เรามาถึงที่นี่ตอนใกล้ๆ หกโมงเย็น แสงไฟจากตึกต่างๆ ยังไม่ถูกเปิด มองลงไปข้างล่างที่ความสูง 130 เมตรจากพื้นดิน สุดลูกหูลูกตาคือกรุงเทพมหานคร ตึกรามบ้านช่อง แม่น้ำเจ้าพระยา สะพานตากสิน สมแล้วที่จุดเด่นของที่นี่คือวิวทิวทัศน์ที่สามารถมองได้รอบ 360 องศาจริงๆ (เป็นที่มาของชื่อของสถานที่แห่งนี้) มั่นใจได้เลยว่าคุณสามารถนั่งปล่อยใจไปกับภาพเมืองด้านล่างได้ทั้งคืน นอกจากนี้ ชั้น 31 ยังมีส่วนของ Outdoor สำหรับคนที่ชอบบรรยากาศเปิดโล่งอีกด้วย

ใกล้หนึ่งทุ่ม ทุกตึก ทุกถนน ทุกรถยนต์ พร้อมใจกันเปิดไฟสว่างคล้ายกับบอกเราว่าราตรีนี้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

บอกไว้ก่อนนะครับว่าที่นี่เน้นเรื่องเครื่องดื่มที่มีหลากหลายจริงๆ เพราะฉะนั้นแนะนำว่าถ้าคุณยังไม่ได้ทานมื้อเย็น ควรจัดการมาให้เรียบร้อยและมาเบาๆ กับเครื่องดื่มของที่นี่ดีกว่า

ไวน์ วอดก้า วิสกี้ คอนญัก รัม เตกีลา จิน ค็อกเทล หรือเบียร์ คุณจะรับอะไรดีล่ะ? ที่นี่มีทุกอย่างจริงๆ แต่ให้ลองหมด สงสัยจะเห็นโลกหมุน 360 องศา ขอตัวเด็ดๆ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านมาเลยดีกว่า เราบอกบาร์เทนเดอร์อย่างนั้น ไม่รอช้า เขาจัดมาให้เราสามแก้วรวดเร็วทันใจ

Robusto Mojito มาในความใสของรัม บาร์เทนเดอร์อธิบายให้เราฟังว่า แก้วนี้ไม่ใช่โมจิโตธรรมดาๆ (โมจิโตคือค็อกเทลพื้นเมืองของคิวบาที่เป็นที่นิยมในอเมริกายุคปี 1980s) เพราะนอกจากความหอม เปรี้ยว หวาน ซ่าของ มินต์ ไลม์ เฮเซลนัทไซรัป และโซดาที่ใส่ไปในรัมแล้ว ยังหมักใบซิการ์ที่ส่งตรงจากคิวบาถึง 2 วันเพื่อเพิ่มความหอมอีกด้วย

THREESIXTY ํ ชื่อเดียวกับชื่อเล้าจน์ บ่งบอกว่านี่คือซิกเนเจอร์ดริงก์ของแท้ เริ่มกันตั้งแต่สีฟ้าที่ใช้เป็นสีหลักของแสงสว่างที่นี่ แก้วนี้เน้นดื่มง่าย แต่ก็หนักเอาเรื่อง เพราะตัวเบสเป็นวอดก้าระดับพรีเมี่ยม “BELVEDERE” ส่งตรงจากโปแลนด์ บาร์เทนเดอร์แอบกระซิบว่า แก้วนี้ตั้งราคาไว้แค่ได้ทุนคืนเท่านั้น เพราะอยากให้แขกที่มาได้ลองจริงๆ

Cosmo มาในสีส้มตัดกับสีฟ้าของแก้วเมื่อกี้ได้เด็ดขาดจริงๆ แนะนำว่าเหมาะกับสาวๆ (แต่หนุ่มๆ ก็ดื่มได้ ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด) ตัวเบสเป็นวอดก้าเช่นกัน บางที่ก็ใช้ซิตรัสวอดก้า (วอดก้ากลิ่นเลมอน) ส่วนตัวรองก็จะเป็น Liqueur ส้ม หรือ Grand Marnier จากนั้นก็ใช้มะนาวบีบไปหนึ่งซีก รสชาติดีจนไม่แปลกใจเลยที่มันเป็นดริงก์ยอดนิยมในอเมริกา

ส่วนอาหารทานเล่น (ซึ่งจะถ้าทานจริงก็อยู่ท้องนะครับ แต่อาจมีให้เลือกไม่มากนัก) ทางร้านแนะนำเรามา 2 เมนู คือ มินิเบอร์เกอร์ ที่มีด้วยกัน 3 ไส้คือ ทูน่า แซลมอน และเนื้อปู ส่วนจานที่สองเป็น foie gras croquettes (ที่เราขอเรียกเล่นๆ ว่าลูกบอลตับห่าน) ข้างในเป็น foie gras terrineห่อหุ้มด้วยมันฝรั่งปั้นเป็นลูกกลมๆ เคลือบผิวด้วยขนมปังป่น จากนั้นจึงนำไปทอด สีเหลืองน่าทานมาก

แนะนำให้คุณมาสักราวๆ สองทุ่มกว่าๆ เพราะไฟของเมืองกำลังสวย และไฮไลต์ก็อยู่ตรงที่สามทุ่ม วงดนตรีแจ๊สจะมาขับกล่อมบรรเลงให้คุณฟังไปพร้อมๆ กับจิบเครื่องดื่มไปด้วย คืนที่เราไปนั้น นักร้องสาวผิวสีร้องเพลง “Saving All My Love for You” ได้ทรงพลังมากๆ จนแขกทุกโต๊ะรวมถึงเราปรบมือกันลั่น

เล่ามาขนาดนี้ คุณยังจะใจแข็งไม่ไปที่ THREESIXTY ํ  อีกเหรอ? ไม่ต้องรอวันศุกร์หรอก คืนนี้เลย! 

   How to Go?

     โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน ตั้งอยู่บนถนนเจริญนคร ย่านคลองสาน THREESIXTY ํ อยู่ชั้น 32 เปิดตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงตีหนึ่ง ดนตรีสดบรรเลงตั้งแต่สามทุ่มเป็นต้นไป สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2442-2081