สุรชัย จตุรภัทรพงษ์

สุรชัย จตุรภัทรพงษ์

แน่นอนว่าในเล่มที่แล้วเรายังคุยกันถึงเรื่องราวของฟุตบอลกันอย่างจุใจกับแต่ละคำตอบของ ‘โค้ชเตี้ย สะสม พบประเสริฐ’ ซึ่งในครั้งนี้เขาได้ส่งเรามาคุยกันต่อกับเพื่อนสนิททั้งในสนามและนอกสนามอย่าง ‘โค้ชง้วน สุรชัย จตุรภัทรพงษ์’ 

ความเป็นเพื่อนระหว่างคุณสองคนเป็นมาอย่างไร

เราสนิทกันมาตั้งแต่สามสิบกว่าปีที่แล้ว เราเล่นบอลมาด้วยกันตั้งแต่เยาวชน กสิกร จนถึงทีมชาติ ครอบครัวเราก็สนิทกันเพราะแฟนเขาก็เป็นรุ่นน้องของผมที่จุฬาฯ ด้วย

โค้ชเตี้ยในความเห็นของคุณ เขาเป็นคนอย่างไร

เขาเป็นคนที่มีสไตล์นะ มีปรัชญาในการทำทีมที่น่าสนใจ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วถือว่าเขาเป็นคนจิตใจดี รักเพื่อนฝูง

ในฐานะที่สนิทกันคิดว่าเขาต่างกับโค้ชอย่างไร

ในเรื่องของความก้าวร้าว เขาค่อนข้างโผงผาง บู๊กว่าผมเยอะ (หัวเราะ)

เป้าหมายสำหรับโค้ชง้วนในวันนี้แตกต่างไปตามบทบาทหรือไม่ อย่างไร

ก็เปลี่ยนนะ ตอนเป็นผู้เล่น เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เล่นเพื่ออนาคตของเรา แต่พอมาเป็นโค้ชและผอ.ทีมเป้าหมายมันก็ต้องใหญ่ขึ้นกว่านั้น

ในฐานะที่คุมทีมในระดับชั้นนำต้องบริหารความคาดหวังของหลายๆ คน หลายๆ ฝ่ายอย่างไรบ้าง

มันเป็นเรื่องที่ต้องเจออยู่แล้วความคาดหวังทั้งในเรื่องเป้าหมายของทีม ทั้งในส่วนของผู้ที่ให้การสนับสนุนทีม กระตุ้นนักกีฬาให้มีความรักและหวงแหนในทีม และแฟนบอลที่เป็นส่วนสำคัญเลย อย่างที่โค้ชเตี้ยเคยพูดไว้ว่าพวกเราก็เหมือนผู้นำคุมโชว์นั่นเอง

โค้ชคิดว่าตอนนี้เราอยู่ในช่วงยุคทองของฟุตบอลไทยหรือเปล่า

เป็นช่วงกำลังพัฒนามากกว่า ทั้งในเรื่องของคุณภาพทั้งหมดของผู้เล่น การบริหารจัดการ สภาพแวดล้อมต่างๆ ทั้งหมดรวมไปถึงแฟนบอล เรากำลังอยู่ในช่วงปรับตัว ซึ่งมันก็มีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปได้อีกมาก

สไตล์การทำทีมที่เป็นเอกลักษณ์ของโค้ชง้วนเป็นอย่างไร

ทุกครั้งที่ลงแข่งชัยชนะคือเป้าหมายหลัก การทำทีมในแบบของผมก็จะมีบางส่วนคล้ายๆ โค้ชเตี้ยนะ ตรงที่จะเล่นอย่างไรให้แฟนบอลโอเค ก็คือเอาใจแฟนบอลนั่นแหละ แต่บางครั้งฟุตบอลมันก็ใช้เวลาสั้นๆ ไม่ได้ มันต้องใช้เวลามากกว่านั้น 

แรงผลักดันที่สำคัญของนักฟุตบอลในปัจจุบันนี้คืออะไร

การประสบความสำเร็จในอาชีพอย่างที่รุ่นพี่เคยทำไว้ เงินทองชื่อเสียง มีหมด ทุกวันนี้นักฟุตบอลอาชีพทุกวันนี้ มันค่อนข้างมีความมั่นคงขึ้น

สิ่งที่ทำให้โค้ชยังวนเวียนอยู่ในวงการนี้มันคืออะไร

ถ้าเป็นรุ่นก่อนๆ มันก็ไม่มีใครคอยแนะแนวว่าพอเลิกเล่นบอลแล้วจะทำอะไรต่อไป แต่อย่างในช่วงของผมยังได้เรียนในระดับมหาวิทยาลัย พอมีเชื่อเสียงทำผลงานมันก็สานต่อไปยังการได้รับเกียรติเป็นโค้ชหรือทำทีมต่างๆ หลายคนก็ให้การยอมรับ ซึ่งถามว่าผมไปทำอาชีพอื่นได้ไหม ได้นะ แต่ผมทำตรงนี้เพราะมันคือชีวิตไปแล้ว

เชื่อในพรแสวงและศรัทธาในพรสวรรค์มากน้อยอย่างไร

แน่นอนมันต้องมีให้ครบทั้งสองอย่างนะ เพราะบอลเป็นกีฬาที่ต้องใช้กำลังและเซ้นส์ แต่เชื่อเถอะไม่มีอะไรติดตัวเรามาตั้งแต่เกิดหรอก ก็ต้องไม่ท้อมันต้องมีวินัย ต้องขยัน มีไม่กี่คนนะในบ้านเรา เพราะสิ่งเร้ามันเยอะ 
มุ่งมั่นกันยังไม่พอ 

ปัญหาที่ซ่อนอยู่ในอาชีพฟุตบอลนั้นคืออะไร

ก็จะเป็นเรื่องของการให้แนวทางความรู้การปฏิบัติตน การวางแผนเก็บเงินเก็บทองของนักเตะ เขาจะไม่ค่อยนึกถึงเรื่องในอนาคตแบบนี้ แล้วก็อยากให้มีการช่วยเหลือกันสำหรับอดีตทีมชาติ หรือนักเตะรุ่นเก่าๆ เพราะยังถือว่ามันเป็นปัญหาทั่วโลกนะ 

บางกอกกลาสเองมีการวางแผนอย่างไรสำหรับนักเตะของตัวเอง

เราให้คำปรึกษาตลอด ก็มีพูดคุยให้คำแนะนำเสมอ เราค่อนข้างให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ในเรื่องพวกนี้ 

ประสบการณ์จากการเป็นโค้ชทีมชาติช่วงนั้นเป็นอย่างไร

ก็ยินดีนะครับที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับเกียรติทำทีมชาติ แต่ก็ไม่แฮปปี้ในเรื่องของผลงาน ต้องยอมรับว่าตอนนั้นผมได้เป็นในช่วงที่พร้อมน้อยไปหน่อย การเตรียมความพร้อมนี่มันสำคัญในทุกๆ เรื่องนะ ตอนนั้นทัวร์นาเม้นต์ต่างๆ ก็เข้ามาพร้อมๆ กันเยอะมาก ผมก็พยายามทำดีที่สุดแล้วในช่วงนั้น ซึ่งการทำทีมของซิโก้เองก็มาถูกทางนะ ที่ไม่ใช้ซุปเปอร์สตาร์ ใช้เด็กรุ่นใหม่ๆ ที่สามารถสร้างประสิทธิภาพให้กับตนเองได้ แล้วตัวซิโก้เองเขาก็มีข้อดีคือเป็นคนมีวินัย ซึ่งจุดนี้พวกเรามีด้วยกันทุกคนว่า ‘วินัยต้องมาก่อน’ 

สิ่งที่อยากฝากไปถึงโค้ชเตี้ยคืออะไร

ก็อยากให้โค้ชเตี้ยทำความฝันของตัวเอง คือการสร้างทีมเยาวชน หรือว่าทีมชาติให้สามารถไปในระดับสูงสุด หรือถึงบอลโลกให้ได้ครับ

พอจะบอกได้ไหมว่าคนที่คุณอยากให้เราไปพูดคุยต่อเขาเป็นคนอย่างไร

เอาเป็นว่าเขาก็เป็นคนที่สนิทสนมกันดี เล่นบอลมาด้วยกัน จนตอนนี้เขาเป็นคนที่คุมทีมแล้วมีผลต่อไทยลีกมากคนหนึ่ง มีบุคลิกคล้ายโค้ชเตี้ยนิดๆ 

ไม่มีอะไรติดตัวเรา มาตั้งแต่เกิดหรอกแน่นอนว่าในเล่มที่แล้วเรายังคุยกัน