เมืองปาน
ระหว่างหนทางสายเล็กที่หายลับขึ้นไปในขุนเขารอยต่อของลำปาง-เชียงใหม่ กลางฝนปลายฤดูที่ห่มให้ผืนป่า พืชพรรณ รวมไปถึงผู้คนแห่งภูเขาเต็มไปด้วยความชุ่มเย็น ผมค่อยๆ นึกถึงใครหลายคนที่เคยพานพบในซอกมุมแห่งป่าดอยข้างบนนั้น
รอยยิ้มและคำห่วงใยของบางคนยังอบอุ่นเหมือนที่เคยสัมผัส หยาดเหงื่อในสวนกลางหุบเขานั่นเสียอีก ที่แตกดอกออกมาเป็นพืชผลอันแสนสมบูรณ์ ขณะบางนาทีที่ได้รับรู้ถึงการจากไปของใครสักคนก็นำพาความรู้สึกประเภทย่อหน้าขึ้นต้นให้หมุนวนทบซ้อน
เหล่านี้เรียงรายซุกซ่อนตัวตนอยู่บนทางหลวงหมายเลข 1252 เส้นทางสายสั้นทว่าเต็มไปด้วยคดโค้งชันดิ่งของขุนเขา
ยามเช้าเย็นตาด้วยไอหมอกขาวตามแอ่งที่ราบกลางขุนเขาที่บรรจุเต็มด้วยนาข้าวราวพรมผืนสีเขียวแผ่ไพศาล พื้นที่เล็กๆ แห่งอำเภอเมืองปานอย่างตำบลแจ้ซ้อนเคลื่อนขยับตัวเองไปอย่างที่มันเคยเป็นมา
ราวกับกาลเวลาทวนย้อน เราพบตัวเองอยู่ในตลาดสดประจำตำบล ผู้คนแห่งเมืองเก่ากลางขุนเขายังคงฉายภาพที่เรียกว่าสุขสงบเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาเยือน
สำเนียงภาษาเมืองล่องลอยอยู่เงียบๆ สื่อความหมายออกมาได้ถึงการไถ่ถามทุกข์สุข กลมกลืนไปอย่างไร้ความจอแจ ผักพืชผลและแมลงตามฤดูกาลแทรกตัวอยู่ท้ายตลาด ดอกฮังลาวกำลังบาน แม่ค้าเด็ดมันมาวางขายทั้งดอกและหน่อ เธอว่าลวกกินกับน้ำพริกอร่อยนัก มันสดใหม่เช่นเดียวกับปลาในห้วยแม่มอญที่ไหลรินเคียงข้างพื้นที่เกษตรกรรมและชุมชนที่นี่มาอย่างยาวนาน
ตลาดแจ้ซ้อนติดตัวเองไปในเช้าหนาวเย็นและความเป็นไปประจำวันของคนที่นี่ เมื่อพระสงฆ์รูปท้ายๆ เดินกลับจากบิณฑบาตรรอบหมู่บ้าน แม่อุ๊ยหลายคนละจากแผงชั่วคราว บรรจงใส่บาตรอาหารประดามีและรับพรจากตุ๊เจ้า หนึ่งในสิ่งที่เคียงคู่ชุมชนโบราณกลางหุบเขาแห่งนี้มาเนิ่นนานคือศรัทธาอันเหนียวแน่นในพระพุทธศาสนา
ก่อนตลาดจะวายพร้อมแดดสายฉายอาบ ภาพเบื้องหน้าชัดเจนความเรียบง่าย ยืนยันถึงโลกที่สงบเย็น อบอุ่น และแสนงดงาม
กล่าวถึงพระพุทธศาสนา ใครบางคนชักพาเราข้ามไปสู่ความเก่าแก่ของวัดศรีหลวงแจ้ซ้อน ทันทีที่พ้นแนวเขตกำแพงวัด โลกอีกใบของคนที่นี่ก็ปรากฏ
มันเริ่มจากพ่ออุ๊ยแม่อุ๊ยที่กำลังง่วนอยู่กับงานกฐินที่ใกล้เข้ามาถึงในไม่กี่วันข้างหน้า เสื่อสาดและเครื่องสังฆภัณฑ์ถูกปัดกวาดเช็ดฝุ่น ขันเงินขันทองเงาวับวาวอยู่ในมือของแม่เฒ่า เธอปักปิ่นและเสียบดอกไม้หลายชนิดไว้ด้วยกัน มันไม่ใช่แค่ความงาม หากแต่เชื่อมโยงด้วยความเชื่ออันเหนียวแน่นเกี่ยวกับเรื่องขวัญ
แดดสายระบายจับโบสถ์เก่าคร่ำ มันชัดเจนทุกความงามอย่างอ่อนช้อย แม้จะผ่านเลยนับพันปีจากปีก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.1215 แต่คล้ายทุกอย่างยังคงหยุดนิ่งตรึงตรา หลังคาไม้ซ้อนกันถึง 4 ชั้น ประดับประดาด้วยเครื่องไม้แกะสลัก งานปูนปั้นรูปสัตว์หิมพานต์รวมถึงทวยเทพยาดานั้นเรียบง่ายตามศิลปะท้องถิ่น ภาพที่วัดโบราณยังคงเต็มไปด้วยผู้คนที่พร้อมจะหันหน้าเข้าทะนุบำรุง ตราบเท่าที่ลมหายใจยังถ่ายเทให้ชีวิตวิ่งเต้น ...
ภาพที่นำคำว่าศรัทธาของมวลมนุษย์มาบอกเล่าอย่างละมุนละไมในเช้าอบอุ่นของเมืองเล็กๆ ในหุบเขาแห่งหนึ่ง ...
แอ่งที่ราบกลางหุบเขาของตำบลแจ้ซ้อน รวมไปถึงพื้นที่รายรอบล้วนมีตัวตนอยู่ในบทบันทึกทางประวัติศาสตร์
พื้นที่ภายในเขตของอำเภอเมืองปานอันแสนสุขสงบแห่งนี้คือชุมชนทางทิศเหนือของเขลางค์นคร ที่เดิมชาวบ้านเรียกันว่า “ทุ่งสามหมวก” หรือ “ทุ่งสามโค้ง” อุดมไปด้วยป่าไม้สายน้ำ และความสมบูรณ์ยิ่งแห่งทรัพยากร มันกลายเป็นเป้าหมายของเมืองใหญ่อื่นๆ อย่างพม่าและเงี้ยว ที่หวังเข้ามายึดที่นี่ให้เป็นแหล่งบ่มเพาะเสบียงอาหาร
หลับตานึกถึงเมืองเล็กแห่งนี้ กลางสายลมหนาวแรกๆ ที่ผ่านมาเยือนต้นฤดู ภาพขุนเขาอันห้อมล้อมก็ปรากฏ บ้านแจ้ซ้อนขับเคลื่อนคืนวันอยู่ด้วยโลกแห่งเกษตรกรรมอันแสนเก่าแก่ ที่ราบตามหุบเขาคือผืนนาที่เปลี่ยนสีสันไปตามฤดูกาล ทั้งเขียวชอุ่มและอร่ามเหลือง
ข้าวผูกพันกับคนที่นี่มาอย่างแยกกันไม่ออกนอกจากนาข้าวที่แผ่ผืนอาบคลุมหมอกขาว แล้ว ยังเต็มไปด้วยชีวิต ความคิดความเชื่อและการสืบทอดส่งต่อของผู้คนที่หายใจอยู่เคียงข้างมัน ซึ่งพร้อมจะขับเคลื่อนโลกใบเก่าไปเคียงข้าง
เข็มนาฬิกาของวันพรุ่ง
ถนนเล็กพาใครสักคนผ่านพ้นเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ทางชันเรียงรายด้วยขี้เหล็กเทศสีเหลืองสดใส ต้นเสี้ยวป่าผละใบรอวันแตกดอกขาวบริสุทธิ์ประดับวันหนาว
16 กิโลเมตรจากที่ราบกลางทุ่ง บ้านป่าเหมี้ยงวางตัวอยู่อย่างสมถะเหนือความสูงกว่า 1,000 กิโลเมตรจากระดับทะเลปานกลาง หมู่บ้านเงียบเชียบสมถะ ไล่ระดับไปในเนินเขาและป่าฉ่ำชื้น ธารน้ำสายหลักไหลรินอยู่เบื้องล่าง มันส่งเสียงพึมพำไปเคียงคู่ผู้คนบนดอยสูง ...
หมู่บ้านเก่าแก่เช่นนี้ดำรงตนมาคล้ายคืนวันการก่อตั้งอย่างไม่แตกต่าง ที่ชาวบ้านมักปล่อยให้บ้านเรือนไม้แสนสวยเหลือเพียงเด็กและคนแก่ และการปลูก เก็บ ตลอดจนเรื่องราวการนำพามันลงไปสู่เบื้องล่างนั้นชัดเจนอยู่ในชีวิตและทุกอณูแห่งป่าเขาเช่นในอดีต
กลางขุนเขาอันยิ่งใหญ่โอบล้อม ผู้คนและหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน สิ่งใดจะเปี่ยมค่าไปกว่าการได้เห็นชีวิตอีกหลายรุ่นแตกยอด เติบโตและหล่อหลอมอยู่ด้วยใบไม้ใบเล็กๆ ที่แผ่กระจายขึ้นห่มคลุมผืนภูเขา
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1252 ยกตัวจากที่ราบในตำบลแจ้ซ้อน มันพารถคันเล็กหายลับไปในคดโค้งของขุนเขาหนาวเย็น ผืนนากลายเป็นจุดเล็กๆ และลับตาไปตามความสูงที่เพิ่มระดับ คืนวันคล้ายทวนย้อนเมื่อเราขึ้นไปถึงบ้านแม่แจ๋ม อากาศสดสะอาดอย่างที่มันเคยเป็น สองมือของผู้คนบนนั้นยังเต็มไปด้วยร่องรอยของการงานเพาะปลูกพืชเมืองหนาว รอยยิ้มของพวกเขาเปี่ยมชีวิตชีวา
ในความฉ่ำชื่นรื่นเย็น ที่นั่นราวอาณาจักรของพืชเมืองหนาว แมคคาเดียเมีย กาแฟ และผลไม้นานากระจายลัดหลั่นกันไปในสวนที่แทรกอยู่ในภูเขา นาทีนี้ต่างจากหลายปีก่อน คนที่นี่เริ่มปลูกสตอเบอรี่ได้เป็นที่แรกๆ ของลำปาง
ว่ากันถึงพืชราคาลิบลิ่วอย่างแมคคาเดียเมียพ่อสุวรรณว่าเมล็ดพันธุ์แสนอร่อยที่ราคาขายข้างบนดอยนี้สูงถึงกิโลกรัมละ 1,200 บาทนั้น มันเต็มไปด้วยเรี่ยวแรงและการดูและประคบประหงม ผลิตผลแห่งขุนเขาชนิดนี้จึงเต็มไปด้วยชาบ้านที่เฝ้ารอฤดูเก็บเกี่ยวและส่งขายของมันอย่างเต็มความมุ่งหวัง
เป็นเช่นทุกครั้งสำหรับคนที่เลือกบ้านแม่แจ๋มเป็นจุดหมายยามขึ้นสู่ภูเขา ที่โลกแห่งการเพาะปลูกรวมไปถึงรอยยิ้มในท่ามกลางผลิตผลนานาจะเติมเต็มทั้งกลิ่นและรสชาติอันแสนรื่นรมย์ ...
How to Go?
การเดินทาง
ขับรถท่องเที่ยวบนทางหลวงหมายเลข 1252 ถือเป็นเส้นทางสั้นๆ ที่เต็มไปด้วยความงดงาม ทั้งวิวป่าเขาสวยๆ วิถีชีวิตผู้คนและการเพาะปลูกอันน่าเรียนรู้ รวมไปถึงพักแรมและเที่ยวชมสวนเกษตรที่เต็มไปด้วยพืชผักผลไม้รสชาติดี
มีระยะทางไม่ยาวนัก ราว 50 กิโลเมตร แต่เป็นเส้นทางภูเขา ควรใช้รถที่มีกำลังเครื่องสมบูรณ์
เริ่มจากอำเภอเมืองปาน ตำบลแจ้ซ้อน เที่ยววัดศรีหลวงแจ้ซ้อนอันเก่าแก่ ต่อด้วยไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ขึ้นดอยไปเที่ยวบ้านป่าเหมี้ยง ชมการปลูก เก็บ และแปรรูปใบเมี่ยงอันหลากหลาย จากนั้นย้อนกลับมาตั้งต้นใหม่ที่อุทยานฯ แจ้ซ้อน ขึ้นไปเที่ยวบ้านแม่แจ๋มตามทางหลวงหมายเลข 1252 ชิมกาแฟ แมคคาเดเมีย เสาวรส รวมไปถึงพักค้างโฮมสเตย์บรรยากาศดี
รายละเอียดเพิ่มเติม
ไร่หญ้าแจ้ซ้อนรีสอร์ท รีสอร์ตสวย บรรยากาศดี ติดลำน้ำแม่มอญ โทร. 0-5426-3048, www.raiyachaesonresort.com
โฮมสเตย์บ้านป่าเหมี้ยง โทร. 08-9852-7092
สุวรรณาการ์เด้น & โฮมสเตย์ พักค้างคืนที่บ้านแม่แจ๋ม โทร. 08-5867-5118