Modern Country Side Living
จากการติดตามผลงานการออกแบบที่หลากหลาย ทำให้ผมทราบดีว่าการออกแบบนั้น ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ บ้าน อาคาร ตึก หรือ เฟอร์นิเจอร์ แต่การออกแบบนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกๆ ที่ อย่างเรื่องราวการออกแบบที่ผมกำลังจะนำเสนอต่อท่านผู้อ่าน ก็เป็นเรื่องของการออกแบบโรงนาของชาวเกษตรกรให้ออกมาในรูปแบบที่โมเดิร์น หรือร่วมสมัย ต่างจากโรงนาที่เราเคยเห็นไปจากเดิมลิบลับ และวันนี้ผมได้นำเอาบ้านโรงนา จำนวน 4 หลังจากรอบโลกที่น่าสนใจ มานำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้รับชม ขอเชิญทุกท่านลองติดตามดูครับ
Barache Residencein Auviller France
ที่มีชื่อเรียกว่า Barache Residence นั้นเป็นเพราะเจ้าของบ้านมีชื่อว่า Jean - Baptiste Barache และเขาก็เป็นผู้สร้างบ้านหลังนี้เองเกือบทั้งหมด เขาไม่ชอบและไม่ต้องการการจัดสวนที่สวยงาม และบ้านโรงนาแห่งนี้เหมือนเพียงแค่สร้างทับลงไปบนพื้นที่รกร้าง และกรุยหญ้าให้พอเป็นทางเดินสำหรับเดินเข้าบ้านเท่านั้น แต่ด้วยหน้าบ้าน (Facade) ที่เป็นกระจกใส รวมถึงการตกแต่งและแบ่งสัดส่วนภายในของบ้านอย่างพอเหมาะในสไตล์ Loft จึงทำให้บ้านโรงนาแห่งนี้ดูมีมูลค่าและน่าอยู่ขึ้นมาทันที
Ochre Barn in Norfolk England
นี่คือการออกแบบที่เปลี่ยนยุ้งฉางสไตล์อนุรักษ์นิยมของอังกฤษ มาสู่ยุ้งฉางในรูปแบบใหม่ โดย Carl Turnerเจ้าของยุ้งฉางแห่งนี้ ได้เปลี่ยนแปลงบูรณะให้เป็นที่พักผ่อนพบปะของเขาและเพื่อนๆ การตกแต่งภายในของที่นี่นับว่าครบถ้วนในเรื่องความสวยงามและความน่าอยู่ โดยเป็นการออกแบบ สไตล์ Minimalism ที่ไม่ต้องเยอะโดยเขาเลือกใส่เฟอร์นิเจอร์ให้น้อยชิ้นที่สุด ตกแต่งให้น้อยที่สุด แต่เน้นในความดูดี พอดี และเหมาะสมนั่นเอง
Goodman Residence in Pine Plains New York
นี่คือยุ้งฉางที่อยู่มานานตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 และได้ถูกปรับปรุงออกแบบบูรณะใหม่ โดยนักออกแบบนามว่า Preston Scott Cohen จากโรงนาผุๆ เก่าๆ กลายเป็นโรงนารูปแบบใหม่ที่มีบานหน้าต่างมากถึง 48 บาน ที่ทำให้คุณไม่สามารถเดาได้ว่าโรงนาบ้านสวนแห่งนี้ มีทั้งหมดกี่ชั้น และแทบจะแยกไม่ออกว่าอันไหนประตูอันไหนหน้าต่าง จุดขายที่สำคัญของโรงนาแห่งนี้คือมุมบ้านมุมหนึ่งที่มีชื่อว่า “Breezeway” หรือ “เส้นทางอันสดชื่น” สดชื่นยังไงนั้นลองรับชมได้จากภาพเลยครับ
Floating Farmhouse in Upstate New York
บ้านนาติดริมสระน้ำของ Tom Givone บ้านนาแห่งนี้ได้ถูกออกแบบใหม่โดยพยายามที่จะคงรูปแบบโครงสร้างเดิมเหมือนที่สร้างไว้เมื่อปี 1820 โครงสร้างหลังคายังคงเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เปลี่ยนแปลงนั้นคือการปรับเปลี่ยนบ้านที่เป็นบ้านไม้ให้กลายมาเป็นบ้านกึ่งโล่งกึ่งโปร่งใส กำแพงหน้าบันของบ้านกลายเป็นกระจกทั้งหมด รวมไปถึงส่วนที่เป็นวิวสระน้ำ ทำให้บ้านหลังนี้เหมือนลอยอยู่กลางน้ำตลอดเวลา จึงเป็นที่มาของชื่อ Floating Farmhouse
เห็นไหมครับการออกแบบสามารถทำให้พวกคุณลืมภาพโรงนาฝุ่นเขรอะๆ เครื่องมือรกรุงรัง ฟางหญ้ากองพะเนินไปได้ในทันตา เพราะการออกแบบมันสามารถดิ้นได้เหมือนอักษร เพียงแค่ดิ้นให้ถูกจังหวะ ความงามที่ซ่อนไว้ก็จะบังเกิด และคุณก็สามารถเป็นผู้เลือกได้เองเช่นกันครับ ว่าคุณจะให้ความงามนั้นเกิดกับส่วนไหนของชีวิตคุณ