เบนท์ลีย์ แบงค็อก เผยโฉมไอคอนสุดล้ำ The All New Flying Spur

เบนท์ลีย์ แบงค็อก เผยโฉมไอคอนสุดล้ำ The All New Flying Spur

เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดยเอเอเอสออโต้เซอร์วิส จำกัดเผยโฉมไอคอนสุดล้ำ “The All New Flying Spur” สปอร์ตซีดานหรูใหม่ล่าสุดผ่านเทคโนโลยี AR ครั้งแรกในประเทศไทย ณงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่36

  • (กรุงเทพมหานคร, 28 พฤศจิกายน2562) บริษัทเอเอเอสออโต้เซอร์วิสผู้แทนจัดจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในเมืองไทยจัดแสดงโชว์รถยนต์แกรนทัวเรอร์ 4 ประตูสุดหรูสัญชาติอังกฤษคงความหรูหราพร้อมการตกแต่งสุดร่วมสมัยอย่าง The All New Flying Spur (ดิออล์นิวฟลายอิ้งสเปอร์) ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 (The 36thThailand International Motor Expo 2019) ในวันที่ 29 พ.ย. - 10 ธ.ค. 2562 บูทB02/1 พร้อมเอาใจแฟนๆผู้ที่ชื่นชอบ Flying Spur กับดีไซน์แห่งโลกอนาคตที่ถูกถ่ายทอดลงในคอนเซปคาร์รุ่นล่าสุดEXP 100 GT พร้อมฟลายอิ้งบีเรืองแสงไอคอนสุดอัจฉริยะเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 100 ปีของเบนท์ลีย์ทั่วโลกโดยเผยโฉมครั้งแรกในประเทศไทย ผ่านเทคโนโลยีสุดล้ำ AR (Augmented Reality) เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “Bentley Flying Spur AR Visualiser” บนสมาร์ทโฟนอย่าง Apple และAndroid
  • โดยงานดังกล่าวได้รับเกียรติจากเซเลบริตี้สาวสวยอย่างคุณแม่ลูกแฝด มาร์กี้ ราศรีบาเล็นซิเอก้าจิราธิวัฒน์เป็นแขกรับเชิญคนพิเศษ ร่วมด้วยพิธีกรสาวมากความสามารถอย่าง อาลิซาเบธแซ๊ดเลอร์ลีนานุไชย รับหน้าที่พิธีกรดำเนินรายการ

         นอกจากนี้เบนท์ลีย์แบงค็อกยังได้จัดเผยโฉม Bentley BentaygaV8 ที่สุดแห่งเอสยูวีสัญชาติอังกฤษ พร้อมด้วย Primed Body Kits ชุดแต่งสไตล์สปอร์ต  ที่สามารถเลือกสีได้ดั่งใจ ให้รถ Bentayga โดดเด่นเป็นที่จับจ้องของทุกสายตา กับข้อเสนอสุดพิเศษแห่งปี

          พร้อมทั้งจัดแสดง Bentley Continental GT ขีดสุดแห่งรถยนต์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยจิตวิญญาณ สมรรถนะการขับขี่เหนือระดับการตกแต่งด้วยฝีมืออันแสนประณีตและเทคโนโลยีล้ำอนาคตก่อกำเนิดซึ่งรถยนต์แกรนทัวริ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา และในโอกาสที่เบนท์ลีย์ได้เข้าร่วมงานมหกรรมยานต์ยนต์ครั้งที่ 36 นี้ทางเอเอเอสออโต้เซอร์วิสขอเอาใจเหล่าแฟนๆผู้ที่ชื่นชอบในผลิตภัณฑ์ของ Bentley Collections เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี ด้วยการมอบส่วนลดสุดพิเศษ 20% ตลอดทั้งงาน

          คุณวินธรบุนนาคกรรมการผู้จัดการบริษัทเอเอเอสออโต้เซอร์วิสจำกัดกล่าวว่า “ทางบริษัทฯมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในมหกรรมยานต์ยนต์ครั้งที่ 36 นี้และมีโอกาสจัดแสดงโชว์รถในโอกาสครบรอบ 100 ปีที่แฟนๆเบนท์ลีย์ทั่วทุกมุมโลกตั้งตารอคอยแบรนด์เบนท์ลีย์นั้นขยายความเข้มแข็งและเติบโตในส่วนของ Brand positioning ในเมืองไทยเป็นอย่างมากโดยมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องในส่วนของตัวแบรนด์เบนท์ลีย์นั้นยังมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานไม่เพียงแต่โดดเด่นในด้านทีมวิศวกรที่เชี่ยวชาญแผนกดีไซน์ที่คงไว้ซึ่งจุดเด่นของความปราณีตบรรจงเท่านั้นแต่ยังเติบโตควบคู่ไปกับส่วนของความแข็งแกร่งในส่วนของMotorsport อีกด้วยจะเห็นได้ว่าแบรนด์เบนท์ลีย์คือแบรนด์อัครยนตรกรรมหรูที่ผลิตรถที่พิเศษสำหรับลูกค้าที่มีความพิเศษโดดเด่นไม่เหมือนใครเท่านั้นทั้งหมดนี้จึงกล่าวได้ว่าเบนท์ลีย์เป็นแบรนด์ที่รวบรวมความหรูหราและสมรรถนะที่เหนือชั้นได้อย่างลงตัว” คุณวินธรกล่าวทิ้งท้าย

The All New Flying Spur

          เป็นที่รู้กันเป็นอย่างดีกับสัญลักษณ์แห่งที่สุดในโลกแห่งยนตกรรมอย่างฟลายอิ้งบีมาสคอตของเบนท์ลีย์ซึ่งจะถูกนำมาเพิ่มความหรูหราและผสานความร่วมสมัยเป็นครั้งแรกให้กับดิออล์นิวฟลายอิ้งสเปอร์แกรนทัวเรอร์4ประตูสุดหรูสัญชาติอังกฤษ ด้วยดีไซน์สุดล้ำสมัยตอบรับทศวรรษหน้าฟลายอิ้งบีถูกออกแบบมาให้ฝังอยู่ภายใต้โลโก้ปีกนกของเบนท์ลีย์บริเวณฝาประโปรงหน้าและสามารถปรับขึ้นมาเหนือฝากระโปรงตอกย้ำความเป็นที่หนึ่งในด้านเทคโนโลยีความล้ำสมัยของฟลายอิ้งสเปอร์ในเจนเนอเรชั่นที่3 ในส่วนอนาคตของต้นแบบยนตกรรมหรูฟลายอิ้งบีได้ถูกนำมาใช้กับคอนเซปคาร์อย่าง EXP 100 GT ซึ่งถือเป็นไอคอนสุดอัจฉริยะด้วยฟังก์ชันเรืองแสงโดยสามารถปรับแสงตั้งแต่งกระจังหน้ารถผ่านตัวมาสคอตฟลายอิ้งบีตลอดจนตัวถังถึงห้องโดยสารฟลายอิ้งบีได้ถูกนำมาใช้ครั้งแรกเมื่อเกือบ90กว่าปีที่แล้วกับโมเดลเครื่อง8ลิตรปี1930ตัวมาสคอตไม่ได้ถูกใช้ให้เป็นมาตรฐานในสมัยนั้นเพียงแต่เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าเท่านั้น

           มาสคอตแบบดั้งเดิมเป็นตัวอักษร B ประกบด้วยปีกนกและมีลักษณะแบนเรียบถือกำเนิดโดย W.O. Bentley ผู้ก่อตั้งบริษัท Bentley Motor ในปี 1919 ซึ่งเป็นเวลากว่า100ปี เนื่องในโอกาสครบรอบ100ปีรูปแบบมาสคอตได้ถูกออกแบบใหม่ให้สอดคล้องกับอีกทศวรรษของเบนท์ลีย์และถือเป็นวิวัฒนาการของการออกแบบมาสคอตแบบดั้งเดิมสำหรับเดอะนิวฟลายอิ้งสเปอร์นั้นตัวมอสคอตได้ถูกออกแบบมาให้สามารถควบคุมและปรับแสงด้วยระบบไฟฟ้าซึ่งเชื่อมกับ Welcome Lighting และระบบกุญแจอัจฉริยะเมื่อผู้ขับเข้าใกล้ตัวรถ ดิออล์นิวฟลายอิ้งสเปอร์รวมเอาความโฉบเฉี่ยวของสปอร์ตซีดานและนิยามใหม่ของความหรูหราแบบร่วมสมัยเข้าด้วยกันซึ่งการออกแบบการประกอบและวางระบบรวมถึงงานฝีมือได้ถูกดำเนินการในประเทศอังกฤษประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตรถแกรนทัวร์เรอร์อันดับต้นๆของโลก ทำให้มั่นใจได้ถึงความเป็นที่สุดของความปราณีตและใส่ใจในทุกรายละเอียด สำหรับฟลายอิ้งสเปอร์เจ้าของวิวัฒนาการขุมพลังใหม่ 6 ลิตรเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบชาร์จ W12 พร้อมแล้วสำหรับการสั่งจองโดยจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นไป

Bentayga V8 Petrol

         Bentayga V8 ใหม่คือขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินV8 บล๊อกล่าสุดขนาดความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร 32 วาล์วเสริมด้วยระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์คู่แบบdual twin-scroll ติดตั้งบริเวณกึ่งกลางระหว่างฝาสูบเครื่องยนต์รูปตัว ‘V’ สร้างสรรค์พละกำลังสูงสุด 550 แรงม้า (542 bhp) พร้อมแรงบิดมหาศาลกว่า 770 Nm (568 lb.ft.) ทะยานทะลุความเร็วสูงสุดถึง 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (180 mph) ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในระยะเวลา 4.5 วินาที (0-60 mph ภายในระยะเวลา 4.4 วินาที) แม้ว่าจะมีสมรรถนะเหนือระดับยิ่งกว่า Bentayga V8 ยังคงความเป็นเลิศด้วยพิสัยการเดินทางสูงสุดเป็นระยะทางกว่า 746 กิโลเมตร (464 ไมล์) ปล่อยไอเสียCO2 เพียง 260 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น

 

           ประสิทธิภาพการทำงานที่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเหลือเชื่อ (อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 24.8 mpg หรือ 11.4 ลิตร/100 กิโลเมตร) คือผลลัพธ์ที่ได้จากการปฎิบัติงานของระบบควบคุมเครื่องยนต์อัจฉริยะซึ่งสามารถตัดการทำงานของเครื่องยนต์ลงถึงสี่กระบอกสูบจากทั้งหมดแปดกระบอกสูบโดยขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่ที่เหมาะสมในขณะนั้นทั้งนี้ฟังก์ชั่นดังกล่าวไม่ได้ลดทอนสมรรถนะของเครื่องยนต์ลงแม้แต่น้อยรวมทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับควบคุมใดๆทั้งสิ้นกระบวนการทำงานที่เกิดขึ้นอาศัยเวลาเพียง 20 มิลลิวินาทีเท่านั้น 

          เสริมด้วยเทคโนโลยี Stop-Start ซึ่งทำหน้าที่ตัดการทำงานเมื่อขับขี่ในสภาวะ ‘near-to-stop’ หรือลดความเร็วจนใกล้หยุดนิ่งอันมีส่วนช่วยลดอัตราการปล่อยไอเสียได้เช่นเดียวกัน ส่วนผสมสุดแสนลงตัวระหว่างพละกำลังและความนุ่มนวลคือเอกลักษณ์ที่แตกต่างและหาตัวจับได้ยากของ Bentayga V8 เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับคู่แข่งส่วนตลาด Luxury SUV Bentayga V8 ติดตั้งระบบ Bentley Dynamic Ride – เทคโนโลยีล่าสุดครั้งแรกของโลกควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวด้วยอิเลกทรอนิกส์ 48 โวลต์

 

          ทำหน้าที่ตรวจจับและชดเชยแรงกระทำต่อตัวรถในแนวราบเมื่อขับขี่เข้าโค้งเพื่อสร้างความมั่นใจว่าหน้าสัมผัสของยางจะแนบสนิทกับพื้นถนนอย่างเต็มที่ในทุกสภาวะการณ์ส่งผลต่อความนุ่มนวลมั่นคงที่รู้สึกได้ภายในห้องโดยสารเสริมประสิทธิภาพการขับขี่และบังคับควบคุมที่แม่นยำเฉียบคมเหนือระดับยิ่งกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน ระบบ Bentley adaptive และreactive รับบทบาทในการแปรผันแรงบิดที่เกิดขึ้นกับช่วงล่างและตัวถังผลลัพธ์คือศักยภาพในการขับขี่สไตล์สปอร์ตและความนุ่มนวลสะดวกสบายที่สามารถรองรับการใช้งานสารพัดรูปแบบต้นแบบระบบอิเลกทรอนิกส์แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ให้การทำงานที่ราบเรียบเงียบสนิทและมีอัตราการตอบสนองที่รวดเร็วฉับไวพร้อมบุกตะลุยในทุกสภาพเส้นทางที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า 

         Bentayga V8 ส่งมอบความนุ่มนวลสะดวกสบายสูงสุดทั้งในแง่ของการขับขี่และการโดยสารพวงมาลัยให้สัมผัสที่ว่องไวกระฉับกระเฉงและบังคับควบคุมได้อย่างเชื่องมือต้องยกคุณงามความดีให้กับระบบช่วงล่างและระบบควบคุมการทรงตัว Electronic Stability Control (ESC) ชั้นเลิศผสานการทำงานกับระบบmulti-mode Traction Control (TCS) ยิ่งไปกว่านั้น Bentayga ยังได้รับการติดตั้งระบบช่วยเหลือเมื่อขับขี่บนทางลาดชัน Hill Descent Control อีกด้วย ระบบช่วยเหลือการขับขี่อันเป็นศาสตร์แห่งศิลปรวมทั้งการออกแบบดีไซน์ฟังก์ชั่นแสดงข้อมูลอย่างชัดเจนเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัยความสะดวกสบายและอรรถะประโยชน์ล้นเหลือทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ทำให้ Bentayga V8 คือยนตกรรมสปอร์ตSUV สุดหรูหราที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์ล้ำอนาคต ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC) 

 

          ซึ่งรวมเอาฟังก์ชั่นตัดการทำงานของเครื่องยนต์ Stop & Go ระบบ Predictive ACC และระบบ Traffic Assist ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าและรักษาระยะห่างระหว่างรถยนต์คันหน้าได้อย่างปลอดภัยทั้งนี้ระบบ Predictive ACC จะอาศัยข้อมูลจากระบบนำทางผ่านดาวเทียม navigation เซนเซอร์ตรวจจับสัญญาณและกล้องจับภาพเพื่อคาดหมายสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่กำลังขับขี่เข้าใกล้ทางแยกพื้นที่ในเขตเมืองและเส้นทางที่จำกัดความเร็วระบบจะรับหน้าที่ปรับเปลี่ยนความเร็วรถยนต์ให้สอดคล้องกับสภาพการจราจร ส่งผลดีต่อทั้งความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในสภาพจราจรของเขตเมืองใหญ่ระบบช่วยเหลือมากมายจะรับบทบาทในการทำงานร่วมกับผู้ขับขี่ Bentayga V8 อาทิระบบ Traffic Sign Recognition ตรวจจับป้ายสัญญาณจราจรที่แตกต่างกันพร้อมแสดงข้อมูลมายังผู้ขับขี่; ระบบ Rear Crossing Traffic Warning ทำงานด้วยเทคโนโลยีเรดาห์ตรวจสอบการจราจรในกรณีที่ถอยรถออกจากทางช่องจอดที่อับสายตา; การแสดงภาพด้านบนตัวถังแบบ Top View ผ่านระบบการประมวลผลด้วยกล้องถ่ายภาพสี่ตัวเพื่อถ่ายทอดสภาพแวดล้อมด้านนอกตัวรถมายังผู้ขับขี่

         นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบ Park Assist ตรวจจับและแจ้งเตือนระยะถอยจอดอย่างเหมาะสมปลอดภัย (แจ้งข้อมูลทั้งในกรณีถอยเข้าช่องจอดและถอยจอดเทียบข้าง) ก่อนที่ระบบพวงมาลัยอัตโนมัติจะเข้ามารับหน้าที่ควบคุมทิศทางในการจอดรถขั้นตอนต่อไปนวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัยอื่นๆอีกมากมายรวมไปถึงระบบ Night Vision ซึ่งทำงานด้วยเทคโนโลยีลำแสง infra-red จำแนกแยกแยะประเภทของสิ่งกีดขวางด้านหน้าอย่างแม่นยำนอกจากนี้ยังมีระบบแสดงผล Head-Up Display ลดการละสายตาของผู้ขับขี่จากเส้นทางตรงหน้าเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

 

          Bentayga ติดตั้งหน้าจอinfotainment ระบบสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 8 นิ้วเชื่อมต่อกับระบบนำทางผ่านดาวเทียมเวอร์ชั่นล่าสุดหน่วยความจำภายในขนาดความจุ 60GB และสามารถเลือกภาษาได้มากถึง 30 ภาษาตำแหน่งเบาะนั่งสำหรับผู้โดยสารตอนหลังสามารถสัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงเหนือระดับได้อย่างอิสระผ่าน Bentley Entertainment Tablet – ด้วยหน้าจอขนาด 10.2 นิ้วที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ทำงานด้วยระบบปฎิบัติการ Android พร้อมรับสัญญาณ 4G เชื่อมต่อสัญญาณWiFi และ Bluetooth ย่อโลกแห่งการติดต่อสื่อสารความเร็วสูงมาไว้ในมือ

 

          สำหรับ Bentayga V8 ลูกค้าสามารถเลือกระบบเครื่องเสียงที่แตกต่างกับได้ถึงสามระบบได้แก่: ระบบเครื่องเสียงมาตรฐานBentley Standard Audio ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงBentley Signature Audio และระบบเครื่องเสียงสุดยอดNaim for Bentley Premium Audio ซึ่งให้พลังเสียงที่หนักแน่นที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกันกำลังขับสูงสุดถึง 1,950 วัตต์ถ่ายทอดเสียงดนตรีสุดสมจริงผ่านลำโพงคุณภาพชั้นเลิศรวม 18 ลำโพงและลำโพงเสียงแหลม super-tweeters เพื่อการเข้าถึงความถี่สูงสุด

The New Continental GT W12 

         Bentley Continental GT ขีดสุดแห่งรถยนต์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยจิตวิญญาณสมรรถนะการขับขี่เหนือระดับการตกแต่งด้วยฝีมืออันแสนประณีตและเทคโนโลยีล้ำอนาคตก่อกำเนิดซึ่งรถยนต์แกรนทัวริ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยหัวใจสำคัญซึ่งถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบหลักของ Continental GT ใหม่คือขุมพลังเครื่องยนต์วิวัฒนาการล่าสุดจาก Bentley เครื่องยนต์ W12 TSI ทวินเทอร์โบชาร์จปริมาตรความจุกระบอกสูบ 6.0 ลิตรนับเป็นครั้งแรกในการติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่แปดจังหวะให้ประสิทธิภาพในการถ่ายทอดพละกำลังและเปลี่ยนอัตราทดที่รวดเร็วฉับไวยิ่งขึ้น

 

          เทคโนโลยีล้ำอนาคตที่อัดแน่นในทุกกระเบียดนิ้วไม่ว่าจะเป็นระบบ adaptive chassis อัจฉริยะของBentley ควบคุมการขับขี่สไตล์สปอร์ตด้วยระบบอิเลกทรอนิกแรงดันสูง 48 โวลท์เพื่อความมั่นใจเต็มพิกัดในแง่ของอัตราการตอบสนองต่อการบังคับควบคุมและเสถียรภาพในการทรงตัวที่หนึบแน่นมั่นคงในทุกสภาพเส้นทางยิ่งไปกว่านั้นระบบดังกล่าวยังรับหน้าที่ควบคุมประสิทธิภาพในการรองรับเพิ่มความนุ่มนวลสะดวกสบายลดอาการโคลงตัวในแนวราบปกป้องผู้โดยสารจากการสั่นสะเทือนที่ไม่จำเป็นผลลัพธ์คือการขับขี่เดินทางที่นุ่มเงียบและเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย

 

          งานออกแบบตัวถังภายนอกที่กำหนดบุคลิกภาพอันแข็งแกร่งเติมเต็มทุกส่วนประกอบด้วยเทคโนโลยีล่าสุดส่งผลให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาในขณะที่โครงสร้างมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นตำแหน่งการวางเครื่องยนต์ได้รับการเลื่อนถอยหลังเข้าใกล้ห้องโดยสารมากขึ้นเพื่อความสมดุลย์ในการกระจายน้ำหนักทั้งหมดนี้มีวัตถุประสงค์หลักในการเสริมสมรรถนะการขับขี่และประสิทธิภาพในการบังคับควบคุม

 

          สร้างสรรค์อรรถะประโยชน์สูงสุดสำหรับรองรับผู้โดยสารทั้งสี่ที่นั่งปรับปรุงพื้นที่บรรทุกสัมภาระท้ายรถเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานในทุกวันของชีวิตอย่างเหมาะสมลงตัวภายในห้องโดยสารของ Bentley Continental GT ใหม่เปี่ยมล้นด้วยบรรยากาศแห่งความหรูหราพิถีพิถันในรายละเอียดทุกๆตารางนิ้วอาทิวัสดุหนังแท้คุณภาพสูงลวดลายใหม่ ‘diamond in daimond’ หรืองานประดับตกแต่งภายในที่โดดเด่นลงตัวจากแนวทางการผสมผสานระหว่างวัสดุและเฉดสีบนชิ้นส่วนภายในรวมทั้งพรมพื้นที่แตกต่างกันมากกว่า 15 เฉดสี

 

          Continental GT ใหม่คือยนตกรรมที่บ่งบอกถึงความล้ำหน้าและวิวัฒนาการของเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจาก Bentley อุปกรณ์สุดล้ำ driver-focused instrument panel แผงหน้าปัทม์ดิจิตอลเต็มรูปแบบและ Bentley Rotating Dispaly หน้าจอแสดงผลสำหรับการสื่อสารข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ขับขี่ด้วยนวัตกรรมแห่งอนาคตความคมชัดจากหน้าจอระบบสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้วติดตั้งบริเวณคอนโซลกลางพร้อมปรับเปลี่ยนได้ถึงสามรูปแบบสามารถปิดหน้าจอด้วยแผงลายไม้แท้กลมกลืนเรียบเนียนหรือเติมแต่งความสวยหรูมีระดับด้วยชุดเกจย์วัดทรงกลมแบบเข็มสามช่องสไตล์คลาสสิก

 

           งานออกแบบตกแต่งภายในห้องโดยสารของ Continental GT ได้รับการรังสรรค์ขึ้นด้วยความพิเศษสุดเพื่อให้ได้มาซึ่งบรรยากาศอันหรูหราร่วมสมัยความประณีตบรรจงใส่ในทุกรายละเอียดอย่างที่ไม่มีผู้ผลิตรถยนต์รายใดเทียบเคียงได้คือประสบการณ์ที่ผู้ครอบครองยนตกรรม Bentley เท่านั้นที่มีโอกาสได้สัมผัสการประสานอันสุดแสนลงตัวของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้ำสมัยมากมายเป็นหนึ่งเดียวกับชิ้นงานตกแต่งจากวัสดุธรรมชาติคุณภาพอันดับหนึ่งผ่านการขัดเกลาและติดตั้งอย่างสวยงามด้วยทักษะฝีมือของบุคลากรระดับปรมาจารย์ผลที่ได้คือความกลมกล่อมที่มาพร้อมความหรูหราและเปี่ยมอรรถะประโยชน์ในทุกอณู

เบนท์ลีย์ แบงค็อก เผยโฉมไอคอนสุดล้ำ The All New Flying Spur