“แพรมองว่าตัวเองคือศิลปินมากกว่าช่างแต่งหน้า เราไม่ได้มองที่ตัวเงิน แต่จะมองว่างานที่ได้รับมาสามารถครีเอทอะไรได้บ้าง มันต้องมากกว่าแต่งเพื่อให้สวยค่ะ”

กว่าจะมาถึง ณ จุดนี้ เธอยืนยันว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือความกล้าในการค้นหาตัวตน ความกล้าในการเปิดโลกแห่งความฝัน และความกล้าในการแสวงหาบันไดที่จะปีนขึ้นไปหาฝัน พร้อมๆ กับความกล้าที่จะเปิดโอกาสให้กับทุกๆ คน

“แพรไปเรียนต่อชั้นมัธยมที่อังกฤษตอนอายุ 16 ค่ะ เรียนต่อเรื่อยๆ จนจบปริญญาโท แล้วก็เพิ่งกลับมาเมืองไทยค่ะ ชีวิตความเป็นอยู่ที่โน่นค่อนข้างเปิดกว้างทางความคิด มีอิสระที่จะดูแลตัวเอง แพรได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง หนึ่งในนั้นก็คือการที่เราได้มีโอกาสค้นหาตัวตนจนเจอ

“ทีนี้พอรู้แล้วว่าเราชอบอะไร พอจบชั้นมัธยม แพรก็เลยเลือกเรียนต่อด้านศิลปะโดยตรง แต่เลือกเรียนด้านการละคร ซึ่งที่นั่นจะมีให้เรียนหลากหลาย ไม่ใช่เน้นที่การแสดงอย่างเดียว แพรก็มุ่งความสนใจไปที่การออกแบบ การแต่งหน้า

“ด้วยความที่แพรเรียนศิลปะ ก็จะมีเพื่อนที่เรียนสายนี้ที่เขามีโพรเจ็กต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่เรียนแฟชั่นดีซายน์หรือช่างภาพ เขาก็ต้องการคนที่เข้ามาช่วยให้งานเขาดำเนินไปได้ดี แพรก็เข้าไปช่วยแต่งหน้านางแบบให้ สนุกมากนะคะ แม้จะไม่ได้รับค่าตอบแทนอะไรก็ตาม”

การปรากฏตัวบนโลกออนไลน์ ทำให้มีคนติดตามดูผลงานของเธอกันมากขึ้น และมันยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อเธอสร้างแฟนเพจ อายุแค่ 1 ปี แต่กระแสแรงมาก จนถึงทุกวันนี้จำนวนสมาชิกของเธอมี ถึงสี่หมื่นกว่าคน

 “พอเรียนโทก็เริ่มคิดแล้วว่าอนาคตอยากทำอะไร เราจะใช้เงินพ่อแม่ต่อไปไม่ได้แล้วนะ ก็เลยมาคิดว่าอยากเปิดโรงเรียนสอนแต่งหน้า เลยเริ่มที่จะเปิดแฟนเพจ เหมือนเป็นเมคอัพกูรู จะได้ลงผลงานที่เคยทำมา พร้อมๆ กับสอนแต่งหน้าไปด้วย

“แพรเปิดฟรีเวิร์กช็อปทุกครั้งที่กลับมาเมืองไทย จากครั้งแรกมีคนสนใจเข้าร่วมเพียง 15 คน จนมาถึงทุกวันนี้ ก็จะมีคนสมัครเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ แพรประทับใจและปลื้มมากนะคะ เหมือนที่นี่คือโรงเรียนฝึกหัดของแพร พอมีประสบการณ์มากขึ้น สิ่งที่หวังไว้ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน หรือการมีแบรนด์ของตัวเองนั้น มันต้องเกิดขึ้นจริงๆ แน่นอนค่ะ

“ที่ผ่านมาแพรเองก็ได้ใช้ความสามารถ ความพยายามต่างๆ ในการเข้าไปมีส่วนร่วมในลอนดอน แฟชั่น วีค เพราะทุกครั้งเวลาแพรไปช่วยงานเมคอัพอาร์ตทิสอื่นๆ ไม่ว่าเขาจะให้แค่ยกของ หรือให้ทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำหมดเลย พยายามใช้โอกาสที่ได้รับมาให้คุ้มค่ามากที่สุด ครูพักลักจำเอาบ้างเพื่อเรียนรู้จากมืออาชีพเหล่านั้น

วันหนึ่งแพรได้รับเลือกให้เป็นผู้ช่วยเมคอัพอาร์ตทิสในงานนี้ ได้แสดงฝีมือเอง นั่นคือผลที่ได้จากการใช้โอกาสอย่างคุ้มค่าของเรา พอกลับมาเมืองไทยก็เริ่มมีแบรนด์ต่างๆ นำเสนอผลิตภัณฑ์มาแล้ว และโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับเมคอัพอาร์ตทิสชื่อดังของเมืองไทยก็มีเพิ่มขึ้น และอีกไม่นาน เมคอัพกูรูบนโลกออนไลน์ก็จะเปลี่ยนมาเป็นคอลัมนิสต์ในหน้านิตยสารด้วยค่ะ เร็วๆ นี้ทุกคนน่าจะได้เห็นผลงานกัน”

Know her

ในโลกออนไลน์สาวๆ จะรู้จักเธอดีในชื่อ Pearypie

• แพรี่พายเวิร์กช็อปครั้งแรกมีแฟนๆ มา 15 คน ครั้งที่สอง 80 คน และครั้งที่สามเป็นหลักร้อยคน เธอสอนและแชร์ประสบการณ์ด้วยตัวเองโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายจริงๆ

• คนที่เธอยึดถือเป็นแบบอย่างก็คือเวิร์คกิ้งวูแมนคนเก่งแห่ง โพลารีส อย่าง คุณภัสรา จิตตะเสนีย์ คุณแม่ของเธอนั่นเอง