กระเป๋าสตางค์ กุญแจบ้าน กุณแจรถ รีโมททีวี โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต ถ้าคุณมักลืมสิ่งของเหล่านี้บ่อยๆ วันนี้มีตัวช่วยแล้ว
ดูเหมือนว่าอาการขี้หลงขี้ลืมเริ่มจะคลืบคลานและคุกคามมนุษย์รุ่นใหม่แบบเราๆ ท่านๆ โดยไม่ต้องรอถึงวัยสูงอายุอีกต่อไปแล้ว พิสูจน์ได้จากการประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในการระดมทุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อันจะมาช่วยแก้ปัญหาการ
‘ลืม’ ให้หมดไป
โปรเจ็กต์ระดมทุนนี้ถูกกล่าวถึงและชื่นชมเป็นอย่างมากในปีที่ผ่านมา เพราะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดโดยการนำเทคโนโลยีการเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธมาประยุกต์เข้ากับแผ่นพลาสติกเล็กๆ ที่มีชื่อเก๋ๆ ว่า ‘Tile’ และไม่ต้องบอกก็ทราบได้ทันทีว่ารูปร่างหน้าตาของมันจะเป็นเหมือนแผ่นกระเบื้องสี่เหลี่ยม ที่ดีกว่านั้นคือขนาดของมันที่สามารถพกพาใช้งานสะดวกไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เพราะใหญ่กว่าเหรียญ 10 บาทเล็กน้อยเท่านั้น
วิธีการใช้งานก็ไม่ซับซ้อน แค่นำเจ้าแผ่น Tile ไปคล้องหรือห้อยไว้กับสิ่งของใดๆ ที่คุณมัก ‘ลืม’ เป็นประจำ หรือบางท่านอาจประยุกต์ไปติดปลอกคอน้องหมาน้องแมวที่ชอบหนีไปซ่อนตัวบ่อยๆ ก็ได้ ทันทีที่ต้องการทราบว่ามันอยู่ที่ไหน ก็แค่หยิบสมาร์ทโฟนของคุณมาสแกนค้นหาได้ทันที ข้อแม้เพียงอย่างเดียวของ Tile คืออย่าเผลอทำสมาร์ทโฟนหายด้วยเป็นอันขาด ไม่งั้นก็ตัวใครตัวมันครับ
แต่ก่อนที่จะต้องออกแรงค้นหา Tile App ยังอำนวยความสะดวกด้วยโหมดเตือนสติ ที่จะแสดงโลเคชั่นสุดท้ายที่ระบบได้ทำการบันทึกไว้ แต่ถ้ายังหาไม่เจอ ก็คงต้องเป็นหน้าที่ของคุณแล้ว
Tile จะทำงานโดยส่งสัญญาณบลูทูธมายังสมาร์ทโฟนโดยมีแอพพลิเคชัน Tile เป็นตัวจัดการและสั่งงาน เพียงแค่เลือกว่าต้องการค้นหา Tile ชิ้นไหน (หนึ่งบัญชีสามารถผูกTile เข้ากับระบบได้สูงสุด 8 ชิ้น) สมาร์ทโฟนของคุณก็จะเปลี่ยนเป็นเรดาร์คล้ายเครื่องจับผีในหนัง Ghost Buster ซึ่งจะส่งเสียงเตือนดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อขยับเข้าใกล้สิ่งของชิ้นนั้นๆ
ข้อแม้อีกอย่างของ Tile คือเนื่องจากใช้เทคโนโลยีการเชื่อมสัญญาณแบบบลูทูธ ระยะทำการที่ Tile จะสามารถค้นหาของที่ไม่ได้หายแต่หาไม่เจอได้นั้น จะต้องอยู่ในระยะที่ไม่เกินกว่า 150 ฟุต
ในกรณีที่โชคร้าย ของชิ้นนั้นถูกขโมยหรือถูกลืมทิ้งไว้ที่ไหนสักแห่งข้างนอกซึ่งเกินกว่าระยะทำการของ Tile นี้ก็ยังสามารถช่วยได้ โดยใช้ประโยชน์จากชุมชนผู้ใช้งาน ซึ่งระบบจะทำการเชื่อมต่อข้อมูลเข้ากับผู้ใช้ Tile คนอื่นๆ ที่อาจจะบังเอิญเดินอยู่ใกล้ของที่คุณทำหาย จากนั้นจะส่งข้อมูลพิกัดกลับมาให้คุณอีกทอดหนึ่ง ซึ่งจะว่าไปก็เป็นแนวคิดที่เยี่ยมและน่าจะมีประโยชน์มากในกรณีที่ Tile ได้รับความนิยมแพร่หลาย เรียกได้ว่ายิ่งมีผู้ใช้ Tile มากเท่าไหร่ ระยะทำการในการค้นหาก็จะมากขึ้นเป็นทวีคูณตรงตามคอนเซ็ปที่ผู้พัฒนาตั้งใจให้เป็น “the world’s largest lost and found” แต่ถ้าหายในละแวกบ้านเรา โอกาสลุ้นคงจะยากสักหน่อย
จุดเด่นอีกอย่างของเจ้า Tile ก็คือมันเป็นอุปกรณ์ที่คุณไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรเลย ไม่ต้องเปลี่ยนถ่าน ไม่ต้องระวังน้ำ เพราะแบตเตอรี่ที่บรรจุอยู่ในตัวเคสแบบปิดตายจะมีอายุประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นสามารถเปลี่ยนโดยการส่งตัวเก่ากลับไปรีไซเคิล และสั่งซื้อชิ้นใหม่มาแทนได้ในราคาพิเศษ (แต่ก็คงใกล้เคียงเหมือนซื้อใหม่นั่นล่ะครับ)
หลังจาก Tile ได้จัดการกับพายุการสั่งซื้อแบบถล่มทลายและสามารถเริ่มทยอยส่งสินค้าให้กับผู้สั่งจองล็อตแรกในช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้เป็นที่เรียบร้อยจนกลับมาสู่สถานการณ์ปกติได้แล้ว ใครที่สนใจก็สามารถแวะไปสั่งมาใช้‘กันลืม’ ที่ www.thetileapp.com ได้เลยครับ