แฟนฟุตบอลยุคกลางปี 90 คงจำนักเตะหัวแหลมผมทองที่ชื่อ ฮิเดะโตชิ นากาตะ ได้ดี เขาคือนักเตะญี่ปุ่นในยุคบุกเบิกของวงการลูกหนังเอเชียคนหนึ่งที่ตามฝันของตัวเองไปค้าแข้งในยุโรปและประสบความเร็จอย่างน่าทึ่ง  แน่นอนว่าในยุคนั้นเขาคือทุกอย่างของทีมชาติญี่ปุ่นซึ่งเป็นแบบอย่างที่ส่งต่อแรงบันดาลใจให้นักเตะรุ่นน้องและนักเตะเอเชียชาติอื่น ๆ ซึ่งในเวลาไม่นานต่างพาเหรดเข้ามาค้าแข้งในยุโรปมากมาย

ความจริงเราน่าจะเห็นฮิเดะเล่นฟุตบอลนานกว่านี้ แต่ด้วยความเป็นอาร์ตติสลูกหนังที่สูงเกินจะคาดเดาทำเอาแฟนฟุตบอลช็อคเมื่อหลังจบทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน เขาประกาศแขวนสตั๊ดอำลาวงการฟุตบอลในวัยเพียง 29 ปีอย่างหน้าตาเฉย นอกจากจะไม่ใยดีเงินในการค้าแข้งที่มหาศาลแล้ว เขายังทิ้งรายได้นอกสนามจากสปอนเซอร์ที่สนับสนุนเขาในฐานะนักกีฬาอีกด้วย

ในปี 2005 ฮิเดะ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพกับทีมบ้านเกิดอย่าง เบลล์มาเร ฮิระสึกะ ก่อนข้ามฟากจะมาสร้างชื่อกับทีมในอิตาลี 5 สโมสร ตั้งแต่ปี 1995– 2005 อย่างทีมเปรูจา โรม่า ปาร์ม่า โบโลญญ่าและ ฟิออเรนติน่า ลงเล่นไปทั้งหมด 182 นัด ยิงไป 24 ประตู ก่อนที่ปี 2005 จะย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษกับทีมโบลตัน วันเดอเรอร์สซึ่งเป็นสโมสรสุดท้ายของเขาในอาชีพค้าแข้งของเขา

เมื่อไม่นานมานี้เองเขาได้เปิดเผยเหตุผลที่แท้จริงในการเลิกเล่นว่า วงการฟุตบอลไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันมีเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องมากจนทำตัวเขาเองไม่มีความสุข หลังจากแขวนสตั๊ดเขามีเวลามากขึ้นจึงไปทำงานที่ตัวเองชอบมากกว่าเช่นการเป็นตัวแทนของมูลนิธิช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสโดยใช้ฟุตบอลเป็นสื่อกลาง 

แต่สิ่งที่เขาหลงใหลและเป็นตัวตนของเขาจริง ๆ คือ เรื่องแฟชั่น ถึงขนาดมีคนยกให้เขาเป็นเดวิด เบ็คแฮม ของญี่ปุ่น แม้ว่าเขาจะไม่ได้เล่นฟุตบอลในอิตาลีแล้ว แต่เขาก็มักบินไปอิตาลีบ่อยครั้งเพื่อทำกิจกรรมเกี่ยวกับแฟชั่นที่เขาชื่นชอบนั่นเอง 

นอกจากนี้เขายังทำธุรกิจหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือสาเก ยี่ห้อ N ซึ่งย่อมาจากนากาตะ ซึ่งมีท่าทีว่าจะไปได้สวยอีกด้วย

ฮิเดโตชิ นากาตะ อาจไม่ใช่นักเตะที่เก่งที่สุด แต่เขาคือนักเตะเอเชียคนหนึ่งที่น่าจดจำมากที่สุดคนหนึ่ง ทั้งเรื่องการเล่นฟุตบอลอย่างเต็มที่ในสนามทุกครั้งและเรื่องของการใช้ชีวิตนอกสนามที่สามารถเป็นแบบอย่างให้นักฟุตบอลรุ่นหลังได้เป็นอย่างดี