สำหรับคำว่า “ข้าวตังหน้าตั้ง” นั้นก็เป็นเสียงเอื้อนเอ่ยของบริกรที่ต้อนรับผู้มาเยือน บ่งบอกถึงชื่อของอาหารไทยที่คุณกำลังจะได้กิน ข้าวตังหน้าตั้งเป็นอาหารโบราณที่มีมาเนิ่นนานแล้ว นับได้ว่าเป็นการเปิดมื้ออาหารด้วยความประทับใจ เพื่อระลึกย้อนกลับไปในอดีต ชีวิตวัยเด็กอาจเดินแล่นผ่านความคิดให้ติดสปริงหวนนึกย้อนถึงอดีตเมื่อกาลก่อน กลิ่นของหมูและกุ้งที่คลุกเคล้าส่วนผสมอย่างกะทิและ  สมุนไพรไทย เข้ากันอย่างลงตัว ข้าวตังกรอบเคี้ยวเพลินจนเกินห้ามใจว่าชิ้นเดียวคงไม่พอ

ลิ้มรสชมบรรยากาศเป็นเพียงจุดเริ่มต้น การแสดงที่เพลิดเพลิน อ่อนช้อย เรียบง่าย สง่างามตามติดมาอย่างแช่มช้า หลังเสิร์ฟอาหารจานถัดๆ มา ฉุยฉายสุดแสนจะนำพา ก็งดงามให้เจริญจิต คิดแล้วบันเทิงใจ

“โหม่งงง... ไก่ห่อใบเตย”  ความหวานของเสียงไม่ได้ลดลง แถมน้ำเสียงการพูดก็น่าฟังยิ่งขึ้น ไก่ห่อใบเตยที่ถูกเสิร์ฟบนถ้วยทรงสูง เนื้อไก่ชิ้นโตถูกห่อด้วยใบเตยส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจ ใต้ชิ้นไก่น้ำซอสซีอิ้วดำหวานช่วยเพิ่มรส ไก่ที่ถูกห่อไม่ต้องแกะใบเตยออก แต่หยิบทั้งชิ้นและกัดกินได้อย่างเอร็ดอร่อย ใบเตยถูกทอดจนหอมกรอบ กลิ่นสมุนไพรไทยหมักจนเข้าเนื้อไก่หอมกรุ่น

ระหว่างการเดินทางของอาหารมื้อนี้รวมเบ็ดเสร็จใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง อาหารรวมทั้งสิ้น 13 จาน พร้อมการแสดงสวยงาม 9 ชุด ในแบบผสมผสานระหว่างความเป็นไทยและสากล โดยการแสดงทุกชุดได้รับฝึกสอนมาจากครูเล็ก ภัทรวดี มีชูธนเจ้าของโรงเรียนสอนการแสดงภัทราวดีเธียเตอร์

สำหรับอาหารจานถัดมาในวันนี้เป็น ทอดมันกุ้ง ที่เนื้อกุ้งผสมคลุกเคล้ากับเนื้อหมูชั้นดี และเป็นสูตรเฉพาะให้ทอดมันกุ้งฟูพอง จิ้มกับพลัมซอสหวานกลมกล่อม จากนั้นเป็นยำมะเขือยาว เป็นมะเขือยาวพื้นบ้านจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะนำมาปรุงก็เผาให้ได้กลิ่นหอม แล้วนำมายำด้วยสมุนไพรให้รสชาติแบบไทยๆ แต่ตกแต่งแล้วออกมาเป็นสไตล์ฟิวชั่น

เสิร์ฟต่อมาเป็น ลาบปลาแซลมอน เนื้อปลาแซลมอนชั้นดีจากนอร์เวย์ถูกนำมาปรุงแบบลาบให้รสชาติแปลกใหม่

สุดท้ายของช่วงแรกเป็นยำเนื้อย่าง เนื้อที่ใช้ก็เป็นสตริปลอยด์ออสเตรเลียน ย่างพอสุก กลิ่นหอม น่ากิน ถึงจานนี้แล้วก็จะเบรคให้ล้างปากกันด้วย เชอร์เบทรสส้ม (บางวันก็มีรสมะนาว) เพื่อถัดมาจะเข้าสู่เมนคอร์สของวันนี้ พร้อมการแสดงเด็ดๆ อีกเพียบ

“โหม่งงง... กุ้งอบวุ้นเส้น”

เสียงฆ้องร้องดัง เป็นสัญญาณเริ่มเมนคอร์ส กุ้งอบวุ้นเส้นถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะ กุ้งตัวใหญ่ สีสันน่ากินถูกวางบนวุ้นเส้นที่เหนียวนุ่ม แทรกด้วยเบคอน เป็นอาหารจานหลักที่กินแล้ว อยากขอเพิ่มอีกหนึ่งจาน (แต่เพิ่มไม่ได้ เพราะอาหารทุกจานเสิร์ฟคนละ 1 ที่) การแสดงยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จบการแสดงแต่ละชุด เสียงฆ้องก็รอพร้อมจะดังเพื่อเสิร์ฟอาหารจานต่อๆ ไป เช่น ต้มข่าไก่ ปลาเปรี้ยวหวาน แพนงเนื้อออสเตรเลียน และข้าวอบสับปะรด ที่เสิร์ฟมาในลูกสับปะรดเล็กๆ ดูน่ากิน

เซ็ตเมนูอาหารของที่นี่จะมีทั้งหมด 3 แบบ หมุนเวียนเปลี่ยนทุก 2 สัปดาห์ ส้มตำแบบไทยๆ ก็มี ส่วนการแสดงจะเปลี่ยนทุกๆ 4 เดือน สำหรับการแสดงไหนที่เป็นที่นิยมก็จะถูกคัดเลือกให้เป็นไฮไล้ต์ในวันถัดไป และในช่วงเทศกาลต่างๆ ก็จะมีการแสดงที่สอดคล้องกับเทศกาลนั้นๆ เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ ลอยกระทง หรือแม้แต่วันฮาโลวีน

ใครที่ไม่กินหมู ไม่กินเนื้อ ทางห้องอาหารมายาก็เตรียมให้คุณด้วยเมนูแบบอื่นๆ แต่ต้องแจ้งล่วงหน้าก่อน หกโมงเย็นของวันนั้น เพื่อให้เชฟได้มีเวลาเตรียมวัตถุดิบ

“โหม่งงง... ลูกตาลลอยแก้ว”

ปิดท้ายมื้ออาหารด้วยของหวาน ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับการแสดงที่เริ่มเข้มข้นและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น การแสดงลาวกระทบไม้ เป็นจังหวะที่สนุกสนาน และเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนรวมถึงผู้ชมได้เข้ามามีส่วนร่วมในการละเล่นครั้งนี้ด้วย เรียกได้ว่าทำให้มีเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และความสนุกสนาน พร้อมๆ กับอิ่มอร่อยไปด้วย

นอกจากนี้ เครื่องดื่มของมายาก็มีให้เลือกหลากหลาย ใครอยากลองค็อกเทลแบบไทยๆ ที่นี่ก็มีเตรียมไว้ให้ เช่น ใบเตยมาตินี่ ยำส้มโอค็อกเทล ต้มยำกุ้งค็อกเทล แชงเกียร์ผลไม้ไทยกับแม่โขง ฯลฯ (เครื่องดื่มเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในเซ็ตอาหารที่กำหนดไว้)

ราคาสำหรับ 1 ท่าน อาหาร 13 จาน พร้อมโชว์จากภัทราวดี 9 ชุด รวมไปถึงเวลคัมดริ๊งค์ 1 แก้ว เพียง 1,500 บาท เรียกว่า คุ้มแสนคุ้มที่จะได้มาเพลิดเพลินในบรรยากาศแบบนี้ และสำหรับใครที่อยากจะเนรมิตที่นี่ให้เป็นห้องจัดเลี้ยงขนาดเล็กเพื่อสังสรรค์กันเฉพาะกลุ่ม ก็สามารถแจ้งทางห้องอาหารมายาล่วงหน้าได้

เมื่อคุณได้มาสัมผัสกับบรรยากาศของที่นี่ มายาจะทำให้คุณเหมือนต้องมนตราอาหารไทยเข้าอย่างไม่รู้ตัว 

How to Go?

จากถนนเจริญนครลงสะพานกรุงเทพ แล้วเลี้ยวขวาวิ่งตรงไปยังท่าเรือคลองสาน โรงแรมมิลเลนเนียน ฮิลตัน กรุงเทพฯ อยู่ก่อนถึงท่าเรือคลองสาน ตั้งอยู่ฝั่งเดียวกับท่าเรือ หรือถ้าใครลงจากสะพานตากสินก็เลี้ยวซ้าย วิ่งตรงไปสังเกตขวามือจะเห็นทางเข้าโรงแรม

ห้องอาหารเปิดทุกวันอังคาร-เสาร์ มื้อค่ำ 19.00-01.00 น. การแสดงเริ่ม 19.30 น. ควรโทรมาจองและมาก่อนการแสดงจะเริ่ม ราคาท่านละ 1,500 บาทสุทธิ โทรสอบถามรายละเอียดหรือจองที่นั่งได้ที่ 0-2442-2000 ต่อห้องอาหารไทย มายา