ถึงแม้ว่าเราจะมีโอกาสรีวิวร้านอาหารตามโรงแรมต่างๆ มาแล้วหลายร้านก็ตาม แต่ MA DU ZI Restaurant by Yuya ก็น่าจะเป็นอีกร้านที่แทรกซึมอยู่ในความประทับใจไม่ลืมเลือน

การตกแต่งของที่นี่ดูสบายตา ยิ่งช่วงกลางคืนยิ่งโรแมนติก ม่านเหล็กริมหน้าต่างมีลวดลายของดอกไม้ที่มีความหมายถึงสันติภาพของประเทศตุรกี และลายดอกไม้เหล่านี้วิธีตัดก็ไม่ธรรมดา เพราะตัดด้วยเลเซอร์จึงดูสวยงามและมีสไตล์

เมนูของที่นี่เป็นอาหารประเภท Japanese French Fusion เสิร์ฟทั้งกลางวันและเย็น โดยมีเซ็ตเมนูให้เลือกหลายราคา (ตั้งแต่ 450-990 บาท หรือสอบถามรายละเอียดได้ทางห้องอาหาร) และแต่ละเมนูก็ชวนน่ากินทั้งนั้น อย่างจานแรกเป็น ตับห่านกุ้งใหญ่ลายเสือ ตับห่านจากฝรั่งเศสที่ผ่านการสโมคไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมง เพื่อให้ได้รสชาติที่หอม มัน หวาน ผสมผสานกับกุ้งลายเสือที่ย่างในระดับพอดี ราดซอสเบอร์รี่ที่ให้ความหวานอมเปรี้ยว เคียงคู่ด้วยมะม่วงสุกที่ช่วยเสริมรสชาติของตับห่าน และกุ้งให้โดดเด่นขึ้นกว่าเดิม แค่จานแรกที่เริ่มต้น ก็อดใจรอจานถัดไปไม่ไหวแล้วครับ

ซุปบุยยาเบส เป็นจานถัดมาที่ถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะ ซุปถ้วยนี้เป็นซุปที่ต้มจากกระดูกเนื้อให้เข้มข้น ผสมกับมะเขือเทศเพื่อให้ความหวาน มีเครื่องเคียงเป็นกุ้งใหญ่ ปลากะพง หอยเชลล์ ปลาหมึก โดยซีฟู้ดทั้งหมดจะถูกนำไปย่างจนสุก ส่งกลิ่นหอมชวนน่ากิน เมื่อราดซุปแล้วกินคู่กัน ถ้วยเดียวเห็นจะไม่พอ

และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาแห่งการรอคอย เมนคอร์สนั่นเอง ครั้งนี้เชฟเลือกเมนูปลา โดยปลาที่เลือกนั้นจะเป็นไปตามช่วงฤดูกาล ที่เห็นในภาพเป็นปลากะพงขาว สิ่งที่พิเศษสำหรับจานนี้ก็คือ เทคนิคในการทำปลา เชฟจะใช้วิธี A La Pancha ซึ่งเป็นเทคนิคการทำปลาในแบบฝรั่งเศส หนังปลาจะกรอบ ส่วนเนื้อปลาจะนุ่ม น่ากิน ซอสที่ใช้ราดบนเนื้อปลาเป็นซอสไดกอนของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นซอสหัวไชเท้า เครื่องเคียงก็มีมะเขือเทศ และผักสดต่างๆ

ของหวานที่อยู่ในคอร์สมีให้เลือกแบบเก๋ๆ เพราะขนมหวานจะถูกใส่ถ้วยเล็กๆ เข็นเป็นรถเข็นมาให้คุณเลือกว่าอยากกินของหวานจานไหนบ้าง หรือจะสั่งเครื่องดื่มประเภทไวน์ หรือเครื่องดื่มที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางห้องอาหารก็มีเช่นกัน

ระหว่างมื้ออาหาร หากอยากจะหาหนังสืออ่านเพื่อความเพลิดเพลินไปด้วย ทางห้องอาหารก็มีหนังสือเตรียมไว้ให้ตามชั้นวางต่างๆ อีกด้วย

หากใครอยากลองไปลิ้มชิมรส แนะนำให้โทรเข้าไปจองก่อนครับ เพราะห้องอาหารนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว อาจจะเลือกมุมเงียบๆ สำหรับดินเนอร์มื้อหวานๆ หรือปาร์ตี้ในห้องไพรเวทก็ได้

ที่พิเศษก็คือ ในช่วงเทศกาลต่างๆ ทางห้องอาหารจะเชิญเชฟที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกมาให้คุณได้ลิ้มลองฝีมือกัน

ถ้าอยากได้มื้ออาหารดีๆ สักมื้อ ลอง “มา ดู ซิ” ครับ

How to Go?

จากถนนพระรามสี่เลี้ยวขวาไปทางศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จากนั้นวิ่งตรงไปจนเกือบถึงสี่แยก กลับรถ โรงแรมมาดูซิอยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวรถเข้าไปได้เลยครับ ห้องอาหาร MA DU ZI Restaurant by Yuya อยู่ชั้น 1 กลางวันเปิดตั้งแต่เที่ยงถึงบ่ายสอง เย็นเปิดตั้งแต่หกโมงถึงห้าทุ่ม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2615-6400