“บนโลก Hi-Tech ทุกอย่างเล็กลง แต่รักฉันคง ยิ่งใหญ่เหมือนเดิม อยากมี Hard Disk ลง Program เสริม เพิ่ม Ram พร้อมแจ่มด้วยภาพของเธอที่ Desktop”

หากใครยังจำบทเพลง ‘รักยุค Hi-Tech’ ของสวีทนุช ซึ่งเป็นเพลงในอัลบั้ม ต้นฉบับเสียงหวาน (พ.ศ.2551)ที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการเพลงด้วยท่วงทำนองสไตล์ลูกกรุงคลาสสิกในแบบร่วมสมัย โดนใจวัยรุ่น โดยมี“บรรณ สุวรรณโณชิน” เป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่เป็นทั้งโปรดิวเซอร์, นักร้อง และเจ้าของค่ายเพลง ‘ใบชา Song’

พ.ศ.2546 เขาเปิดค่าย ‘ใบชา Song’ ค่ายเพลงอิสระเล็กๆ ที่สร้างสรรค์บทเพลงคุณภาพ ทุกเนื้อหา คำร้อง และการเรียบเรียงดนตรี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวพร้อมการบันทึกเสียงอย่างพิถีพิถัน สอดแทรกเนื้อหาที่มีประโยชน์ต่อสังคม, การอนุรักษ์ความเป็นไทย, ปรัชญาการดำเนินชีวิต, ธรรมะไปจนถึงเพลงเพื่อเด็กและเยาวชน โดยทั้งหมดนี้ล้วนกลั่นกรองออกมาจากความรักในเสียงเพลงของเขา

“จริงๆ ผมเป็นคนฟังเพลงเยอะมาก เลยอยากทำออกมาหลายแบบ ผมเองก็ไม่ได้เรียนด้านดนตรีมาโดยตรง ไม่รู้โน้ตผมเลยทำแบบ Jazz ไทยๆ ในแบบฉบับของเราเองที่พอรู้ บางทีเราก็หลุดไปทาง Pop-Rock บ้าง อย่างชุดล่าสุดของผมก็เป็น Folk แต่มันก็ไม่ได้มี Reference ว่าไปเหมือนคนนู้นคนนี้ คือเราทำงานโดยไม่ได้เอาอะไรมาเป็นที่ตั้ง อยากใส่อะไรก็ใส่ ไม่ตายตัว ไม่ใช่แค่ทำนอง เราดูตั้งแต่เนื้อเพลง ซึ่งมีเนื้อหาหลากหลายมากไม่ใช่แค่เพลงรักเพราะในตัวเรามันมีลูกกรุงสมัยเก่าหล่อหลอมอยู่แล้ว

“ผมทำค่ายเพลงกับภรรยาสองคน ผมลงมือทำเองทุกอย่างทุกกระบวนการ ตั้งแต่แบกของไปส่ง เรียบเรียงดนตรี ออกแบบปก ทำ Artwork เองหมด เหลือแค่ว่าเอานักร้องมาร้อง แต่ถ้าเป็นของเราก็ร้องเองด้วย ส่วนนักดนตรีมีบ้างที่เสริมมา แต่ผมเล่นพวกคีย์บอร์ด เปียโนเองอยู่แล้วเพราะถ้าเราไม่เซฟโปรดักชั่น เราคงอยู่มาจนถึงตอนนี้ไม่ได้ ยิ่งวงการเพลงปัจจุบันเรื่องยอดขายซบเซามาก เราต้องฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้ไปให้ได้ แม้ว่าราคาแผ่นเสียง หรือแผ่นซีดีจะแพง เราเองก็ไม่ได้อยากขายแพงเลย แต่ด้วยต้นทุน และปัจจัยการผลิตหลายๆ อย่าง” 

แม้เริ่มแรกผลงานของค่ายเพลง อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่เมื่อปล่อยเพลง ‘รักยุค Hi-Tech’ อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นลงเว็บกระปุก ผู้คนในโลกโซเชียลต่างให้ความสนใจ แชร์กันไปเป็นทอดๆ ทำให้เพลงนี้โด่งดังในชั่วพริบตา
ยอดขายทะลุเป้าอย่างไม่คาดคิด แล้วค่ายใบชา Song ก็กลายเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างมากขึ้น

“อัลบั้ม ต้นฉบับเสียงหวาน เรียกได้ว่าทำให้เราทะลวงท่อตันได้ คือไอเดียมีอยู่แล้วล่ะแต่ไม่มีเงินทำ คิดไว้ว่าจะไปยืมเงินแล้วนำมาทำเพลงลูกกรุง แล้วจะหาเงินจ้างนักร้องที่ไหนล่ะ พอดีไปเจอแม่ยายร้องคาราโอเกะ เสียงร้องดีเลยชักชวนแม่ยายให้มาร้องเพลง แต่แม่ต้องช่วยออกเงินนะ (หัวเราะ) พอเขาตกลง ผมก็มาแต่งเพลงเพิ่ม อาทิตย์เดียวผมแต่งครบ 9 เพลง ทุกอย่างมันไหลลื่นมาก เราไม่คาดหวังอะไรเลย ขอให้งานออกมาดี สรุปผลตอบรับดีเกินคาด ทำให้เราเริ่มมีรายได้มาหล่อเลี้ยงค่ายเพลง มีทุน มีสปอนเซอร์” 

“เราเจาะตลาดผู้ใหญ่ ทั้งเนื้อเพลงและทำนองเป็นผู้ใหญ่หมด ภาษาสวยๆ เพลงหวานๆ แต่มีเพลงรักยุค Hi-Tech เพลงเดียวที่มีศัพท์วัยรุ่นหน่อย ผมไม่เคยวางเป้าว่าจะพาค่ายเพลงไปได้ไกลขนาดไหน คิดเพียงแต่ว่าทำให้มันดีในแต่ละชุดแล้วก็มีความพอเพียง เรายึดตรงนี้ไว้เลย ถ้าอะไรมันจะโตก็อย่าไปขยายมันมาก เพราะว่าเป็นยุคที่ไม่น่าจะขยาย ทำให้อยู่ได้ มีชุดต่อไปได้ก็พอ ที่สำคัญผมไม่ทำงานซ้ำ ทดลองไปเรื่อยๆ ให้มันแตกต่างออกไป”

ด้านคุณภาพเสียงต้องมาเป็นอันดับแรก ด้วยคุณภาพแบบ Audiophile ที่ให้ความละเอียด ความชัดของเสียงเพลงที่ได้มาตรฐาน บวกกับการบันทึกเสียงแบบสดๆ ทำให้สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของบทเพลงจริงๆ

“ผมชอบซาวน์แบบลูกกรุง ทีนี้ผมก็จับจุดได้ว่าลูกทุ่งถ้ามันจะเพราะและเหมือนดั้งเดิมคือต้องเล่นสด แต่คนยุคนี้ไม่เล่นสดไงครับ ผมเลยอัดเพลงสดทั้งหมด อย่างน้อยก็ 80 - 90% ส่วนค่ายใหญ่บางครั้งบางค่ายอาจใช้โปรแกรมมิ่ง
70% แต่ผมคิดว่าแบบนั้นมันไม่ได้อารมณ์ ไม่ตรงตามความรู้สึกของคน ว่าทำไมมันนุ่มนวล ทำไมมันดิบๆ แข็งๆนั่นเพราะสัมผัสได้ด้วยความรู้สึกครับ เข้าใจเรื่องการ Safe Cost แต่ก็อดไม่ได้ ชีวิตหนึ่งทำมาแล้ว ถ้าปล่อยขายก็จะกลับมา
แก้ไขไม่ได้ เพราะฉะนั้นทำให้มันดีที่สุดดีกว่า

“ผมทำค่ายเพลงนี้ให้กลายเป็นธุรกิจไม่ได้ ถ้าธุรกิจด้วยผลงานเราก็ต้องมองกระแสและตามมัน ซึ่งไม่ใช่แนวทางเรา เราไม่สามารถที่จะวิ่งไปหาแต่ละคนได้ เพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน สู้ทำเพลงออกไป ทำให้ดี คนฟังก็จะพุ่งเข้ามาเอง แต่ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ก่อนหน้านี้เปิดค่ายอินดี้มาก็เจ๊ง กว่าจะเป็นใบชา Song ผมคิดว่ามันไกลเกินความฝันมันเกิดเพราะเรามาสร้างอะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นในวงการมาตอนนี้เราก็รู้สึกว่าคุ้มแล้วที่ได้สร้างงานของตัวเอง”

ปัจจุบันค่ายใบชา Song มีผลงานออกมาแล้วทั้งหมด 26 อัลบั้ม และล่าสุดกับ 2 อัลบั้มที่เพิ่งวางจำหน่าย คือ ลูกทุ่งไฮไฟ 3D และ สิบเสียงสวย 10 Thai female audiophile voices ซึ่งจับนักร้องผู้หญิง 10 คน มาร้องเพลงคนละเพลง ทั้งเพลงเก่า เพลงใหม่ โดยนำมาเรียบเรียงใหม่ แม้จะเป็นเพียงเสียงเล็กๆ เพียงหนึ่งเสียง แต่ก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่มีคุณภาพในวงการเพลงไทยให้เป็นที่ยอมรับสืบต่อไป