ล่องเรือชิมอาหาร ความอร่อยของนักเดินเรือ
บางครั้งการเลือกร้านให้โดนใจ ในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ก็ทำเอาหนักใจอยู่ไม่น้อย “บรรยากาศดี มีสตอรี่ นั่งสบายแบบ New Normal” นึกไปนึกมา ชื่อเรือสิริมหรรณพ ก็เด้งขึ้นมาในหัว ที่นี่จัดเสิร์ฟอาหารที่มีเรื่องราวเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงเรื่องราวของเรือเองที่จอดเทียบท่าเรือเอเชียทีคแห่งนี้ ที่ทำให้บรรยากาศของที่นี่โดดเด่นขึ้นมาทันที รับรองเลยว่าหากคุณได้ลองมาสัมผัส คุณจะต้องกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน
ก่อนอื่นต้องขอเล่าย้อนไปถึงต้นแบบของเรือสิริมหรรณพลำนี้มี ซึ่งถอดแบบมาจากเรือสำเภาสามเสาของราชนาวีไทย ที่มีชื่อว่า “เรือทูลกระหม่อม” ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) ที่มีบทสำคัญอย่างมากในการขนถ่ายสินค้าจากสยามสู่ยุโรป อีกทั้งเรือลำนี้ยังเป็นหนึ่งในเรือทั้ง 6 ลำที่ทำหน้าคอยปกป้องสยามจากการล่าอาณานิคมของยุโรปในปี พ.ศ. 2436 อีกด้วย
สิริมหรรณพ ลำนี้ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ถูกนำมาเทียบท่าถาวรที่ท่าเรือเอเชียทีคที่เดิมอันเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัท อีสต์เอเชียติ๊กเทรดดิ้ง ในอดีต ซึ่งเป็นท่าเรือระหว่างประเทศแห่งแรกของไทย ภายในโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ในปัจจุบัน
โดยมีคอนเซ็ปท์คือการเดินเรือไปยุโรปผ่านเส้นทางอันหลากหลาย การใช้ชีวิตบนเรือ ของกัปตันและลูกเรือ ผสมผสานเครื่องปรุง และวัตถุดิบ ในแต่ละท้องถิ่นเมื่อเรือได้หยุดพัก มารังสรรค์เมนูให้เข้ากับวัตถุดิบที่นำติดเรือไปด้วย รังสรรค์ออกมาในแบบ East Meet West ได้อย่างลงตัว โดยเชฟ ส้ม – พักตร์พิไล เชี่ยนมั่น Sous Chef ผู้มากประสบการณ์บนเรือแห่งนี้
สำหรับเมนูกินเล่นจานแรกที่เชฟส้มแนะนำคือ เป็น Green Papaya Fries มาที่นี่ได้ชิมของที่ไม่เหมือนที่อื่นอย่างแน่นอน เพราะจานนี้เป็นการนำเอามะละกอ มาชุบแป้งทอดด้วยสูตรพิเศษของทางเชฟ ทานคู่กับเบงกอลซอส ซึ่งเป็นเรื่องราวระหว่างทางเมื่อเรือแวะพักประเทศอินเดีย โดยการนำซอสเคอรี่ของอินเดียมาผสมกับวัตถุดิบที่มีบนเรือ จานนี้กลิ่นของเคอรี่หอมฟุ้ง บ่งบอกความเป็นอินเดียเป็นอย่างมาก แต่เมื่อทานกับมะละกอชุบแป้งทอดกลับได้รสชาติที่กรุบกรอบ เปรี้ยวนิด มันหน่อย กินเล่น ๆ กับเครื่องดื่ม ระหว่างรออาหารจานหลัก อร่อยเลยแหละ!!
ถัดมาเป็น Fresh Asian Baby Green เรื่องราวของจานนี้คือด้วยความที่ลูกเรือต้องการวิตามินซี ซึ่งไม่สามารถหามะนาวสดได้บนเรือ ลูกเรือจึงได้ใช้มะขามเปียกที่มีอยู่บนเรือมาทำเป็นน้ำสลัดมะขามเปียก ความพิเศษของมะขามเปียกคือมีวิตามินซีสูง กินคู่กับหอมทอดกระเทียม และผักไทย ๆ อย่าง ใบมิ้นต์ โหระพา ผักชี รสชาติเข้ากันได้อย่างดีมาก คำแรกที่ทาน จานนี้ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้เราได้เป็นอย่างดี
เมื่อเรือเดินทางถึงน่านน้ำของไอซ์แลนด์ จึงเกิดเป็นจานนี้ขึ้นมา Cunnigar Dungarvan Oyster ซึ่ง Cunnigar คือน่านน้ำของไอซ์แลนด์ น่านน้ำตรงนั้นจะมีความเค็ม จึงส่งผลให้ รสชาติ Oyster เค็มนิดนึง ตัดความเค็มด้วยการจิ้มกับซอสสับปะรด สูตรของเชฟ รสชาติลงตัว หรือหากอยากจะจิ้มกับซอสซีฟู้ด ก็มีเสิร์ฟมาให้ด้วย
มาต่อกันที่เมนูซิกเนเจอร์ของที่นี่ Smoked Peppered Mackerel ปลาแมคคาเรลที่ได้จากการเดินเรือในแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งคนสแกนดิเนเวียนเขาจะมีวิธีถนอมอาหารด้วยการนำปลาที่ได้ไปแขวนไว้ใต้ถุนบ้านให้แห้ง เป็นการดรายเอจด้วยความเย็น โดยทางเชฟส้ม ได้นำมาปรับปรุงโดยการเพิ่มอุณหภูมิเข้าไปเพื่อให้ปลาสุกจนได้ที่ เสิร์ฟคู่กับขนมปังกะลาสี ที่ลูกเรือในสมัยนั้นทานกันจริง ๆ กินคู่กับ ฮอสแรดิชซอส ซอสวาซาบิในเวอร์ชั่นยุโรปรสชาติพอดีกันมาก
ต่อด้วย Gulf of Thailand Spicy Eggplant Curry เป็นแกงเจแบบทางใต้ ผสมผสานกับเครื่องแกงสูตรของเชฟส้ม ที่ปรับรสชาติให้เผ็ดน้อยลง กินคู่กับข้าวไรซ์เบอรี่หอมนุ่มและโรตีอันเป็นที่เลื่องลือของที่นี่
ด้วยความที่เป็น MiX เชฟส้มจึงได้จัดเสิร์ฟจานใหม่ล่าสุดที่ยังไม่มีใครได้รีวิว นั่นคือ Sea Bass Tartare สตอรี่ของจานนี้คือปลาทะเลที่ได้ระหว่างการเดินเรือในมหาสมุทร มาผสมผสานกับเครื่องเทศไทย ๆ ทั้งใบมะกรูดและผักชี ที่มีอยู่ในเรือ ท็อปด้วยแอปเปิ้ลเขียว และอะโวคาโด ช่วยเพิ่ม
โอเมก้า 3 ให้ทุกคนบนเรือ
ดูเหมือนว่าอาหารที่ครีเอทมาแต่ละจาน จะโดนใจทุกคนบนเรือ ทั้งเรื่องราวอันสนุกสนานของแต่ละเมนู รวมถึงความอร่อยในแบบราคาที่สบายกระเป๋า และดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้จะไม่ยาวไกลเท่าไหร่นัก เพราะด้วยสถานการณ์โควิด–19 ฉะนั้นน้องแนนขอตัวไปชิมให้ครบทุกจาน และเก็บภาพหลาย ๆ มุมเพื่อลงโซเชียลส่วนตัวก่อนนะคะ
More information
เรือสิริมหรรณพ ตั้งอยู่ที่ท่าเรือ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อน : เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ เวลา 16.00 - 21.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 12.00 - 21.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองข้อมูลเพิ่มเติม : 0-2059-5999 : [email protected] ://portal.marriott.com/bkkqp-dining/sirimahannop