การดูแลใส่ใจรถยนต์ก่อนการเดินทาง นับเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งต่อชีวิตเราและชีวิตผู้อื่น เพราะหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมาแล้ว อาจเสียใจไปตลอดชีวิต เหมือนอย่างเรื่องของ แพรว
แพรว มีอาชีพขับรถตู้รับส่ง เส้นทางระหว่าง ระยอง - กรุงเทพฯ เธอจะขับรถไปกลับวันละประมาณ 2 - 3 รอบ เพื่อให้พอกับค่ากินอยู่ รวมทั้งผ่อนชำระค่าบ้านที่ซื้อไว้ และค่าเช่าคอนโดที่เธออยู่อาศัย
รถตู้ที่ใช้รับส่งของเธอคันนี้ เครื่องยังไม่เก่ามากนัก แต่ยางทั้งสี่ล้อเธอใช้มาแล้วกว่า 3 ปี ดอกยางสึกเกือบหมดแล้ว เธอวางแผนที่จะเปลี่ยนยางอยู่หลายครั้ง แต่ก็มีความจำเป็นต้องนำเงินไปใช้อย่างอื่นจึงไม่ยอมเปลี่ยนยางทั้งๆ ที่เป็นเครื่องมือทำมาหากิน ยิ่งเมื่อก้าวเข้าสู่หน้าฝน ผู้คนก็จะเริ่มเดินทางน้อยลง ไปเที่ยวพักผ่อนกันไม่มากเหมือนช่วงเดือนก่อนๆ ทำให้รายได้ของเธอหดหายลงไปด้วย ก็ทำให้เธอต้องมองข้ามเรื่องการบำรุงรักษาไปก่อน เมื่อเข้าหน้าท่องเที่ยว เธอหวังว่าช่วงนั้นคงไม่สายเกินไป
วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เธอออกมาขับรถตู้เพื่อรับผู้โดยสารตามปกติ จะไม่ปกติก็ตรงที่ฝนตกพรำๆ ตลอดทั้งวันเพราะเป็นช่วงที่พายุเข้า แม้จะไม่แรงนัก แต่ก็กวนใจเธอไม่น้อยเมื่อผู้โดยสารเต็ม เธอก็ขับเพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทาง ตามปกติน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง
แต่วันนี้เพราะฝนตกตลอดทาง ทำให้การเดินทางล่าช้าไปกว่าเดิม
เมื่อขับออกจากกรุงเทพฯ มาได้สักพัก รถเริ่มน้อยลง และเธอขับได้เร็วมากขึ้น เธอจึงเร่งความเร็วเพื่อหวังชดเชยเวลาที่สูญเสียไป
การกระทำของเธออาจจะไม่สามารถชดเชยเวลาที่เสียไปได้ แต่เธออาจจะพรากเวลาที่เหลือของผู้โดยสารไปทั้งหมดก็ได้
ด้วยความเก่าของยางที่หมดสภาพ ทำให้รถตู้ของเธอยางระเบิด และเสียหลักชนเข้ากับต้นไม้ข้างทาง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่มีใครล้มตาย
ตำรวจ : ทำไมก่อนออกเดินทางคุณไม่สำรวจตรวจสอบยางให้ดีเสียก่อนล่ะครับ คุณเป็นต้นเหตุทำให้มีคนต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสแบบนี้
แพรว : มันเป็นเหตุสุดวิสัย ดิฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหรอก
ตำรวจ : แต่ยางระเบิดแบบนี้ มันระมัดระวังกันได้ หากคุณตรวจเช็กให้ดีก่อนออกถนน ผมคงต้องดำเนินคดีกับคุณ
แพรว : ไม่ ชั้นไม่ผิด มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ
Q : เรื่องนี้ จะเป็นเหตุสุดวิสัย หรือไม่ และแพรวจะต้องรับโทษตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร
A : จากอุทาหรณ์แพรวนำรถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง โดยที่ยางหมดอายุ กรณีดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อคนโดยสารหรือประชาชนได้ การที่แพรวอ้างว่ายางระเบิดเป็นเหตุสุดวิสัยนั้น เนื่องจากยางรถยนต์เป็นหน้าที่ของเธอจะต้องคอยตรวจตราดูแล เธอจึงไม่สามารถจะอ้างเป็นเหตุสุดวิสัยได้เพราะการที่ยางระเบิดไม่ได้เกิดจากภัยนอกอำนาจซึ่งไม่อาจรู้และป้องกันได้ อีกทั้งเธอสามารถใช้ความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้น จะต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ แต่ไม่ได้ใช้เพียงพอ เมื่อเกิดมีบุคคลได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว จึงเกิดขึ้นเพราะความประมาทของเธอ
ดังนั้นแพรวจึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 6 และผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้บุคคลอื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรค 4 และมาตรา 300
ความประมาทเพียงเล็กน้อยประกอบกับไม่เอาใจใส่ในเครื่องมือที่ใช้ประกอบอาชีพของตนเองเป็นที่มาของสาเหตุความสูญเสียได้เสมอ ดังเช่นอุทาหรณ์ของแพรว
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522
มาตรา 6 ห้ามมิให้ผู้ใดนำรถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง หรืออาจเกิด อันตราย หรืออาจทำให้เสื่อมเสียสุขภาพอนามัยแก่ผู้ใช้ คนโดยสาร หรือ ประชาชนมาใช้ในทางเดินรถ
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 59 บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาท ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา
กระทำโดยประมาทได้แก่กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนาแต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่มาตรา 300 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ