอร์เอท ที่มีส่วนผสมของซอสช็อกโกแลตขาว นุ่มละมุนลิ้น น่าลิ้มลองมากครับ

 

ในส่วนของเมนูอาหารแม้จะบอกว่าเป็นอาหารว่างสไตล์อิตาเลียนที่น่าจะให้ความรู้สึกเบาๆ สบายท้อง แต่เชื่อเถอะครับว่าเมื่อได้กินแล้วจะให้ความรู้สึกอิ่มแบบพอดีๆ

 

เริ่มแรกที่เข้ามานั่งลงบนโซฟานุ่มๆ ของ The Long Bar ก็จะมีขนมให้กินเล่นๆ เพื่อรองท้องไปพลางๆ ก่อน ส่วนอาหารจะค่อยๆ ทยอยมาหลังจากที่สั่งไปได้ไม่นานครับ

 

จานแรกเหมาะที่จะเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยมากๆ ก็คือ Texmex Nachos หรือในชื่อไทยๆ ว่า ข้าวโพดทอดกรอบเม็กซิกันซอส โดยจะถูกเสิร์ฟใส่ถ้วยเก๋ๆ มีสไตล์ และมีซอสให้เลือกจิ้ม 3 แบบ แบบแรกคือ ชีสซอส ซึ่งให้รสหวานหอมมากๆ แบบที่สองซอสมะเขือเทศแบบปรุงพิเศษ ที่มีส่วนผสมทั้งหอมแดง กระเทียม และผักชีฝรั่ง ส่วนแบบสุดท้ายคือซอสอะโวคาโด ที่ให้รสชาติออกเปรี้ยวนิดๆ ใครชอบแบบไหนก็เลือกจิ้มได้ตามชอบ

 

Parma ham With Grissini พาม่าแฮมพันขนมปังกรอบ ถูกเสิร์ฟมาเป็นจานที่สองหลังจากที่ผมกำลังลิ้มลอง Texmex Nachos พร้อมกับจิบเครื่องดื่มไปพลางๆ โดยจานนี้จะเสิร์ฟมาเป็นจานแนวยาวๆ เพื่อให้เข้ากับค็อนเส็ปต์ของ The Long Bar เนื้อแฮมที่พันรอบขนมปังกรอบนั้น นุ่ม และหวานมาก มีรสเค็มนิดๆ ของเนื้อที่ผ่านการหมักมา ความกรอบของขนมปังหลังกัดควบคู่กับเนื้อแฮมก็ให้ความรู้สึกดีมากเวลากิน กินแล้วอยากกินอีก ว่าแล้วก็หันไปขอเพิ่มอีกสักสองแท่ง

 

หลังจากที่ลิ้มลองสองจานแรกจบไป ระหว่างที่จิบน้ำดื่ม Fresh Oyster ก็ลอยมาวางอยู่ตรงหน้า ผมว่ามันเป็นช่วงจังหวะที่เหมาะเจาะมากๆ เพราะหอยนางรมสดๆ ตัวโตๆ กับน้ำจิ้มที่เสิร์ฟมาแบบเก๋ๆ ในรูปแบบของหลอดบีบ ก็ให้ความอร่อยมากๆ หอยนางรมของที่นี่เป็นหอยนางรมประจำถิ่นของเกาะทัสมาเนีย หอยนางรมทัสมาเนียนั้นเป็นหอยนางรมที่มีชื่อเสียงของออสเตรเลีย เปลือกนั้นจะหนา เนื้อนุ่ม และมีกลิ่นที่สดใหม่กว่าหอยนางรมประเภทอื่นๆ

 

อีกหนึ่งจานที่ไม่ควรพลาดก็คือ Homemade Indian Samosa โดยเนื้อแป้งของ Samosa นั้นกรอบอร่อยมากๆ ส่วนไส้ก็เข้ากันได้ดีกับเนื้อแป้ง ตอนแรกนึกว่าเป็นเนื้อหมู แต่พอได้ลองถามดูแล้ว ไส้ในกลับเป็นไส้ผัก นับว่ารสชาติดีมากสำหรับจานนี้

 

ใครที่ชื่นชอบการกินชีสเป็นชีวิตจิตใจ The Long Bar ก็มีจานเอาใจคนรักชีสเป็น Italian Cheese Selection ประกอบไปด้วย gorgonzola, taleggio, pecorino toscano, grana padano และมีแครกเกอร์ใส่ถ้วยไว้ให้กินคู่กับชีสครับ จานนี้ถึงกลิ่นจะไม่ค่อยคุ้นชินนัก แต่สำหรับคนชอบชีสแล้ว ผมการันตีว่าน่าจะเป็นจานโปรด

 

ที่นี่ยังมีอาหารจานอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายครับ เช่น ลูกชิ้นลาบหมูทอด ปีกไก่บาร์บีคิวกับน้ำจิ้มบลูชีส เป็นต้น เพราะฉะนั้น The Long Bar จึงเป็นอีกทางเลือกที่จะทำให้คุณผ่อนคลายหลังจากสู้กับงานหนักมาตลอดทั้งวัน ที่นี่ยังมีดนตรีเพราะๆ ให้คุณได้ฟังอีกด้วย ว่าแล้วผมขอตัวไปนั่งผ่อนคลายอารมณ์พร้อมๆ กับมองวิวแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนนะครับ

 

How to Go?

จากรถไฟฟ้าสถานีตากสินมุ่งหน้าไปทางสีลม สังเกตซ้ายมือก่อนจะเลี้ยวเข้าสีลม จะมีป้ายทางเข้าโรงแรม ตรงเข้าไปประมาณ 500 เมตร โรงแรมอยู่ซ้ายมือ เดินตรงเข้าไปที่ชั้นล็อบบี้ The Long Bar อยู่ฝั่งขวามือครับ เปิดตั้งแต่ 7.00-24.00 น. โทรศัพท์ 0-2236-7777 ต่อ 6286

ร้านที่นั่งสบาย วิวสวย เพื่อนั่งดื่ม