ยกระดับ
ฤดูกาลนี้จะจบลงยังไงขุนพลจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ก็มีแต่ “กำไร” กับ “กำไร” ไม่ว่าจะในสนามหรือนอกสนาม หลังจากนำเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก มาเกือบทั้งฤดูกาล
ที่สำคัญทีมได้ยกระดับขึ้นมาจากประเภทพวกที่หนีตายเอาตัวรอดในลีก กลายเป็นทีมระดับอินเตอร์ที่สามารถต่อยอดในการสร้างแบรนด์ระดับโลกในอนาคต ยิ่งช่วงปิดฤดูกาลการได้รับเชิญไปเตะในทัวร์นาเมนต์ “อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยน คัพ” ที่สหรัฐอเมริกา และได้อุ่นเครี่องกับยอดทีมของโลกอย่าง บาร์เซโลน่า หรือ ปารีส แซง แชร์แมง
กลับมาที่ผลงานในฤดูกาลนี้ของเลสเตอร์ต้องเรียกว่าทั้ง “เก่ง” และ “เฮง” เพราะถ้าเฮงอย่างเดียวคงไม่สามารถรั้งตำแหน่งจ่าฝูงมาได้อย่างยาวนาน ในแง่ของโชคหลาย ๆ นัดเกมที่น่าจะเสมอก็สามารถยิงประตูชัยเอาชนะได้ หรือเกมที่น่าจะแพ้ก็สามารถยันเสมอไว้ได้ แถมคู่แข่งดันแพ้อีกด้วย
แน่นอนว่าสภาพและบรรยากาศภายในทีมดีมาก เพราะนักเตะทุกคนที่เมื่อก่อนถูกจัดอยู่ในประเภท “โนเนม” หวังจะพิสูจน์ตัวเองว่า “ดีพอ” เป็นแชมป์ลีกได้
ตั้งแต่ แคสเปอร์ ชไมเคิล ผู้รักษาประตูลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ ปีเตอร์ ชไมเคิล ที่ถูกจับตามองในฐานะลูกของตำนานซึ่งเคยไปอยู่ทีมใหญ่หลายทีม แต่ก็ถูกปล่อยตัวออกมาเพราะตัวเล็กเกินไป หรือกองหลังอย่าง โรเบิร์ต ฮูธ กับ เวส มอร์แกน ที่หวังจะประสบความสำเร็จในอาชีพทั้ง ๆ ที่ในอดีตเคยเป็นดาวรุ่งฝีเท้าดีที่น่าจะได้เล่นกับทีมใหญ่
รวมทั้ง แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ อดีตนักเตะเยาวชนของแมนฯ ยู ชินจิ โอกาซากิ นักเตะเลือดซามูไรที่กำลังจะตามรอย ปาร์ก จี ซอง อดีตนักเตะของแมนฯ ยูไนเต็ด ในฐานะนักเตะเอเชียที่ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก หรือ มาร์ค อัลไบร์ตัน กับ เอ็กโกโร่ ก็องเต้ ที่รายหลังติดทีมชาติฝรั่งเศสไปแล้ว ไปจนถึงแนวรุกทั้ง ริยาร์ด มาร์เรซ หรือ เจมี่ วาร์ดี้ ที่เคยถูกมองข้ามว่าเป็นนักเตะหมดอนาคตไปแล้ว
จนกระทั่งกุนซืออย่าง เคลาดิโอ รานิเอรี่ เองก็หวังที่จะพิสูจน์ตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่าเคยคุมทีมใหญ่มากมายในยุโรปทั้ง โมนาโก, อินเตอร์ มิลาน, โรม่า หรือ บาเลนเซีย แต่ไม่เคยพาทีมไหนได้แชมป์ลีกสูงสุดสักครั้งในชีวิต ที่ตลกร้ายไปกว่านั้นในชีวิตเคยคุม
ทีมใหญ่เป็นรองแชมป์มาแล้ว 4 หน
ขณะที่ภาพในสนามของขุนพลจิ้งจอกตลอด 90 นาที นักเตะทุกคนตั้งแต่กองหลังจนถึงกองหน้าพอบอลตกไปอยู่ในการครอบครองของคู่แข่งก็ “วิ่งไล่”, “วิ่งตื้อ” บีบให้คู่แข่งเล่นยาก และพอได้บอลกลับมาก็อาศัยการโต้กลับแบบกองโจรที่รวดเร็ว ฉับไวพร้อมกับ “ความเด็ดขาด” โดยเฉพาะกองหน้าดีกรีทีมชาติอังกฤษไปแล้วอย่างวาร์ดี้ที่กำลังลุ้นตำแหน่งดาวซัลโวของลีกอีกด้วย
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทีมแตกต่างจากทีมอื่นแน่นอนคงเป็นผ้ายันต์และความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของเจ้าของสโมสร คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ที่เชิญ ท่านเจ้าคุณธงชัย แห่งวัดไตรมิตร เดินทางไปเจิมและทำบุญถึงสนาม คิง พาวเวอร์สเตเดี้ยมมาแล้ว
ทั้งก่อนเปิดฤดูกาลและล่าสุดเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่เอามาพูดกันทีเล่นทีจริงว่า “ของ” ที่ทีมมีไม่ใช่เพียงแค่ทำบุญหรือเจิมอย่างเดียวที่สนามเท่านั้น แต่บรรดานักเตะของทีมก็ได้เข้าร่วมพิธีรับน้ำมนต์ ของศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งผ้ายันต์ของท่านเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรอีกด้วย
มาถึงตอนนี้ถ้าเกิดขุนพลจิ้งจอกสยามได้แชมป์ขึ้นมาอย่างที่หวังเอาไว้ เชื่อว่าท่านเจ้าคุณธงชัยคงต้องรับกิจนิมนต์เพิ่มมากขึ้นแน่นอน จากปกติก็มีพี่น้องชาวไทยศรัทธาในตัวท่านมากมายอยู่แล้ว
ที่สำคัญ “ผ้ายันต์” ที่เช่าในราคา 300 บาท หลังจากนี้คงต้องเช่นกันในราคาหลักพันหรือบางทีอาจจะหลักหมื่นเลยด้วยซ้ำครับ