เรากำลังพูดถึงกราฟิกดีไซเนอร์มากฝีมือคนหนึ่ง ผลงานของเขานั้นสวยงามและเป็นที่ยอมรับในวงการกราฟิกไม่น้อย เขาชื่ออ๊อด สุพิชาน โรจน์วณิชย์ ผู้ชายที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยศิลปกร สาขามัณฑนศิลป์ ซึ่งที่นี่เองเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เขาได้มาทำอาชีพนี้

“ตอนที่ผมเรียน เขาจะสอนกระบวนการคิดมากกว่า จะไม่เน้นพวกโปรแกรมกราฟิกหรือโปรแกรมอื่นๆ ตอนนั้นผมก็สงสัยว่าทำไมอาจารย์ไม่สอน แต่ความจริงแล้วการใช้มือเขียนภาพดรอว์อิ้งหรือการทำงานที่ฝึกจากตัวเองเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เพราะในส่วนของโปรแกรมนั้น อาจารย์จะให้เราไปเรียนรู้เอง เพราะตรงนี้ที่ไหนก็สอนได้”

ปัจจุบันเขาทำงานหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นออกแบบโลโก้ นามบัตร เว็บไซต์ พรีเซนเทชั่น ปกซีดี ภาพประกอบ ลายเสื้อ เรียกว่าอะไรก็ตามที่เป็นงานออกแบบ เขาคนนี้สามารถสร้างสรรค์มันออกมาได้หมด

งานยุคแรกๆ ของ อ๊อด สุพิชาน นั้นส่วนใหญ่จะอยู่ในโทนสีขาวดำ โดยมีการจัดวางคอมโพสให้ดูกึ่งกลาง ผสมกับแนวคิดของตัวเขาเอง จนทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในช่วงนั้นไป

“ตอนนี้สไตล์ของผมมันอาจจะกำหนดไม่ได้ มันอยู่ที่งาน ผมจะทำงานแบบไม่ค่อยใส่อะไรเยอะ แต่มันจะมีความหมายอยู่ข้างในมันเอง ผมเคยลองทำเป็นใส่อะไรเข้าไปเยอะๆ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ชอบ ก็เลยต้องกลับมาในแนวเดิมคือเรียบๆ ส่วนมากในการทำงาน ผมจะคิดงานช้ามาก เวลาเราได้งานมา ทุกอย่างจะเป็นงานไปหมด ไม่ว่าเราจะออกไปไหนหรือทำอะไร เราเห็นสิ่งของรอบตัวก็จะเอามาลองคิดงานดู แล้วก็คงคิดมากไปหน่อย บางครั้งก็เลยดีบ้างไม่ดีบ้าง ระยะเวลาการทำงานของผมจะขึ้นอยู่กับตัวงานและลูกค้ามากกว่า อย่างบางงานเป็นปีกว่าจะเสร็จก็มี

“งานของผมมันแล้วแต่ประเภท ถ้าอย่างงานปกซีดีอย่างแรกที่จะดูเลยก็คือลุคของศิลปินว่าวงเขาเป็นอย่างไร เราก็จะเริ่มหาเอกลักษณ์เฉพาะและถอดความเป็นตัวตนของเขาออกมาก่อน พอลุคได้ก็มาถึงความเป็นอาร์ตก็คือคิดว่าศิลปินวงหนึ่งไม่ใช่สินค้าชิ้นหนึ่งแต่จะเป็นแบรนด์ แบรนด์หนึ่งที่จะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคสนใจในความเป็นคาแร็คเตอร์ของเขาและเพลงของเขา แล้วหลังจากนั้นเราก็ค่อยเริ่มใส่ดีไซน์ ใส่เรื่องราว ใส่คอนเส็ปต์อัลบั้มของเขาจนออกมาเป็นงานชิ้นหนึ่ง”

มีงานออกแบบหน้าปกซีดีอัลบั้มหนึ่งที่เขาชื่นชอบและอยากนำเสนอถึงที่มาที่ไป นั่นคืออัลบั้มล่าสุดของ ดา เอนโดรฟิน ซึ่งมีชื่อว่า “แสนแสบ” งานชิ้นนี้มีโจทย์มาจากค่ายเพลงก็คือต้องสื่อให้ได้ว่านี่คือ Queen of Rock อย่างที่สองในปกอัลบั้มนี้ต้องมีความเป็นไทยผสมรวมอยู่ด้วย อย่างที่สามคือคำว่า แสนแสบ ต้องมีความแสบให้ได้ตามชื่อ และข้อสุดท้าย ดา เอนโดรฟิน เกิดปีเสือ ก็ต้องสื่อถึงปีที่เกิดอีกด้วย

“ผมก็ต้องไปศึกษาหาโปสเตอร์หนังไทยมาดูเยอะๆ แล้วก็มาถอดการใช้ลวดลาย ซึ่งลายไทยมันจะเยอะมากเลย แต่เราว่ามันไม่จำเป็นก็ตัดมันออก ผมอาศัยกลิ่นอายการเพ้นท์ เราก็มาคุยกันว่าอีลีเมนท์อะไรจะอยู่ในโปสเตอร์ เราก็ดูว่ามันจะมีอะไรบ้าง จนมาวันหนึ่งดาเขาต้องการพรีเซ้นต์การเป็นตัวเขาเอง ซึ่งเขาจะมีรอยสักเยอะมาก เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่อยู่ในปกซีดีก็คือรอยสักของเธอเอง ไม่ว่าจะเป็นเสือ ดาว นก ดอกไม้

“กลิ่นอายของฟ้อนท์เราก็ใช้แบบโบราณ แต่โลโก้จะออกแบบใหม่คือต้องเป็นผู้หญิงเท่ แล้วก็ต้องเป็นร็อกด้วย ซึ่งฟ้อนท์จะเน้นตรงที่คำว่า ดา มาก่อน แล้วค่อยตามมาด้วยคำว่า เอนโดรฟิน ซึ่งได้ทำทั้งหมดเลย คือ แพ็คเกจ โลโก้ ภาพประกอบไปในตัว ก็ถือว่าชอบมากครับ”

ก่อนจะจบการสนทนา เขาพูดถึงการทำงานที่มีการวนเวียนเหมือนเป็นวัฏจักรของความใส่ใจในการทำงานที่เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งก็อยากจะวนกลับมาอยู่ตรงที่เขาเริ่มต้นมา

“ตอนเรียนจบมาใหม่ๆ งานที่ได้ทำอาจจะเยอะมาก แต่ว่าอาจไม่ได้คิดเยอะเหมือนตอนนี้ แล้วมันก็เป็นในแบบตัวเราเสียมากกว่าแต่พอได้ทำงานสักพักจะรู้ว่าเราไม่ได้ทำงานมาให้ตัวเองใช้หรือดูเอง เราต้องทำงานให้ลูกค้า ให้กับสินค้าให้กับคนอื่น ผมจึงต้องพัฒนางานขึ้นเรื่อยๆ แต่พอมาถึงตรงจุดนี้ บอกตามตรงว่าสุดท้ายแล้วก็ยังอยากกลับไปทำงานที่เป็นตัวเอง งานที่ตนเองชอบมากกว่านะครับ”