เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เชื่อว่าแฟนฟุตบอลหลายคนโดยเฉพาะแฟนๆ ของสิงห์บลู “เชลซี”ต้องไปชมฟุตบอลนัดพิเศษที่ผู้มาเยือนจากอังกฤษลงเล่นฟุตบอลกับทีม “ไทยแลนด์ ออลสตาร์” ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในรายการ “เดอะ สิงห์ เชลซี เอฟซี เซเลเบรชั่น แมตซ์ ไทยแลนด์ 2015” ซึ่งผลการแข่งขันเป็น “เชลซี” ที่ชนะไป 1 ประตูต่อ 0

และหลายๆ คนคงมีโอกาสได้เจอนักเตะซูเปอร์สตาร์ของทีมแบบตัวเป็นๆ หรือตามภาพสื่อที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็น“โฆเซ่ มูรินโญ่” ที่ไปเดินเล่นอยู่ในห้างมาบุญครอง “ปีเตอร์เช็ก” ที่ชอบตีกลอง ก็โผล่ไปซ้อมดนตรี “เอด็อง อาซาร์” ที่พรางตัวใส่แว่นสวมหมวกไปแล้วถูกดาราสาวถ่ายรูปมาเป็นหลักฐาน และเด็ดสุดๆ คือ “ดิเอโก้ คอสต้า” ที่ถ่ายรูปกับตำรวจบนแท็กซี่โดยไม่รู้ว่าไปไหนตอนกลางคืนเพียงคนเดียว

ที่สำคัญคืนก่อนหน้าวันแข่งขัน 1 วัน ผมมีนัดกับเพื่อนต่างชาติคนหนึ่งสมัยอบรมโค้ชฟุตบอลด้วยกันที่ศูนย์ฝึกกีฬาอินเวอร์คาย นอกเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งผมเข้าอบรมโค้ชฟุตบอลที่ได้รับทุนจากบริติซเคานซิลและเพื่อนร่วมคอร์สผมมีชาวโปรตุเกส 3 คน หนึ่งในนั้นคือ “โฆเซ่ มูรินโญ่”

ผมอบรมโค้ชคอร์สนี้ตอนปี พ.ศ.2531 เกือบ 30 ปี ที่เราไม่มีโอกาสพบปะพูดคุยกัน พอทราบข่าวเชลซีแชมป์พรีเมียร์ชิพปีนี้จะเดินทางมาเมืองไทยภายใต้การเชิญของสิงห์ คอร์เปอเรชั่นและได้รับความช่วยเหลืออย่างดีจากทีมงานคุณภาพทั้งพี่บอย พี่กอล์ฟ พี่เข้ และคุณจาตุรนต์ หิมะทองคำ นัดหมายให้ไปร่วมงาน มีทแอนด์กรี๊ด ที่โรงแรมแชงกรีล่า สีลม ซึ่งทัพนักเตะเชลซีพักอยู่

ผมได้พบผู้บริหารของสิงห์ คอร์เปอเรชั่นหลายคน มีการต้อนรับเป็นอย่างดี ได้รับเชิญให้เข้าไปอยู่ในกลุ่มคนที่เป็นแขกพิเศษเพื่อร่วมงาน มีทแอนด์กรี๊ด เพื่อความเป็นระเบียบ   ทีมงานของเชลซีและสิงห์ คอร์เปอเรชั่น ได้อธิบายถึงขั้นตอนเวลาทีมเชลซีเข้ามาในห้อง เพื่อไม่ให้มีเรื่องวุ่นวายและได้ถ่ายรูปทุกคน เป้าหมายของผมอยู่ที่ “โฆเซ่ มูรินโญ่”

พอถึงเวลานัดหมาย ถ้วยแชมป์พรีเมียร์ชิพถูกนำมาตั้งพร้อมทีมงานและนักเตะทยอยเข้ามาในห้อง การจัดการแบบมืออาชีพของสิงห์ ทำให้บรรดาแขกผู้มีเกียรติรวมทั้งผมเองเต็มอิ่มกับการพูดคุย ถ่ายภาพ และขอลายเซ็นของนักเตะเกือบทุกคนที่เข้ามาในงาน ไม่ว่าจะเป็นนักเตะดังๆ อย่าง จอห์น เทอร์รี่, ปีเตอร์ เช็ก, เอดอง อาซาร์,ดิเอโก้ คอสต้า ฯลฯ ทุกคนต่างให้ความร่วมมือดีมาก ทั้งถ่ายรูปแจกลายเซ็นและพูดคุยอย่างเป็นกันเอง

เรียกว่าสร้างความประทับใจได้ไม่น้อย เพราะปกติเราจะเห็นบรรดานักเตะชื่อดังเหล่านี้จากการถ่ายทอดสดเวลาดูบอลพอได้มาเจออย่างใกล้ชิดและได้พูดคุย แม้จะไม่มากแต่ก็ถือว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตแล้วครับ           

ระหว่างที่ทุกคนกำลังเพลิดเพลินกับการพบปะพูดคุยกับนักเตะเชลซี ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น ทุกคนเห็น “โฆเซ่ มูรินโญ่” เดินเข้ามาในห้อง พร้อมการ์ดที่ดูแลความปลอดภัยไม่น่าเชื่อหลังจากมูรินโญ่เดินเข้ามาในห้อง ทักทายกับผู้บริหารระดับสูงของสิงห์ คอร์เปอเรชั่น แล้วก็รีบกลับขึ้นห้องท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน ผู้บริหารเชลซีบอกผมว่า มูรินโญ่ไม่มีใครบังคับได้ บุคลิกเป็นคนแบบนี้ถึงมีฉายาว่า “เดอะ สเปเชียลวัน” ผมผิดหวังเพราะผมตั้งใจมาพบเพื่อน แต่ก็ไม่ได้พูดคุย ไม่ได้ถ่ายรูปมายืนยันว่าอบรมโค้ชฟุตบอลคอร์สเดียวกัน

หลายคนอาจมีคำถามว่า ผมเป็นเพื่อนมูรินโญ่จริงหรือเปล่า ผมคงไม่มีคำอธิบาย แต่ 3 สัปดาห์ที่อบรมด้วยกัน ทุกเย็นพอเลิกอบรม มีโค้ชที่เข้ารับการอบรมจะเดินลงจากเขามาริมทะเลสาบ ไม่มีรถแท็กซี่ ไม่มีรถเมล์ ถ้าจะลงมาดื่มหรือเต้นรำริมทะเล ต้องเดินอย่างเดียว ใช้เวลาเดินลงมาประมาณ 30 นาที ผมกับเอ็ม จันดราน อดีตนักฟุตบอลดาราเอเชียชาวมาเลเซีย เดินลงมาดื่มกับมูรินโญ่และเพื่อน สัปดาห์ละไม่ต่ำกว่า 3 วัน

มูรินโญ่เมื่อเกือบ 30 ปีก่อนหล่อมาก ครั้งหนึ่งเราดื่มอยู่ในบาร์เดียวกัน มูรินโญ่กับเพื่อนท้าโค้ชที่อยู่ในบาร์ให้ลงขันคนละ 10 ปอนด์ ทั้งหมด 7 คน ใครจีบสาวในร้านและพาไปเต้นรำพร้อมจูบปากเธอได้จะเป็นผู้ชนะ เวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง มีโค้ชคนหนึ่งพาหญิงสาวที่เข้ามาเที่ยวในร้านออกไปเต้นรำ และสุดท้ายจังหวะสโลว์ ภาพที่เห็นคือเพื่อนโค้ชผมยืนจูบปากกับหญิงสาวแบบสุดคลาสสิกชนะเดิมพัน เพื่อนผมคนนั้นชื่อ “โฆเซ่ มูรินโญ่”

ถามว่ามูรินโญ่จำผมได้ไหม ผมมั่นใจ เพราะเรื่องจูบปากหญิงสาวในบาร์เป็นเพียงหนังตัวอย่าง ยังมีประวัติศาสตร์อีกหลายอย่างที่เรามีร่วมกัน เสียดายที่แค่ไม่มีโอกาสคุย

แต่สุดท้ายต้องขอขอบคุณ “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น” ที่ทำให้มี“หมอเมากับเชลซีอินไทยแลนด์” แบบมีความสุขและความประทับใจครับ