รัศมี ทองสิริไพรศรี
ตอนนี้ทำธุรกิจอะไรบ้าง?
“ตอนนี้ลูกหมีเปิดโรงเรียนพัฒนาบุคลิกภาพ ชื่อ We Are Model แล้วก็สอนเดินแบบ ยังเดินแบบอยู่บ้าง มีงานแสดงเรื่อย ๆ แต่ตอนนี้จะโฟกัสที่การสอนและทำโรงเรียนเป็นหลักค่ะ คือลูกหมีทำงานเป็นนางแบบมา 19 ปีแล้วค่ะ เปิดโรงเรียนมาได้ 13 ปี ส่วนงานด้านอื่นก็จะมีธุรกิจอีเว้นท์ ตอนนี้กำลังจัดรายการประกวด Miss Grand Bangkok 2017”
เป็นนักกีฬามาตั้งแต่เด็ก?
“ก่อนจะเข้าวงการบันเทิงเคยเป็นนักกีฬาบาสเกตบอล อาชีพ มาประมาณ 9 ปี ได้รับเงินเดือนจากสโมสรธนาคารกรุงเทพ ได้เล่นในลีกระดับชาติ คือถ้วย ก. เคยติดทีมเยาวชนทีมชาติ เล่นกีฬาจริงจังจนได้ทุนเรียนที่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือคิดว่าจะเป็นนักกีฬาอาชีพ จนวันหนึ่งได้ถูกชวนให้ไปประกวด เปรียว Super Model 1998 ก็เลยได้ก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงค่ะ จำได้ว่าตอนนั้นเป็นอาจารย์ฝึกสอนอยู่ เป็นช่วงฝึกงาน แล้วพาคุณแม่ไปตัดผมก็เลยได้เจอพี่ชาติ นพกร เพชรล้ำ(ช่างแต่งหน้าชื่อดัง) ซึ่งชักชวนให้เราไปประกวด ชีวิตก็เลยเปลี่ยน ไม่อย่างนั้นตอนนี้อาจเป็นอาจารย์ไปแล้วก็ได้ค่ะ พอประกวดได้สักพักพี่ลูกเกดก็ชักชวนให้มาเป็นนางแบบ จากนั้นก็เป็นนางแบบมาตลอด ได้เป็นพิธีกร และนักแสดง”
ทำไมถึงได้เปิดโรงเรียนสอนเดินแบบ?
“เปิดโรงเรียน We Are Model ตอนปี พ.ศ.2547 เพราะตอนนั้นเราเป็นนางแบบที่พอมีชื่อเสียงแล้ว และน้อง ๆ นางแบบรุ่นใหม่ก็มักจะให้ช่วยสอนและแนะนำ เพื่อนคนหนึ่งก็เลยชวนให้ทำโรงเรียนจริงจังไปเลย แล้วลูกหมีก็จบครุฯ มาอยู่แล้ว คือสามารถสอนนักเรียนได้ มีศาสตร์ทางด้านนี้มาพอดี และมีคอนเน็กชั่นพอสมควร ซึ่งนางแบบเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ผู้หญิงหลายคนใฝ่ฝันนะถ้ามีโอกาสเข้ามาสิ่งที่ต้องมีก็คือความมั่นใจและศักยภาพ ก็เลยเปิดโรงเรียนต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้ค่ะ”
จบครุฯ มาเคยเป็นครูสอนหนังสือไหม?
“เคยแค่ตอนฝึกสอนค่ะ ที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ได้สอนหนังสือให้เด็ก ๆ ประมาณหนึ่งเทอม ไม่ได้ทำอาชีพครูแต่ก็มีเป็นอาจารย์พิเศษตามมหาวิทยาลัยเรื่อย ๆ ค่ะ สอนพวกบุคลิกภาพ ล่าสุดเพิ่งไปสอนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา วิชาที่สอนก็คือเรื่องการปรับบุคลิกภาพเป็นหลัก สอนตั้งแต่ทำความรู้จักกับโครงสร้างของร่างกายว่าต้องจัดร่างกายอย่างไร ยืนอย่างไร การนั่ง สายตาเวลาสนทนากับคนอื่น เป็นเรื่องบุคลิกภาพที่ดีทั้งหมด ต้องรู้พื้นฐานของตัวเองเข้าใจสรีระร่างกายตัวเองก่อน จากนั้นก็เป็นเรื่องการแต่งตัว การดูแลผิว ทรงผม การสนทนา การยิ้ม การอ่าน การออกเสียง การโพสท่าถ่ายรูป ฯลฯ คือนักแสดงส่วนใหญ่จะต้องเรียนพื้นฐานพวกนี้ด้วยค่ะ ถ้าเป็นที่โรงเรียน We Are Model จะสอนละเอียด
เพราะเป็นกลุ่มย่อย หรือเรียนตัวต่อตัว คอร์สนึงก็จะใช้เวลา 10 ชั่วโมง ประมาณหนึ่งสัปดาห์ค่ะ วันละสองชั่วโมง คือสอนทุกอย่างเกี่ยวกับทักษะและเทคนิคที่ทำให้เราดูดีค่ะ”
รู้จักกับคุณบอล ภราดร ได้อย่างไร?
“รู้จักคุณบอลมานานแล้วค่ะ ช่วงที่เขาเป็นนักเทนนิสชื่อดัง เขาเป็นซูเปอร์สตาร์ที่จะถูกเชิญให้มางานในวงการแฟชั่นบ่อยมาก คือเรามาเดินแบบหลายงานก็เจอบอลมาโชว์ตัวเช่นกันและด้วยความที่เขาดังมากเลยทำให้ข้องเกี่ยวกับนางแบบ
หลายคน ก็สนิทเพราะเจอกันบ่อยค่ะ และเราก็เคยป็นนักกีฬาเหมือนกันก็เลยสนิทกัน”
ให้พูดถึงบอล ภราดร และความสนิทสนมสักนิด?
“บอลเป็นคนน่ารัก คือเราอายุไล่ ๆ กัน รุ่นเดียวกันด้วยเวลาไปเจอกันตามงานอีเว้นท์ก็จะได้คุยกันบ่อย ๆ อย่างล่าสุดก็เพิ่งไปเดินแบบด้วยกันที่ห้างสรรพสินค้าแถวพระรามสามแม้ไม่เจอกันนาน นิสัยเขาก็ยังน่ารักเหมือนเดิม ตอนนี้เขาเป็นโปรกอล์ฟด้วย เราก็เล่นกอล์ฟมีถามเรื่องเทคนิคบ้าง มีเรื่องให้คุยกันเวลาเจอได้ตลอดค่ะ สนิทกันไหม ก็ไม่ถึงกับเพื่อนก๊วนเดียวกันนะ แต่เจอกันก็ทักกันคุยกันได้ตลอด บอลเป็นคนมุ่งมั่นมีเสน่ห์ ร่างกายเขาก็ดูดี ชื่นชมเขาในหลาย ๆ อย่าง ทั้งเป็น
โปรกอล์ฟ ทั้งสอนเทนนิส คือเขาเป็นตัวอย่างที่ดีค่ะ”
ตอนนี้ยังเล่นกีฬาอยู่ไหม?
“ตอนนี้หนักไปทางตีกอล์ฟค่ะ เล่นเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลิน มีเทนนิสบ้าง แต่โยคะนี่จะหยุดไปเลย ไม่ได้เล่นเกือบปีแล้ว เพราะต้องโฟกัสงานอีเว้นท์ Miss Grand Bangkok 2017 ซึ่งเราเป็นคนจัดงาน เป็นการประกวดที่เฟ้นหาสาวงาม
ที่มีบุคลิกภาพโดดเด่นเป็นตัวแทนกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมประกวด Miss Grand Thailand 2017 ซึ่งปีนี้จัดเป็นปีที่สองแล้วค่ะ คือช่วงนี้ค่อนข้างยุ่งนิดนึง ปกติจะต้องสอนโยคะที่เสถียรธรรมสถานเป็นประจำทุกสัปดาห์ ก็ต้องหยุดมาปีนึงแล้วค่ะ ตอนนี้โฟกัสที่ธุรกิจเป็นหลัก ซึ่ง Miss Grand Bangkok 2017 ตอนนี้ก็เป็นรอบชิงชนะเลิศแล้ว ระหว่างที่ MiX MAGAZINE เล่มนี้วางแผง เราก็ได้ผู้ชนะแล้วค่ะ (รอบชิงชนะเลิศจัดในวันที่ 23 เมษายน ที่โรงแรมดุสิตธานี) ก็ขอฝากแฟน ๆ นิตยสารให้ติดตามด้วย ขอบคุณค่ะ”