The Legend of Avalanche

The Legend of Avalanche

ภัยใดๆ ในโลกล้วนไม่สู้ภัยธรรมชาติ วาตภัย อัคคีภัย อุทกภัย สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นและเป็นสิ่งที่มนุษย์เกินต้านทาน แต่ไม่เกินที่มนุษย์จะคาดเดา มนุษย์ในปัจจุบันมี การพยากรณ์อากาศที่แม่นยำอีกทั้งมีระบบเตือนภัยที่ทำได้อย่างรวดเร็ว สามารถทำให้ผู้คนระวังตัวผ่อนหนักเป็นเบาได้ แต่มีภัยธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มนุษย์เราไม่สามารถคาดเดาได้ไม่ว่าจะใช้เทคโนโลยีใดก็ตาม นั่นก็คือการเกิด “แผ่นดินไหว” ภัยธรรมชาติชนิดที่ก่อให้เกิดความเสียหายได้มากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก และในตำนานฉบับนี้ผมขอฟื้นคืนการจัดอันดับ Take 5 ความรุนแรงและความเสียหายของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในโลกนี้นับจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ว่าสิ่งที่เรียกว่า “ธรณีพิโรธ” ที่เคยเกิดขึ้นนั้นรุนแรงขนาดไหน 

อันดับที่ 5 
แผ่นดินไหวที่คาบสมุทรโตโฮคุ ประเทศญี่ปุ่น ค.ศ.2011

เป็นการเกิดแผ่นดินไหวเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งประจักษ์พยานคือผู้คนทั้งโลก ที่เห็นการทำลายล้างในครั้งนี้ และนับเป็นการเกิดแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นนับตั้งแต่อดีตกาล โดยเป็นการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ริคเตอร์
ที่ใจกลางทะเลบริเวณคาบสมุทรโตโฮคุ ยังผลให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดยักษ์ความสูงกว่า 40 เมตร เข้าถล่มพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกกินพื้นที่ชายฝั่งเป็นระยะทางกว่า 10 กม. สร้างความเสียหายอย่างมหาศาล เคราะห์ซ้ำกรรมซัดการเกิด
แผ่นดินไหวยังนำไปสู่เหตุเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา ไดอิจิ เกิดรอยร้าวมีรังสีรั่วไหลออกมาภายนอก ซึ่งรวมแล้วจากความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากถึง 15,842 ราย บาดเจ็บ 5,890 คน และสูญหายกว่า 3,485 ชีวิตบ้านเรือนพังทลายเสียหายกว่า 1.25 แสนอาคาร คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากถึง2.35 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 7.35 ล้านล้านบาท) และการเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ยังส่งผลให้แกนโลกเปลี่ยนไปจากเดิมถึง 10 - 25 ซม. อีกด้วย

อันดับที่ 4 
แผ่นดินไหวที่ประเทศรัสเซีย ค.ศ.1952 คาบสมุทรคัมชัตกา

เหตุการณ์การแผ่นดินไหวเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 1952 ตอนรุ่งสางเวลา 04.58 น.ตามเวลาท้องถิ่นของปะเทศรัสเซีย ที่บริเวณชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรคัมชัตกาซึ่งจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ทะเลราว 30 กม. วัดขนาดความสั่นสะเทือนได้ที่ 9.0 ริคเตอร์ สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ในภูมิภาคคัมชัตกา และเกาะคูริล พร้อมทั้งยังเกิดคลื่นยักษ์สึนามิที่มีความสูงกว่า 9 ม. ไปถึงเกาะฮาวายของอเมริกา สร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ในขณะนั้น) ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเลยแม้แต่รายเดียว นอกจากนี้ยังเคลื่อนตัวไปถึง อลาสกา ชิลี นิวซีแลนด์อีกด้วย แม้จะไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เกิดแผ่นดินไหวนครั้งนี้ แต่สภาพการเกิดสึนามินั้นแผ่ขยายไปในวงกว้างมากข้ามทวีปเลยทีเดียว 

อันดับที่ 3
แผ่นดินไหวที่มหาสมุทรอินเดีย ค.ศ.2004

เหตุการณ์เกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้นับเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ประเทศไทย และคนไทยไม่เคยลืมเพราะเป็นการเกิดแผ่นดินไหวครั้งสำคัญ ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศทราบถึงการเกิดสึนามิครั้งแรกของประเทศไทย โดยการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที 26 ธันวาคม ค.ศ.2004 ก่อนวันขึ้นปีใหม่เพียงไม่กี่วัน แผ่นดินไหวมีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ชายฝั่งทางตะวันตกของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย วัดขนาดของแผ่นดินไหวได้ที่ระดับ 9.1 - 9.3 ที่ความลึกราว30 กม. และสั่นไหวต่อเนื่องนานถึง 8 - 10 นาที ด้วยความรุนแรงขนาดนี้ ทำให้แผ่นดินบนโลก เคลื่อนตัวไปจากจุดเดิมถึง 1 ซม. และยังก่อให้เกิดแผ่นดินไหว และ After Shock อื่นๆ ตามมาในหลายๆแห่งทั่วโลก การเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด จากแผ่นดินไหวและสึนามิในครั้งนี้ ทั้งสิ้น 227,898 ราย โดยอินโดนีเซียเป็นประเทศที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด มีผู้เสียชีวิตถึง 1.7 แสนรายขณะที่ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตทั้งคนไทยและคนต่างประเทศรวมถึง 8,212 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ คุณพุ่ม เจนเซ่นบุตรชายในทูลกระหม่อมฟ้าหญิงอุบลรัตน์ 

หลังจากเกิดเหตุ นานาประเทศ ทั้งออสเตรเลีย เยอรมนี ญี่ปุ่น แคนาดา สหรัฐฯและอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลกต่างระดมเงิน เพื่อช่วยเหลือเยียวยาประเทศที่ได้รับความเสียหายจากหายนะครั้งนี้ โดยระดมทุนได้ถึง 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะนั้น

อันดับที่ 2
แผ่นดินไหวสหรัฐอเมริกา ค.ศ.1964 อลาสกา

แผ่นดินไหวในครั้งนี้เป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า “แผ่นดินไหววันกู๊ดฟรายเดย์” เพราะเกิดเมื่อเวลา 05.36 น. ของวันที่ 27 มี.ค. 1964 ซึ่งเป็นศุกร์ก่อนวันขอบคุณพระเจ้าทางศาสนาคริสต์ Easter Day โดยจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวในครั้งนี้เกิดขึ้นที่บริเวณตอนใต้ของรัฐอลาสกา มีความลึกเพียง 14 กม. วัดระดับการสั่นสะเทือนได้ที่ระดับ 9.2 และสั่นสะเทือนอยู่นานเกือบ 4 นาที ซึ่งถือได้ว่าเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯอเมริกา และของทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ได้เกิดในทะเล ยังผลให้เกิดความเสียหายไปยังอาคารบ้านเรือน ถนนและรถยนต์เสียหายพังไปเป็นแถบๆจากการเกิดแผ่นดินแยก โดยเฉพาะในพื้นที่ตอนล่างของอลาสกาได้รับความเสียหายมากสุด ตึกและอาคารพังทลายไม่เหลือ ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ทุกอย่างล้วนเป็นอัมพาต 

ความเสียหายครั้งนี้คิดเป็นมูลค่ากว่า 310 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในขณะนั้น คิดตามอัตราเงินเฟ้อแล้วเทียบกับในปัจจุบัน มีค่าเท่ากับ 2.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  แต่เดชะบุญการเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตเพียงแค่ 143 รายเท่านั้น ซึ่งนับว่าน้อยมาก หากเทียบกับความพินาศที่เกิดขึ้น

อันดับที่ 1
แผ่นดินไหวที่ประเทศชิลี ค.ศ.1960 บัลดิเบีย

หายนะที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์โลกครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 1960 มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่เมืองลูมาโคของจังหวัดมอลเลโค ที่ความลึก 33 กม. วัดขนาดของแผ่นดินไหวเริ่มต้นได้ที่ระดับ 9.5 ริคเตอร์ ก่อนไต่ระดับความรุนแรงไปสูงสุดคือ 10.0 ริคเตอร์ ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูงถึง 25 ม. เคลื่อนตัวข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ไปจนถึงมลรัฐฮาวายของสหรัฐฯ ซึ่งห่างจากจุดเกิดเเผ่นดินไหวถึงหนึ่งหมื่นกิโลเมตร โดยคลื่นยังคงสูงอยู่ที่ระดับ 10.7 ม.อาณาเขตการทำลายล้างของแผ่นดินไหวครั้งนี้ กินพื้นที่ถึง 4 แสน ตร.กม. โดยบัลดิเบีย เมืองหลวงของชิลีในขณะนั้น เป็นเมืองที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด อาคารบ้านเรือนกว่าพังทลายสิ้น บ้านเรือนพังเสียหายผู้คนเรือนหมื่นกลายเป็นผู้ไร้บ้าน 

ไม่เพียงเท่านั้นนั้น แผ่นดินไหวยังทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นถึง 4 เมตร จนเกิดน้ำท่วมหนักกระทบผู้คนราวหนึ่งแสนราย และยังเป็นการจุดชนวนสร้างแรงสะสมให้ภูเขาไฟคอร์ดัน เคาเล ระเบิดในอีก 2 วันต่อมา ทำให้มีพ่นเถ้าภูเขาไฟขึ้นสู่ท้องฟ้า สูงกว่า 5.5 กม. และปะทุต่อเนื่องยาวนานไปจนถึงวันที่ 22 ก.ค. ซึ่งโชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุภูเขาไฟระเบิดครั้งนี้  ซึ่งจากการเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนั้น การข่าวยังไม่ทันสมัยเทียบเท่าในปัจจุบัน จึงมีการสรุปคาดการณ์ผู้เสียชีวิตราว 2,231 - 6,000 รายและมีขอบเขตความเสียหายที่ 400 - 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดตามอัตราค่าเงินเฟ้อประมาณ 2.9 - 5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปัจจุบัน 

ธรณีพิโรธ