คุณตาล อัครพัจน์ ตั้งตรงจิตร คือทายาทผลิตภัณฑ์สุดคล้าสสิคนั่นคือ ยาเขียว-ยากวาดตราใบโพธิ์ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงคนนี้เป็นผู้บริหารและเจ้าของผลิตภัณฑ์สมุนไพรตรา เฌอเอม ที่เขาบอกว่าได้คิดริเริ่มมันขึ้นมาด้วยตนเอง ถือเป็นการต่อยอดการทำงานเกี่ยวกับสมุนไพรที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กๆ 

“ที่บ้านผมทำยาเขียวตราใบโพธิ์อยู่ ทำมาเป็นร้อยปีแล้ว พอผมเรียนจบจากอเมริกา กลับมาก็คิดจะสร้างผลิตภัณฑ์ขึ้นมาในตอนนั้นเรามีความรู้เรื่องยาอยู่ แต่ยังไม่มีใครทำยาสมุนไพรตัวนี้ขึ้นมา เราก็เลยลองเอามาทำดู เราอยากทำแบรนด์ใหม่ขึ้นมา ก็คิดว่าจะเป็นชื่ออะไรดี สุดท้ายได้ชื่อว่า เฌอเอม ทำออกมาทั้งยาดม ยาทา ยานวด ปัจจุบันก็ทำมาเกือบสิบปีแล้ว”

วันนี้ยาสมุนไพรแบรนด์ เฌอเอม มีจัดจำหน่ายอยู่ในร้านค้าและร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ แม้แต่ในต่างประเทศก็ยังมียอดสั่งซื้อ ไม่ต้องพูดถึงยอดจำหน่ายที่มีอย่างต่อเนื่อง

นอกจากงานด้านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สมุนไพรแล้ว เขายังแตกไลน์ออกมาทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ นั่นคือเป็นผู้บริหารของเฌอ รีสอร์ท ที่ตั้งอยู่ติดกับชายหาดชะอำ โดยเปิดให้บริการยังไม่ถึงปี ก่อนทำโครงการนี้คุณตาลเล่าว่ามีการวางแผนมาเป็นปีเหตุเพราะเป็นงานใหม่ที่ไม่ถนัด จึงต้องทำทุกอย่างให้รอบคอบ 

โดยชื่อของ เฌอ รีสอร์ท มาจากตัว “ฌ” ที่หมายถึงพันธุ์ไม้ต่างๆ ทำให้ซึ่งการดีซายน์ และออกแบบส่วนใหญ่มาจากแนวคิดของคุณตาลที่ใส่แมกไม้เพื่อให้ดูร่มรื่นในสไตล์โมเดิ้ร์นขาวดำ เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว และยังใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างคุ้มค่ามากที่สุด

ปัจจุบัน เฌอ รีสอร์ท มีห้องพักทั้งหมด 36 ห้อง กับ 5 ค็อนเส็ปต์ ที่ลงตัว ประกอบไปด้วย “Sky Jacuzzi Beach Front Villa” (2 ห้อง) ออกแบบมาอย่างเรียบหรูที่ตั้งอยู่หน้าหาด แถมยังมีจากุซซี่ลอยฟ้า สูงจากพื้นถึง 3 เมตร “Blissfully Green Villa” (8 ห้อง) จุดเด่นของห้องนี้คือห้องที่สามารถแช่ใน Bathtub ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติอย่างโรแมนติก “The Pool Paradise” (6 ห้อง) ห้องนี้จะมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่แบบเป็นส่วนตัว “The Sea Spirit” (6 ห้อง) สไตล์ของห้องนี้จะเป็นDaybed ส่วนตัว ในห้องพักขนาดใหญ่ ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ และสุดท้าย “Panoramic Sea view” (14 ห้อง) เป็นห้องพักในมุมสูงจากชั้น 3 และชั้น 4 ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ไกลมาก

“บางคนบอกว่ารีสอร์ทเมืองไทยมีความหลากหลายมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็น แนวฝรั่งไทยจีนญี่ปุ่น บางคนมองว่ามันจะเป็นแนวที่มาไวและไปไวรึเปล่า แต่ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ร่วมสมัย มันจะอยู่ไปเรื่อยๆ ไม่ได้หวือหวา ในค็อนเส็ปต์ของเราจริงๆ คือเราอยากได้รีสอร์ทที่อยู่บนชายหาด แต่มีความร่มรื่น จริงๆ เราแยกตลาดออกมาแล้วว่าเราจับกลุ่มวัยรุ่นที่มาทะเลแต่ไม่ชอบน้ำทะเลความร่มรื่นของเราจึงนำต้นไม้เข้ามา อย่างที่สองคือความเป็นโมเดิ้ร์นร่วมสมัย แต่อยู่ได้นาน อย่างสุดท้ายคือต้องมีความเป็นส่วนตัว”

ในปีหน้าคุณตาลยังมีแผนขยายรีสอร์ทเพิ่มโดยการสร้างโครงการที่สองขึ้นมา หลังจากลองผิดลองถูกแล้วพบว่าได้ผลตอบรับที่ดีมาก จนเป็นที่ทราบแน่ชัดแล้วว่าการลงทุนทำรีสอร์ทในลักษณะนี้ยังไปได้สวย แต่จะเพิ่มความแปลกใหม่เข้ามาตามคอนเส็ปต์ของนักคิดและนักศิลปะที่อยู่ในตัวของเขา ตามแบบฉบับแนวคิดการทำงานที่ใครๆ ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้

“ผมเป็นคนที่ไม่คิดว่างานที่ทำเป็นงาน แต่ผมคิดว่ามันคืองานอดิเรก เราชอบอะไรเราก็ทำไปเรื่อยๆ ผมมี 2 คอนเส็ปต์ในการทำงานคือ ทำงานเพื่อจุดประสงค์หนึ่งในชีวิต เช่น อยากได้เงิน หรือความใหญ่โต กับทำงานในสิ่งที่ตัวเองรัก ตอนนี้ผมทำงานในสิ่งที่ตัวเองรัก ไม่ได้ฝืนใจตัวเอง แล้วผลงานมันจะมีทั้งสองด้าน คือถ้ามันดี เราก็มีความสุขกับมัน หรือถ้ามันไม่ดีเราก็ยังมีความสุขเพราะเราได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก”

Know Him!

• เขาจบการศึกษาปริญญาตรี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท MBA Finance ที่ Eastern University ประเทศสหรัฐอเมริกา 

• ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ สมาคมผู้ผลิตยาสมุนไพรแห่งประเทศไทย

• นอกจากงานอดิเรกการสะสมกล้องโบราณแล้ว คุณตาลยังชอบขับมอเตอร์ไซค์ ซุปเป้อร์ไบค์กับกลุ่มเพื่อนๆ ออกต่างจังหวัดและยังชอบวาดภาพสีน้ำมันอีกด้วย