“Alone Again (naturally)”

“Alone Again (naturally)”

Writer: Gilbert O’sullivan

Copyrights: Sony/ATV Music Publishing LLC

In a little while from now If I’m not feeling any less sour
I promised myself to treat myself And visit a nearby tower

And climbing to the top Will throw myself off
In an effort to make it clear to who 
Ever what it’s like when you’re shattered

Left standing in the lurch, at a church Where people are saying
My God that’s tough, she stood him up No point in us remaining

May as well go home As I did on my own
Alone again, naturally

To think that only yesterday I was cheerful, bright and gay
Looking forward to, but who wouldn’t do
The role I was about to play

But as if to knock me down Reality came around
And without so much as a mere touch
Cut me into little pieces

Leaving me to doubt Talk about God and His mercy
For if He really does exist Why did He desert me

In my hour of need? I truly am indeed
Alone again, naturally

It seems to me that There are more hearts
Broken in the world That can’t be mended

Left unattended What do we do? What do we do?

Alone again naturally

Now looking back over the years And whatever else that appears
I remember I cried when my father died Never wishing to hide the tears

And at sixty five years old My mother, God rest her soul
Couldn’t understand, why the only man
She had ever loved had been taken

Leaving her to start with a heart So badly broken
Despite encouragement from me No words were ever spoken

And when she passed away
I cried and cried all day
Alone again, naturally
Alone again, naturally

กุมภาพันธ์ เป็นเดือนที่น่ายินดีสำหรับมนุษย์เงินเดือน เพราะเป็นเดือนที่คุณทำงานน้อยที่สุดในแต่ละปี แต่จัดเป็นเดือนที่ไม่น่าสนุกเท่าไหร่สำหรับคนโสดหลายคน 

ไม่ใช่เพราะเดือนนี้มีวันมาฆบูชาแล้วหาคนไปเวียนเทียนด้วยไม่ได้หรอกนะครับ แต่เพราะกระแสของวันวาเลนไทน์ที่อบอวลชวนฝัน แต่ดันบาดใจคนโสดผู้กำลังไต่ขึ้นสู่ที่สูงในบ้าน หรือที่รู้จักทั่วไปว่า “คาน” 

Alone Again (Naturally) คือเพลงอันดับ 1 หกสัปดาห์ในอเมริกา ของนักร้องไอริช ชื่อ กิลเบิร์ต โอซัลลิแวน ในปี ค.ศ. 1972 ที่เคยถูกแบนอยู่พักนึง เนื่องจากเนื้อหาพูดถึงผู้ชายที่โดนเมียทิ้งแล้วอยากไปโดดตึก ก่อนจะบอกว่า ชีวิตของไอนั้นโดดเดี่ยว เดียวดายโดยธรรมชาติ

ในความเป็นจริง ความรู้สึกเหงา มันเกิดขึ้นได้ทั้งกับคนมีคู่และไม่มีคู่นะครับ คนแต่งงานแล้วหลายคนเหงานะครับ แล้วเหงาแบบทรมานกว่าคนโสดด้วย คือคนโสดเหงา มันยังเข้าใจได้นะครับว่าธรรมดา แต่เป็นคนมีแฟน มีคู่ แล้วดันเหงานี่สิ มันปวดร้าวกว่ากัน ...

ในแฟนเพจที่ชื่อ ธนาคารความสุข (Happiness Bank) ของผม แทบทุกวันจะมีคำถามเข้ามามากมาย ซึ่งผมก็พบว่าคนมีคู่จะมีปัญหาหลากหลาย ทั้งการถูกนอกใจ รักซ้อน เบื่อ เข้ากันไม่ได้ ฯลฯ คนที่เป็นโสดกลับมีปัญหาอยู่ปัญหาเดียว นั่นคือ ‘เหงา’ และไม่พอใจในความโสดของตัวเอง

คนโสดบางคนน่าสงสารนะครับ เกลียดความเหงาเลยอยากหาเหามาใส่หัว ในขณะที่พวกที่มีคู่อยู่แล้ว หลายๆ คู่กลับเบื่อเหลือทนเหมือนคนติดคุก (ถ้าดูจากสถิติการหย่าร้างที่เพิ่มสูงขึ้น) 

ฉะนั้น ถ้าเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว คนโสดมีโอกาสจะมีความสุขได้ง่ายกว่าคนที่มีคู่มากมายหลายช่วงตัว เพียงแต่มักจะโยนโอกาสนั้นทิ้งไป โดยเลือกเอาความเหงามาเป็นสรณะที่พึ่งอาศัยแทน ทั้งที่ในความจริงแล้ว คนโสดแทบไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องเหนื่อยกายเหนื่อยใจลุกไปแก้ เพียงแค่รู้จักยอมรับสถานะของตัวเองอยู่กับความเหงาอย่างเป็นมิตร แบบมีสติ มีปัญญา  

ความสุข ไม่ใช่เอกสิทธิของคนมีคู่นะครับ ความสุขเป็นผลจากการมีปัญญา รู้จักยินดีพอใจในสิ่งที่มี และยอมรับได้ในสิ่งที่ไม่มี แปลว่าถ้าคุณเป็นโสดแล้วพอใจ คุณก็มีความสุขได้ ถ้าคุณมีคู่แล้วพอใจ คุณก็มีความสุขได้ ในทางตรงข้าม ถ้าโสดหรือมีคู่แล้วไม่พอใจ มันก็ทุกข์ได้เหมือนกัน 

สุขสันต์วันที่เรายอมรับชีวิตแบบที่เรามีก็แล้วกันนะครับ 

ทุกข์เดียวของคนโสด