‘เฌอปราง อารีย์กุล’ อดีตไอดอล กัปตัน และชิไฮนิน (ผู้จัดการ) วงบีเอ็นเคโฟร์ตีเอตที่ปัจจุบันเดินหน้ามุ่งสู่สายนักแสดงอย่างเต็มตัว พร้อมกับการค้นหาตัวเองในบทบาทใหม่ ๆ ภายใต้ความเปล่งประกายของหญิงสาววัย ๒๙ ปีที่มิกซ์ แมกาซีนไม่อาจมองข้ามได้ จนต้องขอดึงตัวเธอมาร่วมงานด้วยกันเป็นครั้งแรกในฉบับที่ ๒๐๔ กับธีม ‘Nostalgic Cycle วัฏจักรของเวลา’

คำทักทายจากหญิงสาววัย ๒๙ ปี

 สวัสดีค่ะ เฌอปราง อารีย์กุล ตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระและดูแลตัวเอง ปัจจุบันอายุ ๒๙ ปีแล้ว กำลังจะไปเรียนต่อและใช้ชีวิตต่างประเทศสัก ๑ ปีค่ะ

เป้าหมายของเธอก่อนอายุ ๓๐ ปี

เฌออยากไปเรียนก่อนอายุ ๓๐ ปี ถือว่าเป็นโอกาสให้ตัวเองไปมีประสบการณ์ใหม่ ๆ ในชีวิต ซึ่งญี่ปุ่นคือประเทศที่ค่อนข้างไปบ่อยและรู้สึกว่าไม่ได้อยากไปไหนไกลมากเพราะจะได้ไม่ต้องปรับตัวยาก จึงคิดว่าเลือกประเทศที่อยู่ในทวีปเอเชียก่อนแล้วกัน จริง ๆ เฌอมีความฝันอีกอย่างหนึ่งคืออยากไปเที่ยวรอบโลกค่ะ อยากไปประเทศละ ๑ ปีหรือ ๖ เดือนขึ้นไป ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มที่ประเทศใกล้ตัวและคุ้นชินก่อนดีกว่า

วางมือ หยุดพัก ใช้เวลากับตนเองให้มากขึ้น

ช่วงนี้มีเวลาได้หยุดพักหลังวางมือจากเป็นชิไฮนิน (ผู้จัดการ) วงบีเอ็นเคโฟร์ตีเอตแล้ว ทำให้ได้ใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้นและได้ใช้เวลากับตัวเองก่อนนอน เพราะช่วงที่ได้พักจริง ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการนอนค่ะ ได้ดูหนังบ่อยขึ้นด้วย นับว่าเป็นอะไรที่มีความสุขมากเลย ได้ออกไปเจอเพื่อนและเจอคนที่เคยทักมา คือนานมากตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว ต้องขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนนะคะที่ยังคงนึกถึงกันและคอยส่งข้อความมาถามไถ่ ถ้ามีคนชวนออกไปไหนหากมีเวลาก็จะแวะเวียนไปหาค่ะ

เงิน งาน สุขภาพ ความรัก

ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับเลยว่าเฌอลำดับความสำคัญให้งานเป็นหลัก ถือว่ามันคือสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ ก็อยากทำให้เต็มที่และดีที่สุดไม่ใช่แค่ทำให้เสร็จ แต่มันคือการทำสำเร็จอย่างเต็มที่ในความสามารถของเราจริง ๆ ดังนั้นเฌอต้องขอบคุณครอบครัวมากที่เข้าใจและพร้อมสนับสนุน เพราะช่วงนั้นแทบไม่มีเวลาให้พวกเขาเลยค่ะ

รองลงมาคือความรัก คือพยายามจะเฉลี่ยความรักให้กับครอบครัวและเพื่อน เพื่อนบางคนไม่ได้เจอเป็นปี ๆ เลย ต้องขอบคุณมากที่ยังคงติดต่อกันจนถึงทุกวันนี้ เพราะเมื่อก่อนแทบไม่ได้ไปกินข้าวหรือไปเจอเขา เฌอเพิ่งได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนเมื่อ ๑ - ๒ ปีที่ผ่านมานี้เองค่ะ

เงินมาเป็นอันดับ ๓ แล้วกัน เฌออยากจะดูแลตัวเองได้โดยที่ไม่เดือดร้อนครอบครัวให้มากที่สุด ตอนนี้ทำได้แล้วจริง ๆ สามารถช่วยดูแลที่บ้านได้ด้วย มันเป็นสิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกดีใจค่ะ ส่วนสุขภาพเข้าใจว่ามันควรมาเป็นอันดับแรก ๆ แต่ช่วง ๘ - ๙ ปีที่ผ่านมาตัวเองใช้สุขภาพยับมาก ยับสุด ๆ ไปเลย โชคดีที่คุณแม่คอยเตือนและคอยหาวิตามินเสริมให้กินอยู่เรื่อย ๆ โดยรวมแล้วเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพน้อยกว่างานเยอะมาก อันนี้ยอมรับเลยค่ะ ซึ่งมันไม่ดีนะคะทุกคน ไม่ดีจริง ๆ ดังนั้นตอนนี้ก็เริ่มดูแลตัวเองมากขึ้นแล้วค่ะ

นักแสดงหญิง ‘เฌอปราง อารีย์กุล’ 

ทุกวันนี้เบนสายมางานแสดงเพราะรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่เฌอชื่นชอบค่ะ ตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่เคยอยู่ในความคิดเลยว่าตัวเองจะเป็นนักแสดงได้ แต่ตอนที่มีโอกาสไปแคสติงงานและเรียนรู้การแสดงมาเรื่อย ๆ มันทำให้เราได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น ได้ปลดล็อกความเป็นตัวเอง ไม่ต้องเครียดมากกับชีวิต เรื่องอารมณ์และการทำความเข้าใจตัวเองก็เลยสูงขึ้นมากจริง ๆ รวมไปถึงเรื่องการทำความเข้าใจคนอื่น ทำความเข้าใจผ่านตัวละครหรือผ่านงานต่าง ๆ ที่ได้มีโอกาสแสดงด้วยค่ะ

ต่อจากนี้ก็อยากจะมีผลงานให้แฟน ๆ ที่ติดตามและสนับสนุนกันมาตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงได้เห็นเฌออยู่บนหน้าจอ อยากให้ทุกคนที่ติดตามกันต่อยังคงได้เห็นหน้าค่าตากันเรื่อย ๆ เพื่อคลายความคิดถึงค่ะ แล้วก็ตั้งใจว่าอยากจะทำอาชีพนักแสดง ถ้าเป็นไปได้อยากทำไปเรื่อย ๆ เลย ดังนั้นต้องขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสกันมาก ๆ เลยนะคะ จะทำให้ดีและเต็มที่ในทุก ๆ ครั้งแน่นอนค่ะ

การเรียนรู้ครั้งใหม่ของเธอ

ตอนนี้อยากต่อยอดตัวเองผ่านการทำธุรกิจบางอย่างค่ะ หรือถ้าเกิดไปเจอสิ่งที่อยากทำเพิ่มเติมอีกก็คงทำไม่ว่าจะสายวิทยาศาสตร์หรือสายการบริหารจัดการก็ดี เฌอกำลังตามหาตัวเองอยู่เหมือนกันว่าอยากทำบทบาทไหนอีก แต่ว่าตัวเองเป็นคนชอบเรียนรู้ค่ะ เพราะสิ่งหนึ่งที่น่าจะเป็นไปตลอดชีวิตเลยคือชอบเรียน เรียนรู้ในทุก ๆ ด้านไม่ว่าอะไรก็ตามที่เป็นทักษะใหม่ ๆ หรือความสามารถที่จะพัฒนาเติบโตขึ้นมากกว่าเดิมได้

ก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาอันแสนมืดหม่น

จริง ๆ เฌอก็อยู่กับปัจจุบันและอยู่กับคำว่า “แล้วยังไงต่อ? เราจะล้มเลิกไหม?”  คือมันไม่ใช่สิ่งที่แย่เลยนะถ้าเกิดเราถามตัวเองว่าสิ่งที่ทำแล้วมันล้มเหลว เราจะไปต่อหรือล้มเลิก อาจจะแค่หยุดไม่ถึงกับล้มเลิกก็ได้ หยุดทำสิ่งนี้แล้วไปทำสิ่งอื่นแทน มันคือการถามว่าเรายังคงมีแรงพอที่จะทำเรื่องนี้ซ้ำไหม หรือว่าเราไม่มีแรงเหลือแล้ว ถ้าอย่างนั้นเราจะไปทำเรื่องอื่นได้หรือเปล่า อยากให้พิจารณาครอบคลุมหมดทั้งสภาพจิตใจทั้งสภาพร่างกาย รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการจะทำอะไรสักหนึ่งอย่างว่ามันพร้อมไหมและไม่ทำให้ใครเดือดร้อนด้วยค่ะ

ส่งต่อกำลังใจดี ๆ ถึงผู้อื่น

เฌอยังเป็นคนหนึ่งที่พยายามใช้ชีวิตต่อไปในทุก ๆ วันอย่างมีความสุขนะคะ อาจจะไม่มีความสุขในวันนี้หรือช่วงเวลาไหนไปบ้าง แต่เชื่อว่าถ้าเรายังก้าวต่อไปและพยายามที่อยากจะใช้ชีวิต อาจจะเจอในสิ่งที่ดียิ่งขึ้นกว่าทุกวันนี้ เราจะพาตัวเองไปถึงจุดใดจุดหนึ่งที่อย่างน้อยก็ไม่ใช่จุดเดิม เฌออยากให้ทุกคนยังคงจุดไฟในตัวเอง ยังจุดความหวังในตัวเองได้ทุก ๆ ครั้งว่าจะก้าวผ่านสิ่งนี้ต่อไปได้เรื่อย ๆ จนถึงวันหนึ่งที่อาจจะเป็นบทสรุปของหลาย ๆ อย่างที่เราทำมาค่ะ

ความสุขของ ‘เฌอปราง อารีย์กุล’

เป็นสิ่งที่กำลังถามตัวเองอยู่เหมือนกันว่าความสุขของเราคืออะไรนะ? แต่ถ้าถามว่ามีความสุขง่ายไหม? เฌอเป็นคนมีความสุขง่ายค่ะ เพราะฉะนั้นก็อยากจะให้คะแนนความสุขตัวเองเต็ม ๑๐ เลย เราเป็นคนที่รู้ตัวเองว่ากำลังอยู่ในสถานะไหน แค่ไปกินของหวาน ไปดูหนัง หรือบางวันอยู่คนเดียวก็มีความสุขแล้วเพราะได้ทำอะไรที่อยากทำ ส่วนบางวันที่ไม่รู้จะทำอะไรดีก็จะออกไปเจอคนอื่น เฌอเป็นมนุษย์ไปเรื่อยระดับหนึ่งที่รู้ว่าตัวเองอยู่ในอารมณ์ไหนได้อย่างง่าย ๆ ค่ะ กลายเป็นตอนนี้ไม่มีเป้าหมายว่าเราจะทำอะไรกับชีวิตดี นอกจากใช้ชีวิตแต่ละวันให้มีความสุข

ทุกวันนี้สบายดีแล้วนะคะ มันผ่านช่วงหมดไฟมาแล้ว ไม่ได้เศร้า ไม่ได้เครียดอะไรทั้งสิ้นแล้ว เฌออยากบอกไว้เพราะกลัวทุกคนกังวลค่ะ (ยิ้ม)

มุมมองความรักในแบบของเธอ

รู้สึกว่าตัวเองได้รับความรักเยอะมาก ๆ จากครอบครัว รวมถึงทุกคนที่คอยสนับสนุนเรามาตั้งแต่เด็ก ๆ ให้เฌอได้เรียนรู้ได้ทำนู่นทำนี่และยังคงเป็นห่วงกันในทุกวันนี้ค่ะ แล้วก็มีความรักจากแฟน ๆ ความรักจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัวด้วย เพราะเราอาจจะเป็นความสุขให้เขาได้ผ่านสื่อหรืออะไรบางอย่างที่เขาเห็น ซึ่งก็ดีใจที่เป็นความสุขเหล่านั้นให้เขาได้และตัวเฌอเองก็ได้รับอะไรกลับมาเยอะแยะมากมายเหมือนกัน

ในเรื่องคู่ครองหรือคนรัก การที่มีแล้วมันดีก็โอเค ถ้าเรายังคงเป็นตัวเองและเขายังชอบในสิ่งที่เฌอเป็น แต่ถ้าเขาเรียกร้องจนทนไม่ไหวหรือปรับตัวไม่ได้จริง ๆ ก็จะขออยู่ด้วยตัวคนเดียวไม่เป็นไรค่ะ พอไม่ไหวแล้วจริง ๆ ถ้าตอบสนองให้ไม่ได้ เราต่างคนต่างไปน่าจะเวิร์กกว่า รวมถึงเฌออาจจะค่อนข้างมาตรฐานสูงไหมนะ? เป็นคนเลือกเยอะนิดหนึ่ง เยอะมากกว่าที่ทุกคนคิด บางทีนึกว่าตัวเองเป็นคนง่าย ๆ แล้วแต่จริง ๆ เป็นคนเยอะค่ะ (หัวเราะ)

‘เฌอปราง อารีย์กุล’ ในวันนี้ อยากบอกอะไรกับตัวเธอในวันนั้น

ทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อต่อไปนะ อะไรที่ทำมันจะนำพาให้กลายมาเป็นฉันในทุกวันนี้ ฉันยังคงมีชีวิตอยู่จนถึงอายุเท่านี้ ตัดสินใจตามนั้นเลย

เฌอไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตวัยรุ่นขาดหายเลยค่ะ เพราะว่าทำทุกอย่างด้วยความที่อยากจะทำมาโดยตลอด คือทำมันด้วยความตั้งใจและเต็มที่จริง ๆ ก็เลยไม่ค่อยมีอะไรที่เสียดายเท่าไหร่

ร่วมงานกับ ‘มิกซ์ แมกาซีน’ เป็นครั้งแรก

รู้สึกเป็นเกียรติมากเลยค่ะ ไม่ได้ถ่ายแบบเต็ม ๆ ขนาดนี้มานานแล้ว ต้องขอบคุณทางมิกซ์ แมกาซีนมาก ๆ นะคะที่ให้โอกาสได้ร่วมงานกับทางนิตยสาร มีช่างหน้า ช่างผม ทีมงานที่เพียบพร้อมมาก ๆ คอยดูและสร้างสรรค์ลุคที่ปกติเฌอก็ไม่ค่อยได้แต่งอะไรแบบนี้เท่าไหร่ รู้สึกว่าแปลกใหม่แล้วเพิ่งเห็นว่าตัวเองได้หลายลุคอยู่เหมือนกัน (หัวเราะ) สนุกมาก ๆ เลยค่ะวันนี้ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ

นางแบบ : เฌอปราง อารีย์กุล ช่างภาพ : กิตติเดช เจริญพร ผู้ช่วยช่างภาพ : สมบูรณ์เกียรติ วงศ์หอม , รัฐภูมิ บุญทา สไตลิสต์ : กรรณานุช กันยามัย ผู้ช่วยสไตลิสต์ : เหมือนตะวัน สุวรรณศิลป์ ช่างหน้า : อดิศร  ปีปวน ช่างผม : พิเชษฐ ภูบรรทัด เสื้อผ้า : @milin_brand, @landmee_official