หลากหลายความทรงจำกับรางวัล “ออสการ์” (2)
คืนวันที่ 21 มีนาคม 1994 ที่ลอส แองเจลลิส มีงานการประกาศรางวัลออสการ์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 66 ได้รับความสนใจจากคนนิวซีแลนด์ และคนที่อยู่ในเวลลิงตันอย่างเราด้วย รางวัลไหนก็ไม่ตื่นเต้นเท่ากับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงดีเด่นที่มีหนูน้อยแอนนา พาร์ควิ้น วัย 11 ปี นักแสดงหน้าใหม่เอี่ยมอ่องจากเรื่อง เดอะ เปียโน เป็นหนึ่งในห้าของนักแสดงผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนี้ด้วย
ที่จริงภาพยนตร์เรื่อง The Piano ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงด้วยถึง 8 รางวัล แต่ที่ผู้คนสนอกสนใจกันมาก
น่าจะเป็นรางวัลที่หนูน้อย แอนนา พาร์ควิ้น วัย 11 ปี ของนิวซีแลนด์ ได้เข้าชิงในฐานะดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยม
นี่แหละค่ะ เพราะความโดดเด่นของนักแสดงสาวน้อยคนนี้ เรียกเสียงเชียร์กระหึ่มจากผู้คนที่ได้ดู ไม่เฉพาะในนิวซีแลนด์เท่านั้น แต่ในวงการภาพยนตร์เองก็พูดถึงกันมาก เสน่ห์ของเธอเล่นเอาผู้เข้าชิงอีกสี่คนคงหนักใจอยู่ไม่น้อย
นอกจากนี้ ฮอลลี่ ฮันเตอร์ นางเอกของเรื่องก็แสดงได้ดีมาก ๆ เธอรับบทเป็นภรรยาที่ถูกแซม นิล สั่งซื้อทางไปรษณีย์ เป็นใบ้แต่รักเสียงเพลง มีเปียโนตัวโปรดที่หอบหิ้วเอาติดมาด้วย พร้อมลูกสาวที่ รับบทโดยแอนนา และสัมภาระส่วนหนึ่ง แต่พระเอกไม่สนใจเรื่องดนตรีเลย ในขณะที่ชายชาวเมารี ที่เป็นทั้งเพื่อนและลูกน้องพระเอกกลับสนใจ และสุดท้ายยอมแลกที่ดินกับเปียโนที่พระเอกให้ทิ้ง และขอให้นางเอกมาสอนให้ เรื่องราวของเดอะ เปียโน แฝงเรื่องราวสัญลักษณ์ของสตรีที่แกร่งกล้า ไม่ยอมจำนน จนสามารถที่ก้าวเดินออกไปสู่ชีวิตที่เป็นอิสระได้ในที่สุด
เป็นภาพยนตร์ยุคแรก ๆ ที่ประกาศศักดิ์ดาของความเป็นผู้หญิงแกร่ง ที่ไม่ยอมทนอยู่ใต้อาณัติของผู้ชายเรื่องนี้ เจน แชปแมน สาวชาวเมืองเวลลิงตันของนิวซีแลนด์ เป็นทั้งผู้เขียนบท ผู้กำกับการแสดงและผู้สร้าง ถือเป็นเรื่องที่สร้างได้ไม่ง่ายนัก นักแสดงเด่น ๆ แม้จะไม่กี่ตัว แต่ทุกคนตั้งใจเล่นบทของนางเอกนิ่งเงียบมาตลอดจนเกือบจบ ถึงจะมีบทหัดพูด หัดเรียนภาษาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่และสื่อสารกับผู้คนได้
ในคืนวันประกาศรางวัลทันทีที่ ยีน แฮคแมน ประกาศชื่อผู้ชนะที่ได้รางวัลนี้ไปครอง กล้องก็จับภาพไปที่ใบหน้าของ แอนนา ที่ลุกพรวดขึ้นยืน ใบหน้าตื่นเต้นและดีใจแบบสุด ๆ เกินคาด ทั้งนี้อย่างที่เราทราบกันดี เพราะถูกกระแสบั่นทอนที่คอยกรอกหูว่าไม่ได้หรอกอย่าไปหวังดีกว่า ทำเอาเจ้าตัวพลิกความรู้สึกกลับมารับแทบไม่ทัน ถึงได้ตื่นเต้นเอามาก ๆ ที่จริงถ้าปล่อยให้เป็นปกติ ได้หรือไม่ได้ก็แล้วไป ถ้าความเป็นปกติไม่ถูกบั่นทอนหรือความหวังไม่ถูกสกัดกั้นออกมาดัง ๆ คนที่มีใจเป็นธรรม ที่ได้ดูได้เห็นฝีไม้ลายมือเห็นการแสดงของเธอมาแล้ว ย่อมสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ และจิตวิญญาณของการเป็นนักแสดงที่แท้จริงของแอนนา เปอร์เซ็นต์ของชัยชนะรางวัลนี้ ยังไงซะก็น่าจะเกือบถึงร้อยแน่นอน และผลก็ออกมาอย่างนั้นจริง ๆ
เราจึงได้เห็นอากัปกิริยาที่แสนซื่อบริสุทธิ์ของเธอ เมื่อเดินขึ้นไปยังเวทีที่ ยีน แฮคแมน ผู้ประกาศส่งรางวัลให้และเชิญเธอไปยืนที่โพเดียม เพื่อกล่าวสุนทรพจน์ หรือกล่าวขอบคุณ แต่แอนนาตื่นเต้น และดูจะประหม่าหายใจหายคอไม่ทัน คงเพราะความที่ถูกบั่นทอนกำลังใจและความหวังเอาไว้มาก ทำให้กว่าจะตั้งตัวรับได้ก็ใช้เวลายืนนิ่ง ๆ ยิ้มไปยิ้มมาอยู่หลายนาที ได้แต่ยืน หายใจออกระรัว ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ใบหน้าบริสุทธิ์ไร้เดียงสาแสดงถึงความตื่นเต้นดีใจเกินคาด แต่ในที่สุด คนทั้งห้องก็ได้ยินเสียงของเธอ ได้ยินคำขอบคุณ ได้เห็นรอยยิ้มที่น่ารัก เธอกล่าวขอบคุณผู้มีส่วนสนับสนุนเธอ เป็นคำกล่าวสั้น ๆ ได้ใจความ แล้วก็เดินลงจากเวทีกลับไปยังที่นั่ง ปล่อยให้ยีน แฮคแมน ที่จะต้องพาเธอเดินกลับเข้าไปทางหลังเวทีด้วยกัน ถึงกับยืนงง และนั่นเป็นบรรยากาศที่แม้จะผ่านมาเกือบ 30 ปีแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น กลายเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่ารัก น่าจดจำและบันทึกถึงเอาไว้
ในปีนั้น เดอะ เปียโน คว้าออสการ์มาได้ 3 ตัว ซึ่งแน่นอนที่ ฮอลลี่ ฮันเตอร์ คว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม และ เจน แคมเปี้ยน แม้จะพลาดหวังจากรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม แต่เธอก็คว้ารางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาครองได้แทน
ย้อนกลับไปยังที่มาของความทรงจำกับรางวัล ออสการ์ ที่ผ่านมาไม่นานนี้ ทำให้ มิเชล โหย่ว สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เป็นนักแสดงหญิงชาวเอเชียคนแรกที่ได้รับรางวัลดาราหญิงยอดเยี่ยมไปครอง จากภาพยนตร์เรื่อง Everything Everywhere All at Once ในบทแม่บ้านชาวจีนอพยพ เจ้าของร้านซักรีดในอเมริกา
ท้ายนี้ ขออวยพรวันเกิดย้อนหลัง ให้กับ เจน แชปแมน สาวเก่งชาวนิวซีแลนด์ ที่คว้ารางวัลออสการ์ ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาครองได้สำเร็จเมื่อไม่นานมานี้ ขอให้มีความสุขมาก ๆ และคว้าออสการ์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นะคะ