ชวยศ รัตตกุล
สำหรับงานอสังหาริมทรัพย์นั้นก็มีหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งโครงการแรกอยู่บางนา โครงการที่สองอยู่วิภาวดีที่ตอนนี้สร้างไปได้ครึ่งนึงแล้ว ส่วนเรื่องของโรงเรียนนานาชาติ มีอยู่สองสาขา คือดุสิตกับสุขุมวิท 71 ซึ่งมีนักเรียนประมาณ 700 คน โดยมีนักเรียนต่างชาติมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ คุณชวยศเผยว่าแม้จะรับช่วงต่อมาจากคุณแม่ แต่ส่วนตัวแล้วเขาเองก็อยากทำงานด้านการศึกษาเพราะคิดว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ
“ถ้าเทียบกับโรงเรียนอื่น เราได้เปรียบทางด้านสถานที่ เพราะแถวนี้มีชาวต่างชาติเยอะ แล้วบรรยากาศของเราก็เป็นสิ่งที่ได้เปรียบ การที่โรงเรียนไม่ใหญ่เกินไป ทำให้ครูเข้าถึงนักเรียนได้ดีกว่า ในห้องเรียนห้องหนึ่ง ห้องของเรามีครูฝรั่ง 1 คนมีผู้ช่วยครูอีก 1คน ต่อนักเรียน 20 คน เราไม่อยากแลกเปลี่ยนเรื่องปริมาณกับคุณภาพ เราเชื่อว่าการขยายให้ใหญ่ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีคุณภาพที่ดีขึ้น พอบรรยากาศของโรงเรียนดี เวลาเลิกเรียน เขาก็ไม่อยากกลับ เพราะมันเหมือนกับบ้าน นอกจากนี้เรายังสอนให้เด็กใช้เทคโนโลยีตั้งแต่เล็ก เพราะเราคิดว่าเขาจะต้องเอามาใช้ในชีวิตประจำวัน เราจึงลงทุนกับทางด้านไอทีเยอะมาก”
อีกงานหนึ่งที่สำคัญกับชีวิตของเขาก็คือเรื่องของอาหาร แนวคิดการทำร้านอาหารนั้นเริ่มจากคุณชวยศชื่นชอบเรื่องของอาหารการกินเป็นพิเศษ จึงตัดสินใจทำร้านอาหารญี่ปุ่น TENYUU Grand Sathon ขึ้นมาเอง ส่วนที่เลือกทำร้านอาหารญี่ปุ่น ก็เพราะโดยส่วนตัวแล้วเขาเป็นคนที่ชอบความเป็นญี่ปุ่น และอาหารญี่ปุ่นก็มีวัฒนธรรม มีเรื่องราว และยังดีต่อสุขภาพด้วย
“ตอนนี้ผมทำเอง บริหารเองหมดทุกอย่าง แล้วก็มีเพื่อนๆ ที่ชอบกิน ก็ชวนมาเป็นหุ้นส่วนด้วยกัน ผมชอบความเป็นธรรมชาติ ก็เลยใช้ไม้ หิน น้ำ เป็นส่วนใหญ่ในการตกแต่งร้าน เวลาเดินเข้ามาที่นี่จะมีสวนญี่ปุ่น เหมือนกินที่ญี่ปุ่นเลย
“ส่วนเรื่องของอาหาร เราพยายามหาเทคนิคใหม่ๆ มาพัฒนาอาหาร อย่างไข่เจียวทอดเหมือนกัน แต่ความอร่อยไม่เหมือนกันบางที่ต้องบีบมะนาวนิดนึงเพื่อให้ฟู บางที่ค่อยๆ เท บางที่เทเป็นเส้น อันนี้คือเทคนิค สิ่งที่เราพัฒนาเพื่อลูกค้าได้ทานอะไรใหม่ๆเราพยายามจะหาเมนูใหม่ตลอดเวลา ผมว่าธุรกิจทั่วโลกก็ต้องทำแบบนี้ อย่างร้านดังๆ ในต่างประเทศเขาจะไม่เสิร์ฟเมนูซ้ำกันเลยลูกค้าก็จะตื่นเต้นกับเมนูใหม่ๆ”
เมื่อมองดูงานที่เขารับผิดชอบอยู่ก็ถือว่ามากพอสมควร แต่เขาก็มีวิธีการจัดการให้ผลงานออกมาลงตัว เมื่อเทียบกับอายุที่ยังไม่ถึง 30 ปี เขาทำมันได้อย่างไร
“ความจริงแล้วถือว่าผมทำงานน้อยนะครับ เพราะสิ่งสำคัญก็คือการบริหารคนและเวลา อย่างเจ้าสัวบางคนมีบริษัทเยอะ แต่เขาก็บริหารได้ ถามว่าทำได้อย่างไร ก็เพราะเขาบริหารคนได้เก่ง บริหารเวลาเป็น อย่างผมจะกระจายส่วนงานออกไป ให้ความไว้ใจพนักงานเราแต่ละคน ให้เขาช่วย ส่วนเราที่เป็นหัวเรือก็พยายามเซ็ตทิศทางของแต่ละบริษัท แล้วเราก็เข้ามาดู การบริหารธุรกิจที่ดีก็เหมือนรถหนึ่งคัน ถ้ามีน็อตกระเด็นออกไปแล้วรถระเบิด นั่นคือการบริหารที่ไม่ดี หากรถเริ่มเสีย แต่ยังวิ่งต่อไปได้ นั่นคือองค์กรที่มีระบบที่ดี และมีคนบริหารที่ดี เราบริหารคน บริหารเวลา บริหารระบบให้มันแข็งแรงและดี เท่านี้ทุกอย่างก็จะไปได้ดี”
แม้จะเป็นคนที่บริหารงานและแบ่งเวลาได้ดี แต่ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการทำงานนั้นก็มีมากจนต้องแก้ปัญหาอยู่ทุกวัน แต่เรื่องเหล่านี้กลับไม่ได้สร้างภาระให้เขาเลย เพราะเขาสามารถจัดการได้ทั้งหมด ด้วยการวางแผนงานไว้ตั้งแต่ต้น
“ปัญหามีทุกวันครับ อย่างการทำร้านอาหาร ช่องโหว่จะเยอะ อย่างเรื่องของการจัดซื้อ จัดการกับของเสีย อย่างปลาที่เราหั่นไปทิ้งเยอะ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าทิ้งมากทิ้งน้อย เราก็ต้องเข้ามาดูตรงนี้ ระบบการจัดซื้อก็สำคัญช่วงแรกๆ เราก็เข้ามาดูเอง เพราะมันมีรอยรั่วเยอะ ก็ต้องทำระบบให้ดี เรื่องบัญชีก็สำคัญ
“ส่วนถ้าเป็นที่โรงเรียน นักเรียนรวมผู้ปกครองรวมครูอาจารย์ ทุกอย่างในโรงเรียนประมาณสองพันคน ทำอย่างไรจะให้คนทั้งหมดแฮปปี้ ปัญหามันมีเยอะมาก เราก็ต้องค่อยๆ แก้ สมัยก่อนเจ้าสัวหนึ่งคนหนึ่งทำแทบจะทุกอย่าง ผมเองก็ไม่เคยคิดว่าคนเราจะทำทุกอย่างได้ แต่เราก็ต้องรู้เอาไว้ว่าแต่ละอย่างต้องทำอย่างไร”
ความสุขที่เกิดขึ้นจากการทำธุรกิจของคุณชวยศนั้นไม่ใช่เรื่องของการมีกำไรเท่าไหร่ แต่อยู่ตรงที่ความพอดีและการแบ่งปันสู่คนยากไร้
“คนเราต้องรู้จักพอ ผมทำธุรกิจได้เรื่อยๆ แต่ว่าความสุขก็คือต้องพอ คนเรากินข้าววันละสามมื้อเหมือนกัน การใส่เสื้อผ้าแต่งตัว ใช้ของอะไรก็ได้เท่านี้ ผมเลยอยากมีมูลนิธิเอาไว้เพื่อช่วยเหลือคนอื่น ผมคิดไว้ตั้งแต่เด็กๆ เราเริ่มจากเล็กๆ ก่อนก็ได้ช่วยคนด้อยโอกาส อย่างน้อยชื่อเรายังอยู่เรามีมูลนิธิอยู่เรา ตายไปมูลนิธิก็ยังเดินต่อไปได้ ยังช่วยเหลือคนได้ต่อไป เรียกว่าตายไปแล้วยังทำบุญได้อีก”
Know Him!
>> คุณชวยศจบการศึกษาจาก University of Southern California, Los Angeles, CA , B.S. Business Administration, in May 2004 (Cum Laude) Emphasis: General Financial Management
>> ด้วยความชอบเรื่องอาหารการกินมาก ทำให้คุณชวยศตระเวนชิมอาหารดังๆ ที่อร่อยในต่างประเทศมากมาย และหนึ่งในร้านที่เขาชอบมากที่สุดก็คือร้าน มาต้า ที่นิวยอร์ค