A NEW DAY HAS COME

A NEW DAY HAS COME

(โยชิ) RINRADA THURAPAN - (ร็อค) KWANLADA RUNGROJUMPA - (บลอสซั่ม) CHANANCHIDA RUNGPETCHARAT

ผมฟังคำสัมภาษณ์นางแบบปกฉบับนี้แล้วเพลินมากครับ เพลินจริง ๆ กับการเปิดแบบหมดเปลือกของสามสาวดีกรีเวทีมิสทิฟฟานี่ใช่ครับ เธอสามคนไม่ใช่ผหู้ ญิง และใช่อีกครับที่ MiX MAGAZINE นำพวกเธอสามคนมาลงปกเป็นครั้งแรกในธีมรักไม่มีพรมแดน ที่เราเชื่อว่าไม่ว่าเพศไหนก็มีความรักให้กันได้ และที่สำคัญเราทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เธอสามคนก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง

แนะนำตัวเองให้แฟน ๆ MiX MAGAZINE รู้จักกันหน่อย
บลอสซั่ม : ชนัญชิดา รองอันดับหนึ่งมิสทิฟฟานี่ ปี 2012 ผลงานล่าสุด คือ เดอะเฟซ ไทยแลนด์ ซีซั่น 3 ทีมบีค่ะ
โยชิ : รินรดา ธุระพันธ์ มิสทิฟฟานี่ ปี 2017 ค่ะ
ร็อค : ขวัญรดา รุ่งโรจน์อำภา รองอันดับหนึ่งมิสทิฟฟานี่ ปี 2017 ค่ะ

ต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกของ MiX MAGAZINE จริง ๆ ที่ขึ้นปกโดยสาวประเภทสอง แต่เราก็มองว่าคุณก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ตรงนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง
บลอสซั่ม : ดีใจค่ะ ต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยที่พวกเราจะได้มาทำงานในวงการบันเทิง อย่าง บลอสซั่มก่อนที่จะเข้า เดอะ เฟซ เราก็คิดว่า ประเทศไทยคงไม่ให้โอกาส แต่พอมีประกาศว่าเปิดรับสาวประเภทสอง บลอสซั่มเลยรู้สึกว่า ประเทศไทยเริ่มเปิดรับ ไม่ได้มองที่เพศแล้ว หรืออย่างที่ทราบกันว่า MiX MAGAZINE ไม่เคยมีปกที่เป็นสาวประเภทสองมาก่อน นี่คือครั้งแรก และพวกเราคือ First Model of MiX MAGAZINE ฉะนั้นมันก็จะมีความภูมิใจเป็นสองเท่า
โยชิ : ส่วนตัวโยเอง รู้สึกดีใจและภูมิใจนะคะ ที่วันนี้ประเทศไทยเปิดกว้าง สาวประเภทสองสามารถทำงานได้ทุกรูปแบบ เราสามารถขึ้นปกนิตยสาร หรือทำงานได้หลากหลายบทบาทมากขึ้น
ร็อค : ดีใจและภูมิใจค่ะ ที่ได้มาขึ้นปก MiX MAGAZINE สำหรับการทำงาน ร็อคคิดว่า ถ้าเรามีความมุ่งมั่น ตั้งใจ เราสามารถทำได้ทุกอย่างค่ะ อย่างโฆษณาแชมพูล่าสุดของร็อค ก็จะเห็นว่าในวงการบันเทิงเปิดโอกาสให้กับพวกเรา ให้กับเพศทางเลือกมากขึ้นกว่าเดิม

เล่าคอนเซ็ปต์การถ่ายแฟชั่นในครั้งนี้ให้ฟังหน่อย
บลอสซั่ม : บลอสซั่มขอเป็นตัวแทนนะคะ วันนี้คอนเซ็ปต์จะมีสองด้านสองมุมมอง เหมือนพวกเราที่ไม่อยากให้คนมองในด้านลบอย่างเดียว อยากให้มองในด้านอื่นด้วย ด้านที่สวยงาม สดใส เราก็มี

คุณทั้งสามคนรู้ตัวว่าเราไม่ใช่ผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่
โยชิ : ตอนเด็ก ๆ โยก็ไม่รู้ว่าสาวประเภทสองคืออะไร แต่รู้ว่าเราไม่ชอบเล่นกับผู้ชาย เพื่อนก็จะชอบล้อว่าเราเป็นตุ๊ด ก็จะวิ่งไล่ตีเด็กผู้ชายที่มาว่า พอโตขึ้นประมาณ ม.ต้น เราก็รู้แล้วว่าเราอยากเป็นผู้หญิง และต้องเปลี่ยนตัวเอง ลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง
ร็อค : คล้าย ๆ โยชิค่ะ ตอนเด็กจะไม่ชอบเล่นกีฬาหรือกิจกรรมอะไรที่มีความรุนแรง ชอบเล่นกับเพื่อนผู้หญิงมากกว่า พอช่วงมัธยมก็จะเหมือนเป็นการเปิดโลกใหม่ เพราะมีรุ่นพี่มาบอกว่าถ้าเราเป็นแบบนี้เราต้องดูแลตัวเองนะ ก็เริ่มรู้สึกว่าเราเหมือนผู้หญิงตั้งแต่ช่วงนั้นค่ะ
บลอสซั่ม : คล้ายน้อง ๆ นะคะ ตอนเด็กเราก็จะไม่ชอบเล่นฟุตบอล จะชอบอยู่กับเพื่อนผู้หญิง ร้อยหนังยางแล้วมีความสุขกว่า

แล้วตัดสินใจบอกครอบครัวกันตอนไหน
บลอสซั่ม : ไม่ได้ตัดสินใจบอกนะคะ เพราะคิดว่าเดี๋ยวเราจะต้องกลับไปเป็นผู้ชายเหมือนเดิม เพราะตอนมัธยมพ่อแม่ส่งไปเรียนประจำโรงเรียนชายล้วน เราเลยไม่ได้ไว้ผมยาว ไม่ได้ดูแลตัวเอง บลอสเริ่มดูแลตัวเองตอนเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว แต่เราก็ไม่ได้บอกพ่อแม่นะ แต่ต่อผมยาวเข้าบ้านเลย หักดิบ (ยิ้ม) แต่แม่เขาก็รู้มาตั้งนานแล้วค่ะ แต่อย่างที่เราทราบคือ กะเทยในความคิดหลายคนยังดูเป็นตัวตลก เราเองก็ไม่อยากทำให้พ่อแม่เสียใจ แต่แม่ก็เข้าใจค่ะ ช่วงแรกพ่อไม่ยอมคุยเลย นานเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ยอมรับค่ะ เท่ากับว่าการแต่งหญิงเข้าบ้านครั้งนั้น ถือเป็นการยกภูเขาออกจากอกเราเลย
โยชิ : ของโย ตอนนั้นที่เริ่มเป็นเน็ตไอดอลแล้ว แต่คุณพ่อจะยังไม่รู้ เพราะท่านยังเล่นโซเชี่ยลไม่เป็น โยก็บอกกับแม่ก่อน คุณแม่เป็นคนใจดี ปกติก็คุยกับแม่ทุกเรื่อง โยเลยกล้าเปิดใจ ท่านก็โอเค ยอมรับ ขณะที่คุณพ่อเป็นคนดุ เราเลยไม่กล้า คิดว่าท่านรู้แหละแค่ไม่พูด เราก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง เริ่มจากเรื่องเรียน จนมาประกวด พ่อก็เริ่มยอมรับไปเรื่อย ๆ จนแม่มาบอกว่าพ่อเรียกเราลูกสาว ก็เหมือนยอมรับแล้วว่าเราเป็นแบบนี้
ร็อค : ของร็อคอาจจะไม่ดราม่ามากค่ะ เพราะคุณพ่อกับคุณแม่จะใจดี แต่ตอนเด็ก ๆ เราซื้อตุ๊กตาบาร์บี้มาก็จะแอบพ่อ เพราะพ่อห้าม อย่างครีมก็ไม่กล้าทาต้องแอบทาในห้องนํ้า มีช่วงตอนมัธยมต้นที่แอบไปประกวดและได้รางวัล พอกลับมาบ้านก็เอารางวัลมาวาง พ่อเห็นเขาก็จะยิ้ม ๆ คือร็อคไม่เคยบอกพ่อตรง ๆ แต่จะทำให้เขายอมรับเราเรื่อย ๆมากกว่า

หลังได้รับตำแหน่ง ชีวิตของแต่ละคนเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
โยชิ : เปลี่ยนไปค่ะ จากเมื่อก่อนเป็นแค่เน็ตไอดอล มีคนมาติดตามเฉพาะในโลกโซเชี่ยล แต่พอก้าวเข้ามาในวงการประกวด โยเองก็ต้องเปลี่ยนตัวเองเยอะมาก ทำให้เราก้าวข้ามวัยตรงนั้นมา โตขึ้น แกร่งขึ้น ตอนแรกยอมรับว่าเครียดมาก แต่พอได้กำลังใจจากคนรอบข้างก็มีแรงใจขึ้น วันนี้พอมองย้อนกลับไปก็รู้สึกว่า ทำไมตอนนั้นเราอ่อนแอจัง
ร็อค : เปลี่ยนไปค่ะ หลังจากได้รับตำแหน่ง เราก็มีงานหลากหลายขึ้น
บลอสซั่ม : บลอสเองก็เปลี่ยนไปค่ะ เราโตขึ้น มีงานเยอะขึ้นหลังจากได้ตำแหน่ง ยิ่งพอมาได้ประกวด The Face เราก็พิสูจน์ตัวเองมากขึ้น เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปอีกขั้น

แต่ละคนสวยขนาดนี้ มีหวานใจกันหรือยัง
บลอสซั่ม : ตอนนี้ไม่มีค่ะ เคยมีแฟนที่คบกันหลายปี แต่สุดท้ายต้องเลิกกันไปด้วยเหตุบางอย่าง
โยชิ : เคยมีค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว โสด จีบได้ (ยิ้ม)
ร็อค : มีคนเข้ามาคุยบ้างค่ะ (ยิ้ม)

ท้ายสุดอยากให้พวกคุณฝากผลงานของแต่ละคน รวมทั้ง MiX MAGAZINE ฉบับนี้ด้วย
บลอสซั่ม : ของบลอสซั่ม เร็ว ๆ นี้จะมีเดอะเฟซออลสตาร์ ก็ฝากให้มาร่วมลุ้นกันว่าบลอสซั่มจะเข้ารอบรึเปล่า แล้วก็ผลงานมิวสิควิดีโอ เพลงไว้ใจ วง KLEAR และไกลเท่าเดิม ของวง Instinct รวมถึงผลงานพิธีกร แต่รายการอะไรนั้นต้องติดตามกันต่อไปค่ะ ส่วนผลงานนิตยสาร MiX ก็ฝากด้วยนะคะ เราสามคนตั้งใจกันมาก ๆ เลย
โยชิ : 9 มีนาคม จะมีประกวดมิสควีน ก็อยากให้คนไทยร่วมเชียร์กันเยอะ ๆ นะคะ และฝาก MiX เล่มนี้ให้ติดตามและซื้อกันเยอะ ๆ ด้วยค่ะ
ร็อค : ร็อคฝากโฆษณาตัวล่าสุด เป็นอีกหนึ่งโฆษณาที่ให้กำลังใจไม่ใช่แค่สาวประเภทสองนะคะ แต่ให้กำลังใจคนที่กำลังจะก้าวผ่านหรือต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง และฝาก MiX MAGAZINE ฉบับนี้ด้วย อย่างที่โยชิกับพี่บลอสซั่มบอก การได้มาขึ้นปก MiX ฉบับนี้ถือเป็นบทพิสูจน์อีกหนึ่งบทของพวกเรา ก็อยากขอกำลังใจจากทุกคนนะคะ เราทั้งสามคนภูมิใจและเป็นเกียรติมากที่ได้รับเลือกค่ะ

TEXT: PIYAWAN KANJANA
PHOTO : PAUL SARUN

cover fashion