10Misbelieve

10Misbelieve

1. ชาเขียวเพื่อสุขภาพ

 ความเชื่อนี้ฮิตที่สุดเมื่อหลายปีก่อน ถึงขั้นทำให้ทำอะไรก็ต้องเอาชาเขียวมาเป็นส่วนประกอบ ไม่เว้นแม้กระทั่งผ้าอนามัยก็ปัจจุบันก็ยังคงความฮิตต่อเนื่องแม้ว่ากระแสจะน้อยลงก็ตาม แต่นั่นก็ทำให้คนไทยเคยชินกับการกินชาเขียวแทนการดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำอื่นๆ โดยความเชื่อนี้คือในชาเขียวจะมี Cathechin ที่มี EGCG อันเป็นสารตัวเอกในการต้านอนุมูลอิสระ และสามารถยับยั้งการเกิดมะเร็งต่างๆ ได้ สาร Cathechin ที่ว่านั้นไม่ได้มีเฉพาะชาเขียวเท่านั้น ชาดำหรือชาจีนก็มีเช่นกัน แต่อาจจะไม่มากเท่าชาเขียว และนั่นทำให้ชาเขียวกลายเป็นทุกคำตอบของสุขภาพไป แต่ในความเป็นจริงแล้วระดับความเข้มข้นของ EGCG ที่สามารถจัดการกับมะเร็งได้นั้น จะเทียบเท่าการดื่มชาเขียวแบบเข้มข้นไม่ผสมน้ำตาลวันละอย่างต่ำ 10 แก้ว ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันมะเร็งได้แล้ว ของแถมที่ตามมาก็คือ เจ้าสาร Tannin ที่เป็นสาเหตุของการเกิดอาการท้องผูก และนั่นทำให้ไม่ต้องคิดต่อเลยว่าชาเขียวที่มีน้ำตาลผสมอยู่นั้นจะสามารถช่วยดูแลสุขภาพของเราให้ยืนยาวปราศจากโรคต่างๆ ได้อย่างไร

 

2. เดินลงดีต่อเข่ามากกว่าเดินขึ้น

เวลาที่จะให้เลือกระหว่างเดินลงบันไดกับเดินขึ้นบันได หลายคนคงจะเลือกเดินลงบันไดมากกว่า หนึ่งเพราะไม่ต้องรู้สึกเหนื่อยมาก และสองทำให้ไม่ปวดขา ปวดเข่าเวลาเดินอีกด้วย ความเชื่อนี้อาจจะไม่จริงแล้วเมื่อผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยทั้งไทยและต่างประเทศเห็นตรงกันว่า การเดินลงทางลาดชันรวมไปถึงบันไดนั้น มีความเค้นความเครียดเกิดขึ้นที่ข้อและตัวกระดูกอ่อน
ของเข่ามากกว่าการเดินขึ้น รวมทั้งมีโอกาสสร้างความบาดเจ็บได้มากกว่า และที่เราคิดว่าการเดินขึ้นน่าจะทำร้ายเข่ามากกว่านั้นเป็นเพราะเวลาที่เราเดินขึ้น เราจะล้าและปวดกล้ามเนื้อมากกว่าเวลาเดินลงนั่นเองครับ

 

3. กระดูกพรุนต้องกินแคลเซียม

ความเชื่อนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความเชื่อที่ว่ากระดูกของร่างกายมนุษย์เรานั้นมีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้นเมื่อเกิดภาวะกระดูกพรุน ก็เลยคิดว่าการกินแคลเซียมเข้าไปมากๆ จะช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงได้ แต่ในความเป็นจริงนั้น การกินแคลเซียมเสริมเข้าไปในร่างกายอย่างเดียวอาจจะไม่ใช่คำตอบของการแก้ปัญหา เพราะการเสริมกระดูกของร่างกายมนุษย์เรานั้นมันมีกลไกและความซับซ้อนหลายอย่าง เช่น อัตราส่วนแคลเซียมต่อแมกนีเซียมที่ใช้ในการดูดซึมเพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุดรวมไปถึงการใช้วิตามินดีให้พอเพียงกับปริมาณแคลเซียมที่ได้รับเพิ่มมา เพราะหากมีวิตามินดีไม่มากพอร่างกายก็ไม่อาจดูดซึมแคลเซียมที่ได้รับเพิ่มไปใช้ได้อยู่ดี 

ดังนั้นการกินแคลเซียมเสริมเข้าไปในร่างกายนั้น ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของการแก้ไขโรคกระดูกพรุนอย่างแน่นอน แต่การออกกำลังกายอย่างเป็นประจำและต่อเนื่อง มีโอกาสทำให้ร่างกายได้รับความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนน้อยลง และหากสงสัยว่ามีอาการเริ่มต้นของภาวะกระดูกพรุน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกจะดีกว่า

 

4. ซาวน่า ยิ่งอบนานยิ่งสุขภาพดี

ความเชื่อนี้ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะทุกครั้งที่เราออกจากห้องซาวน่าแล้ว น้ำหนักจะลดลงไปหลายขีด แล้วก็จะรู้สึกสบายตัวเป็นอย่างมาก เลยกลายเป็นความเชื่อที่ว่ายิ่งนานยิ่งดี แต่ในความเป็นจริงแล้วมีคนเคยเกือบเสียชีวิตเพราะนั่งในห้องซาวน่านานจนเป็นลมไปเลยก็มี ดังนั้นความเชื่อนี้เห็นทีจะไม่ถูกต้องการอบซาวน่าหรืออบสมุนไพรที่จะให้ได้ประโยชน์จริงนั้น ชาวฟินแลนด์ต้นตำรับเขาระบุไว้ว่าต้องเป็นการอบร้อนสลับเย็น โดยอบร้อนเป็นเวลาประมาณ 3-5 นาที จากนั้นก็ลุกออกไปแช่น้ำเย็นประมาณ1-2 นาที โดยทำสลับกัน 3 รอบ การทำแบบนี้จะส่งผลให้ร่างกายได้รับการกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดี เลือดลมเดินสะดวกและรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย

 

5. น้ำตาล ของหวาน ช่วยให้สดชื่น

เวลาที่เรารู้สึกเหนื่อย กระหาย อ่อนเพลียนั้น การดื่มน้ำหวานหรือกินของหวานๆ เข้าไปจะทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นได้ ความคิดแบบนี้มีหลายๆ คนที่เชื่อเช่นนั้น และให้ความหวานเป็นทางออกของชีวิตเสมอๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การกินของหวานหรือดื่มน้ำหวานนอกจากจะไม่ช่วยให้หายจากอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรงแล้ว ยังจะทำให้ร่างกายเรายิ่งแย่ลงไปอีกด้วย เพราะเมื่อเรารับน้ำตาลเข้าไปในร่างกาย ร่างกายก็จำเป็นต้องใช้วิตามินบีร่วมในการเผาผลาญเสมอๆ และเมื่อไรที่วิตามินบีหมด ร่างกายก็จะเข้าสู่ภาวะพร่องวิตามินบี ผลที่ตามมาก็คือเหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรงนั่นเอง ดังนั้นใครที่อยากสดชื่น ลองเปลี่ยนมาเป็นน้ำสะอาดๆ สักแก้วน่าจะช่วยได้ดีกว่าเยอะ

 

กินหมูย่าง เนื้อย่างให้ปลอดภัยต้องย่างให้สุก

อากาศในช่วงนี้เริ่มหนาวๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว ทำให้ผู้คนนิยมกินหมูย่าง เนื้อย่างกันมากขึ้น นายแพทย์วิวรรธน์ ก่อวิริยกมล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย จึงออกมาแนะนำว่า ให้เลือกร้านที่น่าไว้ใจ เพราะอาจมีร้านบางแห่งที่ไม่ห่วงใยสุขภาพผู้บริโภคใช้น้ำยาที่เป็นอันตรายอย่าง ฟอร์มาลีน หรือ น้ำยาล้างห้องน้ำ มาแช่เนื้อเพื่อให้เนื้อดูสดใหม่ โดยให้สังเกตเนื้อที่นำมาย่างนั้นต้องไม่มีสีแดงจัดเกินไป สีผิวต้องสม่ำเสมอ ไม่มีลักษณะเม็ดสาคูฝังเนื้อ และเพื่อหลีกเลี่ยงการเจอพยาธิต่างๆ ก็ควรย่างให้สุก แต่ก็ไม่ควรเกรียมเกินไป เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการสะสมสารก่อมะเร็ง 

 

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวไม่ใช่ยาวิเศษ 

หากมีใครเดินมาบอกคุณว่า ผลิตภัณฑ์นี้กินแล้วสามารถรักษาโรคมะเร็ง หัวใจ รูมาตอยด์ ภูมิแพ้ แก้อัมพฤกษ์ อัมพาต เบาหวานความดัน ฯลฯ ได้แล้ว หากคุณเชื่อ คุณอาจกำลังตกเป็นเหยื่อทางธุรกิจและสูญเสียโอกาสในการรักษาอย่างถูกวิธีก็ได้โดย..พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบเกี่ยวกับการโฆษณาผลิตภัณฑ์น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว โดยระบุสรรพคุณ รักษาโรคต่างๆ ได้และมีการอ้างผลจากผู้รับประทาน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีข้อเท็จจริงทางวิชาการยืนยันได้ถึงความน่าเชื่อถือ และได้แจ้งเตือนไปยังผู้ทำการโฆษณาให้ระงับการโฆษณาและดำเนินการตามกฎหมายแล้วใครที่กำลังคิดหาวิธีรักษาโรคเหล่านี้อยู่ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดจะดีกว่าครับ

 

ยาไซบูทรามีนถูกถอด 

จากที่ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมกาแฟสำเร็จรูปเพื่อลดความอ้วน ได้แอบใส่ยาไซบูทรามีนเพื่อหวังให้ผลลดความอ้วน และนำมาเป็นจุดขาย ทาง อย. ก็ได้เรียกคืนและยกเลิกยาที่มีส่วนผสมของไซบูทรามีนออกจากท้องตลาดก่อนหน้านั้นยาชนิดนี้ได้รับอนุมัติให้จำหน่ายในประเทศไทยสำหรับลดน้ำหนักในผู้ป่วยโรคอ้วนหรือน้ำหนักเกิน ที่ไม่มีประวัติเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด แต่หลังจากพบว่ายาชนิดนี้มีผลทำให้ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มมากขึ้น ก็ทำให้ทาง อยตัดสินใจถอดยาชนิดนี้ออกจากตลาด และแนะนำให้ออกกำลังกายแทน 

ฉบับที่แล้วว่ากันไปถึง 5 ความเชื่อเรื่องสุขภาพ