Ta-Lum-Bar

Ta-Lum-Bar

ด้วยวงจรชีวิตเยี่ยงนี้ สวรรค์ของผมจึงมีอยู่แค่ช่วงเย็นวันศุกร์-เสาร์เท่านั้น แต่แล้วในที่สุดผมก็มาเจอกับร้านที่จะทำให้สองวันของผมมีค่า ไม่ต้องเสียใจที่ไม่ได้ไปที่ไหน ร้านนี้ชื่อ “ตะลัมบาร์” ครับ

 

ผมเองขับรถผ่านร้านนี้ทุกวัน แต่บอกตามตรงว่าไม่สบโอกาสได้แวะเวียนเข้าไปสักที แต่ครั้งนี้ได้พี่กั๋ง ปืนโต แห่งคอลัมน์ Sex Tips พี่ใหญ่แห่งกองบรรณาธิการของเราเป็นคนนำเที่ยวครับ ด้วยเจ้าของร้านแห่งนี้เป็นรุ่นน้องที่รักของพี่กั๋ง นั่นเอง พี่กั๋งย้ำนักย้ำหนาว่า “ร้านนี้เด็ด” พูดแล้วพูดอีก ชวนให้สงสัย

 

เมื่อมาถึงร้าน ที่นี่ตกแต่งเสมือนเป็นบ้านที่เอาไว้พักผ่อน โดยแบ่งออกเป็นสองโซน คือโซนในบ้านและโซนที่เป็นสวนบรรยากาศของร้านเย็นสบายไม่ว่าจะเป็นข้างในหรือข้างนอก มีโต๊ะพูลและห้องส่วนตัวชั้นสองซึ่งดัดแปลงเป็นคาราโอเกะสำหรับเลี้ยงกัน
แบบส่วนตัว ตอนที่ผมมาถึงนั้นทุกโต๊ะล้วนถูกจองแล้วทั้งสิ้น พี่กั๋งของเราได้ทีเลยพูดขึ้นว่า “นี่ถ้าไม่ได้พี่จองไว้ก่อนนะ พวกเอ็งอย่าหวัง” ยิ่งพูดยิ่งอยากจะรู้แล้วล่ะครับว่าอะไรที่เป็นทีเด็ดของร้านนี้อย่างที่พี่กั๋งว่าเอาไว้

 

ในที่สุดเรื่องเด็ดก็เปิดเผย มีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันครับ เรื่องแรก อาหารครับ อาหารและเครื่องดื่มที่นี่แซ่บมากๆ เน้นไปทางอาหารรสจัดจ้าน จะเป็นอาหารแบบกินจริงจังหรือจะเป็นกับแกล้มก็ได้ โดยแขกที่มาที่ร้านส่วนใหญ่ก็จะมากินข้าวและนั่งดื่มอยู่ยาวไปจนดึก “เอ็งไม่ต้องสั่ง เท็ดดี้ เดี๋ยวพี่สั่งเอง” ผมนึกในใจว่านี่มันบังคับกันกินเลยนะเนี่ย แต่ถึงจะโดนบังคับยังไงก็ไม่ผิดหวังครับเพราะที่สั่งมาแต่ละอย่างอร่อยทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นลาบทอด ปอเปี๊ยะห่อชีส ปีกไก่รมควัน ที่เด็ดมากๆ ก็คือ หมูตุ๋นหม้อไฟ ยำหมูแดดเดียว และปอเปี๊ยะสติ๊ก ทำให้พวกผมทั้งสามคนเป็นใบ้ไม่พูดไม่จา ตั้งหน้ากินกันลูกเดียว ตบด้วยเครื่องดื่มของทางร้านที่เป็นค็อกเทลแก้วยักษ์คือ แสงโสมปั่น ที่เลือกสีได้ และ สี่คูณร้อย เครื่องดื่มสีแดงรสชาติกลมกล่อม ดื่มเพลินจนวางแก้วไม่ลง

 

เรื่องเด็ดเรื่องที่สอง ดนตรีที่นี่เป็นดนตรีสดและสไตล์ไม่ซ้ำกันเลยสักวันครับ เพราะทางร้านไม่ต้องการความจำเจ จึงไม่มีการกำหนดว่าวันนี้ต้องเป็นร็อค วันนี้ต้องเป็นฮิพฮอพ ในแต่ละอาทิตย์จึงไม่มีดนตรีซ้ำเลย บางวันก็เป็นสกา บางวันก็เป็นแจ๊ส ก็ให้ความบันเทิงไปอีกแบบครับ โดยในแต่ละวันจะมีวงดนตรีมาเล่นด้านในร้าน 2 วง และ ด้านนอกร้าน 2 วง พอถึงวันศุกร์-เสาร์ ก็จะเพิ่มเป็น 3 วง

 

เรื่องสุดท้ายซึ่งเป็นเรื่องที่พี่กั๋งของเราให้ความสำคัญมากที่สุดจนต้องลากพวกเรามาที่นี่ให้ได้ครับ เรื่องสาวๆ นั่นเองครับ สาวๆ ที่นี่ไม่รู้ว่าไปหากันมาจากไหนครับ หล่นลงมาจากสวรรค์กันทั้งนั้น ทางร้านเขาคัดหน้าตาคนเข้ามาในร้านด้วยหรือเปล่าก็ไม่ทราบนะครับ งามไปหมด ทำให้ผมที่หงอยๆ กลับชื่นมื่นขึ้นมาทันที ที่ฮามากก็คือที่ร้านมีขึ้นป้ายบอกอาณาเขตตัวใหญ่ชัดเจนว่า “จุดชมชะนี” เขียนอย่างนี้ไม่มองสาวๆ ก็เหมือนจะเป็นการผิดต่อสถานที่ครับ

 

สรุปได้ครบ 3 ข้อแบบนี้ ผมไม่อิจฉาคนไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วล่ะครับ

อิจฉาคนที่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัด