เด๋อ ดอกสะเดา

เด๋อ ดอกสะเดา

สุภาพบุรุษท่านนี้มีชื่อจริงว่า สมใจ สุขใจ เขาเป็นนักแสดงตลกหัวหน้าคณะดอกสะเดา มีลักษณะเด่นที่ทุกคนจดจำคือไฝเม็ดโตกลางหน้าผากเป็นศิลปินตลกชั้นบรมครูของเมืองไทย ผลงานของเขามีมากมายจนนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะทำเทปตลก ร้องเพลง แสดงภาพยนตร์ ละคร พิธีกรรายการทีวี ฯลฯ ซึ่งคุณสุเทพ ประยูรพิทักษ์ ได้แนะนำให้เราได้ทำความรู้จักและพูดคุยกับเขาในครั้งนี้

รู้จักกับคุณสุเทพ ประยูรพิทักษ์ ได้อย่างไร?

ผมรู้จักกับคุณสุเทพ จากการที่ผมไปเล่นตลกคณะเด๋อ ดู๋ ดี๋ ที่โรงแรมแมนดาริน เขาเป็นนักร้อง ส่วนผมเป็นตลก รู้จักกันมาหลายสิบปีแล้ว ทุกวันนี้ยังได้เจอกันตามงานบุญต่างๆ นัดกันไปทำบุญที่วัด คุณสุเทพเป็นคนที่มีน้ำใจดีมาก ความโชคดีที่สุดของคนเราคือการได้เพื่อนที่ดี และผมก็โชคดีที่มีเขาเป็นเพื่อน เขาดีทุกอย่าง เป็นคนที่คบได้ เป็นเพื่อนที่ดีมากๆ ครับ

เส้นทางศิลปิน?

พอจบจากโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร ผมก็ออกไปอยู่กับวงดนตรีลูกทุ่ง ได้เป็นทั้งพิธีกรและตลก ช่วยทีมงานแบกของ ผมเริ่มจากวงดนตรีลูกทุ่งระพิน ภูไท ตอนนั้นตลกในวงจะมีประมาณ 3 – 4 คน ตลกจะเล่นเพื่อคั่นการแสดง ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก จากนั้นก็ได้ตั้งคณะตลกขึ้นมาชื่อขบวนการสามสลึง แต่สักพักก็เลิก จนได้มารู้จักพี่เด่นดอกประดู่ ในสมัยนั้นตลกคาเฟ่ยังมีไม่เยอะ ตอนนั้นเขาอยู่กับคณะเทพ เทียนชัย ซึ่งเขาดังกันอยู่แล้ว มาวันหนึ่งเหมือนเขามีปัญหากัน เราจึงไปตั้งคณะอยู่ด้วยกัน 2 คน ทำได้ประมาณ 3 เดือนแล้วมันเหนื่อย พี่เด่นจึงบอกว่าเขามีลูกศิษย์อยู่คนหนึ่งชื่อ เทพ โพธิ์งาม ที่เคยอยู่คณะเพลิน พรหมแดน มาด้วยกัน จึงเกิดเป็น เด่น เด๋อ เทพ  

โด่งดังทั่วฟ้าเมืองไทย? 

มีชื่อเสียงโด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง เทพบุตรต๊ะติ้งโหน่งตอนนั้นเวลาไปแสดงที่ไหนคนจะเยอะมาก ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สักพักพี่เทพก็แยกตัวออกจากพี่เด่น จึงต้องหาสมาชิกมาเพิ่ม ได้ดู๋กับดี๋เข้ามาแทน กลายเป็นคณะ เด่น เด๋อ ดู๋ ดี๋ ต่อมาวงดนตรีของเด่น ดอกประดู่ ดังมาก พวกเราก็ให้พี่เด่นได้สนุกกับวงของเขาให้เต็มที่ กลายเป็น เด๋อ ดู๋ ดี๋ แล้วตอนหลังมาเพิ่ม ดอน แดง อีเหี่ยว หลังจากนั้นผมมาดังเพราะเพลง ดีกว่าอยู่เปล่าๆ ผมจึงหันมาตั้งวงดนตรีลูกทุ่งบ้าง พอตั้งวงได้สักพักก็มาสนิทกับป๋าต๊อก จึงชักชวนมาอยู่ด้วยกันเป็น เด๋อ ดู๋ ดี๋ ดอน แดง อีเหี่ยว ป๋าต๊อก ได้เล่นคาเฟ่อยู่สักพักหนึ่ง ผมก็ยกวงลูกทุ่งให้กับเอกพจน์ วงศ์นาคที่เป็นนักร้องในวงมาดูแลต่อ เพื่อที่ผมจะได้มาเล่นตลกเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

อาจารย์ผู้ให้โอกาส?

ลูกศิษย์ที่ผมปั้นขึ้นมามีหลายคนครับ อาทิ ตี๋ ดอกสะเดา และสายัณห์ ดอกสะเดา ตอนแรกผมไม่ได้เอาสายัณห์มาเล่นตลก ผมเอาเขามานั่งรถเป็นเพื่อนเพราะผมไม่จ้างคนขับรถ ก็ไปด้วยกันตลอดไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัดหรือกองถ่าย ผมไม่ได้อยากเอาสายัณห์มาเล่นตลก เพราะกลัวคนอื่นจะหาว่าเอาคนแบบนี้มาหากิน ผมไม่ชอบ แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาบอกว่า เด๋อๆ เล่นมั่งดิ หลังจากนั้นก็ให้เขาลองเล่นดูซึ่งวันนั้นคนดูน้อย แล้วบังเอิญว่าขึ้นไปเล่นแล้วคนดูขำ เราก็ขำมาก แล้วเราต้องเล่นตามเขาเพราะจะให้เขามาตามเราไม่ได้ เขาไม่รู้เรื่อง พอวันรุ่งขึ้นเจ้าของคาเฟ่ถามหาสายัณห์ว่าไม่มาหรอ จากนั้นจึงกลายเป็นว่าสายัณห์ก็มาเล่นกับเราเรื่อยมา บางกระแสก็มีคนว่านะหาว่าเอาคนด้อยโอกาสมาหากิน ผมถือว่าผมเปิดโอกาสให้คนที่ด้อยโอกาส ดีกว่าให้โอกาสคนที่ฉวยโอกาส เราจึงไม่สนใจคนที่คิดกับเราแบบนั้น เพราะเราทำทุกอย่างด้วยใจบริสุทธิ์และรักเขา เขาอยากเล่นอยากโชว์ผมก็สนับสนุนเขา เมื่อเวลาผ่านไป 3 – 4 ปี คนที่กล่าวว่าผมต้องมาขอโทษผมเขาอยู่กับผมมา 15 ปี เขาก็เสียชีวิตลง 

ตลกคาเฟ่ย้ายมาสู่จอทีวี?

ผมอยู่กับรายการทีวีมาตั้งแต่สมัยที่เล่นเป็น เด๋อ ดู๋ ดี๋ตั้งแต่รายการสี่ทุ่มสแควร์, รายการคนเด่นคนดัง ฯลฯ เรียกได้ว่าผมผูกพันอยู่กับวงการทีวีมาเยอะ จนกลายเป็นว่าตลกเป็นงานอดิเรก เหตุที่คณะแตกเพราะบางคนมีหน้าที่อย่างอื่นต้องไปทำ เช่น ถ่ายรายการ, ละคร, ภาพยนตร์ จึงทำให้มาเล่นตลกได้ไม่เต็มที่ มาเล่นตามคาเฟ่ได้ไม่ค่อยครบจึงแยกย้ายกันไปตั้งคณะเป็นของตัวเองกันเสียมาก ตอนนี้ผมเล่นตลกในรายการทีวี เพราะคาเฟ่ไม่มีแล้ว และรับงานอีเว้นท์ต่างๆ สำหรับรายการทีวีตอนนี้มีรายการ ระเบิดเถิดเทิง, ก่อนบ่ายคลายเครียด และกำลังจะมีรายการที่ผมจะทำเองชื่อรายการ ดูได้ดูดี เป็นรายการนำเที่ยวที่มีตลกแทรก ตอนนี้อยู่ในระหว่างการวางแผนเตรียมงาน

ยังคงมีชื่อเสียงประดุจดาวค้างฟ้า?

ผมจะอาศัยความเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน อดทน ขยัน จึงทำให้ผมมีชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ต้องปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติอย่าไปฝืน เมื่อมีมืดก็ต้องมีแสงสว่างสักวันหนึ่ง คนเรามีขึ้นมีลง ฉะนั้นเราต้องอดทนรอให้ถึงวันของเราเท่านั้นเอง เราแค่ทำตัวให้ไม่มีปัญหา ปัญหาก็จะไม่มีกับเรา ผมเคารพรักป๋าต๊อก เพราะเขาเป็นคนสมถะ เป็นคนที่ไม่มีปัญหาเหมือนกัน เวลาเขาโกรธพวกเราจะขำบางครั้งพวกเราจึงชอบแหย่เขา แล้วป๋าก็มีความสุข เราจึงได้ซึมซับกับสิ่งเหล่านี้มา คนรุ่นใหม่ความคิดเขาอาจจะแปลกกว่าเรา อาจจะดีกว่าเรา เพราะประสบการณ์ในบางครั้งมันอาจทำให้ซ้ำซาก ฉะนั้นเราอาจจะต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของจินตนาการ อย่าปิดกั้นว่าเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ แล้วนำมาพัฒนาตนเอง ควรศึกษาเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามาในชีวิตตลอดเวลาครับ

จุดเริ่มต้นธุรกิจลูกชิ้นหมู ปู – เด๋อ?

ธุรกิจเริ่มต้นจากคุณปู กนกวรรณ บุรานนท์ ภรรยาของผมตั้งครรภ์ จึงงดรับงานแสดง ประจวบเหมาะกับทางช่อง 3 มีงานกาชาด จึงเปิดโอกาสให้ดารานักแสดงนำของไปขาย เพื่อนำรายได้เข้าสู่สภากาชาดไทย เพื่อนผมทำลูกชิ้นขายอยู่แล้ว จึงชวนเพื่อนมาช่วยกันขายลูกชิ้นที่งานนี้ พอขายแล้วมีคนสนใจเยอะ ขายดีจนเขาผลิตให้เราไม่ทัน จึงตัดสินใจซื้อเครื่องทำลูกชิ้นมาทำเอง เราก็ต้องลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง จนได้สูตรที่อร่อย หลังจากนั้นก็ทำออกขายตามงานออกร้านต่างๆ เพื่อโปรโมตลูกชิ้นของเรา 

ขายดีจนต้องมีแฟรนไชส์?

แรกเริ่มเราไม่ได้ตั้งใจจะขายเป็นแฟรนไชส์ แต่มีคนติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์เข้ามาเยอะ เราได้โปรโมทออกทางรายการทีวีต่างๆ ทำให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เราใช้เนื้อหมูล้วนๆ ไม่มีผสมมัน เด็กๆ สามารถกินได้อย่างปลอดภัย รวมถึงน้ำจิ้มก็เป็นสูตรเราที่คิดทำขึ้นมาเอง ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้แล้ว ได้คำแนะนำจากอาจารย์หลายๆ ท่าน แล้วเรานำมาปรุงขึ้นเอง จนได้เป็นสูตรที่อร่อยลงตัวครับ” 

สำหรับผู้สนใจแฟรนไชส์ ลูกชิ้นหมู ปู – เด๋อ สามารถติดต่อได้ทาง 08–1916–2667 

ศิลปินตลกชั้นบรมครูของเมืองไทย