เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ได้เกิดหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน จากการส่งแรงใจไปเชียร์ “มารีญา พูลเลิศลาภ” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ในการประกวดนางงามจักรวาล 2017 และเธอก็ไม่ทำให้คนไทยผิดหวัง เข้ารอบลึกถึง 5 คนสุดท้าย แม้ว่าเธอจะไม่ได้รับตำแหน่ง แต่เธอถือว่าเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทย วันนี้ผมได้แสดงความรู้สึกว่าเธอคือความสุขของคนไทย ณ ช่วงเวลานั้น ซึ่งเธอยิ้มขอบคุณ มันเป็นรอยยิ้มที่จริงใจ แฝงด้วยความน่ารักอ่อนหวาน ซึ่งแน่นอน ว่าผมไม่มีวันลืมรอยยิ้มนั้นเป็นอันขาด

หลังจากได้รับตำแหน่ง มิสยูนิเวิรส์ ไทยแลนด์ และเดินทางไปประกวดนางงามจักรวาล ก็มีผลงานต่อเนื่อง?

“ใช่ค่ะ ก็จะมีเดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าต่าง ๆ ถ้าถามว่ามารีญาแพลนที่จะทำอะไรหลังจากนี้ ก็จะมีโปรเจ็กต์ส่วนตัว เป็นการช่วยเหลือสังคม และทำงานในวงการควบคู่ไปด้วย เพราะงานในวงการมันท้าทายมารีญามาก ในแต่ละงานไม่เคยมีอะไรเหมือนเดิมเลย จะแตกต่างกันตลอด ทำแล้วสนุกตลอดเวลาค่ะ”

คุณมีเคล็ดลับในการวางตัวยังไง?

“อย่างแรกเลยคือต้องมี Positive Attitude คือทัศนคติเชิงบวกอย่างเวลาเราทำงานร่วมกับคนอื่น ง่าย ๆ เลยอย่างมารีญามาถ่ายแบบวันนี้ ก็จะมีการทำงานหลายฝ่าย ทั้งช่างภาพ หน้า ผม สไตลิสต์ และทุกคนทุ่มเทเพื่อให้ผลงานออกมาดี ดังนั้นมารีญาก็ต้องทุ่มเทเหมือนกันต้องเต็มที่กับทุกอย่าง ไปให้สุด นี่คือเคล็ดลับที่มารีญามีอยู่เสมอค่ะ”

แล้วตัวตนจริง ๆ ของนางงามที่ชื่อมารีญาล่ะ?

“เป็นคนง่าย ๆ ชอบใช้ของอะไรซ้ำ ๆ อย่างกางเกงถ้าชอบตัวไหนก็จะใส่ซ้ำ ๆ จนบางครั้งแฟนคลับถามว่า ซักบ้างหรือเปล่า (ยิ้ม) ของอะไรที่ยังใช้ได้ก็ใช้ต่อค่ะ และเป็นคนชอบทำกิจกรรม ชอบออกไปข้างนอก อยู่กับธรรมชาติ”

ถามถึงคอนเซ็ปต์การถ่ายแบบครั้งนี้บ้าง ธีม SAVE PLANET?

“ตอนที่นิตยสาร MiX ติดต่อมาและได้ทราบคอนเซ็ปต์ก็ดีใจมากเลยค่ะ เพราะตัวมารีญามีอะไรเกี่ยวกับการ Save Planet อยากแชร์เหมือนกัน ยิ่งพอทำออกมาเป็นแฟชั่นก็ยิ่งสนุก คือในทางแฟชั่นสามารถเอาสองอย่างมาผสานกันได้ เช่น พลาสติก, กล่องโฟม ขวดน้ำ เป็นอีกหนึ่งแฟชั่นที่สะท้อนให้หลายคนคิดว่าถ้าโลกเรามีขยะเยอะขนาดนี้ มันจะไม่ได้ดูสวยอย่างฉากที่เราฉาบไว้ ฉะนั้นต้องทำยังไงเริ่มยังไง อย่างมารีญาตั้งแต่เด็กทั้งที่บ้านและโรงเรียนก็จะปลูกฝังให้รักโลก รักสิ่งแวดล้อม เพราะเราต้องอยู่ด้วยกัน และมารีญาก็ทำอย่างนั้นมาตลอด ครั้งนี้จึงเป็นการเน้นย้ำว่าเราต้องใช้ชีวิตแบบไม่ฟุ่มเฟือย ให้เรานึกถึงว่าเราใช้อะไรบ้างแล้วมันจะกลายเป็นขยะเยอะขนาดไหน ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ถ้าช่วยกัน”

คุณไปเรียนต่อที่ประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ใส่ใจ เรื่องของสิ่งแวดล้อมมากที่สุด?

“ใช่ค่ะ ทุกคนรักษาทุกอย่างที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมาก แม้แต่ขยะก็มีถังเยอะมาก ไว้แยกพลาสติก, ขวดขาว, ขวดเขียว กระดาษคือทำทุกอย่างเพื่อให้สิ่งแวดล้อมดีที่สุด”

โดยส่วนตัวคุณคิดว่าแคมเปญหรือการรณรงค์ที่รัฐบาลทำประสบผลสำเร็จมากแค่ไหน?

“คิดว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง เพราะความรู้มันก็ทำให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมได้ แต่ต้องให้ความรู้ประชาชนเรื่อย ๆ เปลี่ยนทั้งระดับชุมชน จังหวัดและประเทศคือถ้าเราร่วมมือกันมันสามารถ เปลี่ยนได้แน่นอนค่ะ”

แล้วตัวคุณเองหันมาใส่ใจเรื่องของ SAVE PLANET ยังไง?

“อย่างที่บอกไปว่าตั้งแต่เด็ก พ่อแม่จะปลูกฝังเรื่องนี้เป็นพิเศษอย่างถ้าเราแพลนว่า เสร็จงานนี้เราจะไปช้อปปิ้งต่อ มารีญาก็จะขนของทั้งหมดใส่กระเป๋าตัวเอง หรือเอาถุงผ้าไป คือเราไม่จำเป็นต้องใช้ถุงพลาสติกเยอะขนาดนั้น เมืองนอกเราต้องเสียเงินซื้อถุงพลาสติก ทำให้คนคิดว่ามันไม่จำเป็น เราหาทางอื่นได้ คิดว่าถ้าทุกคนแพลนชีวิตดี ๆมันทำได้ แล้วทำได้ง่าย ๆ ด้วย”

อย่างของรีไซเคิล คุณใช้บ้างไหม?

“สำหรับตัวมารีญาวิธีการรีไซเคิลก็เช่นเอาเสื้อผ้าเก่าของคุณแม่มาใส่ หรือถ้าเรามีเสื้อผ้าที่ไม่ใส่แล้ว เราก็ให้คนอื่นต่อ ก็ถือเป็นการรีไซเคิลอีกแบบนึงค่ะ”

TEXT : PIYAWAN KANJANA
PHOTO : PAUL SARUN