ต่อเนื่องจากฉบับที่แล้ว ว่าด้วยเรื่องของการเบิกฟ้าของ “ผ่านกู่” แบ่งโลกแยกธาตุอากาศกับโลกออกเป็นฟ้ากับดิน และได้เกิดสรรพสิ่งขึ้นมามากมายบนโลกนี้ ซึ่งโลกของเราก็ได้มีสิ่งมีชีวิตที่วิเศษขึ้นมานั่นก็คือ “เทพธิดาหนี่วา” กับ “ฝูซี”
หรือ “ปู้ยี่” นั่นเอง  จากตรงนี้ผมได้มีการค้นคว้าและทำให้ทราบว่า ทางตำนานการกำเนิดมนุษย์ของญี่ปุ่นเองก็มีกล่าวไว้ในลักษณะคล้ายๆ กัน โดยกล่าวถึงว่าสิ่งมีชีวิตยุคแรกมี 3 สิ่งมีชีวิตเป็นเพื่อนกัน นั่นคือพระแม่ธรณี (ผู้ให้กำเนิดสรรพสิ่ง),ลิงหินยักษ์ (คล้องจองกับเรื่องราวของผ่านกู่) และเทพดึกดำบรรพ์ ฟูจิ (ฟูจิเป็นชื่อภูเขาฟูจิในปัจจุบัน ซึ่งพ้องกับชื่อของเทพ ฝูซี หรือ ปู้ยี่ ของจีน)

แต่ไม่น่าแปลกครับเพราะจีนกับญี่ปุ่นนั้นก็มีอาณาเขตใกล้ๆ กัน การมีเรื่องราวทางตำนานที่คล้ายคลึงกันก็ไม่น่าแปลก ซึ่งเทพหนี่วานั้น มีรูปร่างหญิงสาวหน้าตางดงามมีเขี้ยวเป็นแก้วผลึก ปากสีแดงพุทรา สูง 775 เซนติเมตร มีงูยักษ์เป็นพาหนะ กล่าวกันว่าเป็นผู้สร้างมนุษย์ชาติและสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกนี้ ส่วนเทพฝูซีนั้นเป็นผู้รอบรู้ หยั่งรู้ดินฟ้าเป็นผู้มอบปัญญาให้กับมนุษย์นั่นเอง บางตำนานกล่าวว่าเทพฝูซีนั้นเป็นทั้งพี่ชายของเทพหนี่วา เป็นทั้งสามี และทั้งคู่นั้นก็เป็นพ่อแม่ของมนุษย์ที่สืบเชื้อสายมาจนถึงปัจจุบัน 

ตำนานเปิดโลก(จีน)

แต่อีกบันทึกหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า เทพมารดรบังเกิดขึ้นมาแล้วอยู่กับฝูซีสองคนแล้วรู้สึกเหงา คล้ายอดัมกับอีฟตามคัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์นั่นละครับ (ยิ่งเหมือนเข้าไปใหญ่ตรงที่มีงูยักษ์เป็นพาหนะ แต่ของคริสต์งูยักษ์หมายถึงกิเลศและบาป) ดังนั้นจึงสร้างสัตว์และมนุษย์ขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อน เทพหนี่วาก็เริ่มสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นทีละวันๆ วันแรกสร้างไก่ วันที่สองสร้างสุนัข วันที่สามสร้างแกะ วันที่สี่สร้างหมู วันที่ห้าสร้างวัว วันที่หกสร้างม้า และวันที่เจ็ดเทพหนี่วาได้ใช้ดินเหลืองผสมกับน้ำปั้นมนุษย์ขึ้นมา แล้วพระองค์ก็ทรงมอบพลังชีวิตให้ มนุษย์จึงก่อกำเนิดบนโลกใบนี้  โดยที่แต่ละตัวหน้าตาไม่เหมือนกันเลย หลังจากสร้างไปได้หลายร้อยตัว เทพหนี่วาจึงรู้สึกว่าวิธีนี้ค่อนข้างช้า จึงคิดหาวิธีใหม่
โดยการนำเอาเชือกจุ่มลงในดินโคลน จากนั้นยกขึ้นมาสะบัด เศษโคลนที่หลุดจากเชือกก็ตกลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นมนุษย์ แต่เป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์เท่าไรนัก พิการบ้าง คนเราจึงมีความแตกต่างตามความเชื่อของชาวจีนในตำนานนี้

แต่แล้วเหตุการณ์ ที่เป็นจุดเริ่มต้นตำนานก็เริ่มขึ้น เมื่อเทพที่มีฤทธิ์มาก 2 องค์ คือ เทพไฟ และ เทพน้ำได้ต่อสู้กัน เต่ายักษ์ของเทพน้ำได้หลบนี้จนไปชนกับภูเขาปู้โจว (หรือเสาค้ำฟ้า) ทำให้ภูเขาปู้โจวพังทลาย ทำให้ฟ้าเอียงไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ดินเอียงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ภูเขาและผืนป่าถูกไฟทำลาย เกิดน้ำท่วมไปทั่วทุกหนแห่ง ผืนฟ้าเป็นรูโหว่ใหญ่ ปิศาจก็ออกมาทำร้ายผู้คน มนุษย์ประสบกับภัยพิบัติอันใหญ่หลวง 

ตำนานเปิดโลก(จีน)

เทพมารดรหนี่วาจึงได้ออกมาต่อสู่กับเหล่าปิศาจและมารร้ายเพื่อช่วยเหลือมวลมนุษย์ และเห็นว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ดีแน่ มนุษย์และสิ่งมีชีวิตต่างๆ บนโลกจะล่มสลายตายจากไปหมด เทพมารดรหนี่วาจึงได้ใช้ขาของเต่ายักษ์ที่เสียสละ นำมาสร้างเป็นเสาค้ำฟ้าเอาไว้ (เพราะตนเองทำเสาค้ำฟ้าพังทลาย) ส่วนตนเองนั้นสร้างหินห้าสี (บางตำนานเล่าว่าเทพมารดรหนี่วา สละแขนซ้ายของตนสร้างเป็นหินห้าสี) นำมาอุดรูรั่วของฟ้า ทุกอย่างดูเหมือนเป็นไปได้ด้วยดี แต่ระหว่างที่อุดรูรั่วของฟ้า และรอแผลของท้องฟ้าสมานอยู่นั้นมารร้ายตนหนึ่งที่เจ็บแค้นได้เข้ามาทำร้ายเทพมารดรหนี่วาขณะที่ไม่สามารถป้องกันตนเองได้ จนร่างกายของเทพมารดรขาดครึ่ง งูยักษ์ที่เป็นพาหนะของหนี่วาจึงได้เข้ามากัดมารร้ายตนนั้นจนตายไป และเสียสละเข้าไปงับร่างเชื่อมต่อร่างกายกับเทพมารดรหนี่วา จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ภาพของเทพมารดรหนี่วามีรูปลักษ์ครึ่งคนครึ่งงู อย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน  

ตำนานเปิดโลก(จีน)

ด้วยความดีของเทพมารดรหนี่วา ทำให้ชนชาวจีนทั้งจากอดีตจนถึงปัจจุบันนั้นยังให้ความเคารพนับถือยกย่อง ฮ่องเต้ของประเทศจีนทุกพระองค์ ตั้งแต่ราชวงศ์แรกๆ ยันราชวงศ์สุดท้าย ต่างต้องมีประเพณีเข้ากราบไหว้เทพมารดรหนี่วาในทุกๆ ปี ว่ากันว่าราชวงศ์ใดจะรุ่งเรืองหรือล่มสลายก็ขึ้นอยู่กับเทพมารดรหนี่วานี่แหละครับ ชาวจีนมีอีกหนึ่งความเชื่อที่ว่าเทพมารดรหนี่วามีความเมตตามากสตรี หญิงสาวจึงมักจะขอพรให้เทพมารดรหนี่วาประทานบุตรชาย และยังเป็นเทพแห่งความรักโดยพระองค์เป็นแม่สื่อโดยเป็นประธานในการคัดเลือกคู่ครองของหญิงสาว เช่น การเขียนชื่อลงในแผ่นกระดาษขนาดเล็กและแช่ในชามที่บรรจุน้ำ หากกระดาษที่มีชื่อของชายใดไม่จางหายไป ชายคนนั้นคือคนที่เทพมารดรหนี่วาทรงเลือกแล้ว ...

ครับจบเรื่องราวตำนานเปิดโลก (จีน) ผ่านกู่ เทพมารดรหนี่วา เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ขึ้นปีใหม่เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ ก็ขอให้เป็นปีที่ดีสำหรับท่านผู้อ่าน MiX MAGAZINE ทุกๆ ท่าน และอย่าลืมติดตาม Legend ในฉบับต่อๆ ไป แล้วผมจะหาเรื่องราวตำนานสนุกๆ มาให้ผู้อ่านได้ติดตามอยู่เรื่อยๆ แน่นอนครับ