‘อันดับ’ ที่สวนทางกับ ‘ผลงาน’
ก่อนอื่นต้องขอกล่าวสวัสดีปีใหม่แฟนหนังสือ MiX MAGAZINE ทุกท่านในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ปีมะเมีย “แพะ” ตามความเชื่อของนักกษัตริย์จีน ก็ขอให้แฟนๆ หนังสือทุกคนเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ตามที่หวัง ทิ้งสิ่งไม่ดีหรือสิ่งแย่ๆ ไว้กับปีที่ผ่านไปแล้ว
พูดถึงเรื่องกีฬาอันดับ 1 ของมหาชนชาวไทยคงหนีไม่พ้นฟุตบอล ที่ต้องบอกว่าฟุตบอลลีกในเมืองไทยไม่ว่าจะเป็นลีกสูงสุดอย่าง “โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก” ไปจนถึงลีกล่างอย่าง “ลีกวัน” หรือ “ลีกภูมิภาค” กำลังอยู่ในช่วงบูมตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
รวมทั้งผลงานทีมชาติที่ดีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการได้แชมป์ซีเกมส์ สมัยที่ 14ที่ประเทศเมียนมาร์ เมื่อเดือนธันวาคมสองปีที่แล้ว หรือการได้อันดับ 4 ในฟุตบอลเอเชี่ยนเกมส์ที่ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อกลางปีที่ผ่านมา จนไปถึงฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ที่เพิ่งจบลงไปก็สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเพียงแค่ลงเล่นไปสองนัดในรอบแบ่งกลุ่ม
หรือทางฝั่งฟุตบอลหญิงก็สามารถคว้าโควต้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศแคนาดาในกลางปีนี้หลังจากทำผลงานในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียที่เวียดนามเมื่อกลางปีที่แล้วด้วยการจบอันดับ 5
ถ้าวัดผลงานโดยรวมต้องบอกว่า ผลงานของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในแง่ของผลงานทีมฟุตบอลทีมชาติไทยไม่ว่าจะเป็นประเภทชายหรือหญิงถือว่าสอบผ่านทั้งคู่ ยืดอกได้ด้วยความภาคภูมิใจ
สำหรับเรื่องแฟนฟุตบอลไทย เรื่องที่น่าจะหลายคนคงได้ยินแล้วคันหูเพราะการจัดอันดับคะแนนของทีมชาติจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือที่เรียกว่า “ฟีฟ่า” ทำไมอันดับของขุนพลช้างศึกถึงได้สาละวันเตี้ยลงเตี้ยลงทุกที่ ล่าสุดอันดับของเราอยู่ที่ 165 เข้าไปแล้ว (เดือนพฤศจิกายน 2557)
ถือว่าต่ำกว่าหลายๆ ชาติที่เวลาแข่งกันแพ้เราเป็นประจำไม่ว่าจะเป็น จีน(88) มัลดีฟส์ (142) อินเดีย (159) ฮ่องกง (163) หรือเพื่อนบ้านที่เรามักจะมองเป็นลูกไล่อย่าง เวียดนาม (136) เมียนมาร์ (137) ลาว (154) มาเลเซีย (156) อินโดนีเซีย (157) สิงคโปร์ (161)
นอกจากนี้เมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียหรือ “เอเอฟซี” ประกาศคะแนนในเรื่องภาพรวมสโมสรในแต่ละชาติ และภาพรวมของทีมชาติ เพื่อเป็นเกณฑ์ในการแบ่งโควต้าว่าลีกประเทศไหนจะได้โควต้าไปเล่นฟุตบอลถ้วยเอเชียอย่าง “เอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก” และ “เอเอฟซี คัพ” กี่สโมสรบ้าง
โดยคะแนนเต็มจากทั้งสองส่วนคือ 100 แบ่งเป็นภาพรวมสโมสร 70 คะแนน และ ภาพรวมทีมชาติ 30 คะแนน
ประเทศที่ได้อันดับ 1 คือ เกาหลีใต้ (สโมสร 68.294 คะแนน ทีมชาติ 26.571 คะแนน รวม 94.865 คะแนน) ตามมาด้วยอับดับ 2 ซาอุดิอาระเบีย (สโมสร 70 คะแนน ทีมชาติ 18.268 คะแนน รวม 88.268 คะแนน) อันดับ 3 อิหร่าน (สโมสร 57.794 คะแนน ทีมชาติ 30 คะแนน รวม 80.794) และอันดับ 4 ญี่ปุ่น (สโมสร 47.161 คะแนน ทีมชาติ 29.946 คะแนน รวม 77.107 คะแนน)
คะแนนรวมทั้งสองส่วนของไทยคือ 33.049 คะแนน แบ่งเป็นภาพรวมสโมสร 27.585 คะแนนและทีมชาติ 5.464 คะแนน อยู่อันดับ 13 ของเอเชียในการจัดอันดับครั้งนี้
ในส่วนของสโมสรจากลีกไทยจากการจัดอันดับไม่น่าห่วงเท่าไหร่เพราะได้ 27.585 คะแนน ถ้านับเฉพาะส่วนนี้ก็อยู่อันดับ 11 ของเอเชีย แต่คะแนนของภาพรวมทีมชาติถือว่าน่าห่วงและสอบตกได้เพียงแค่ 5.464 คะแนน
ถ้านับคะแนนส่วนนี้ส่วนเดียวอันดับของทีมชาติไทยต้องอยู่รั้งท้ายของทวีปอย่างแน่นอน เพราะคะแนนเท่านี้น้อยกว่าหลายประเทศที่วงการฟุตบอลยังล้าหลังกว่าเราไม่ว่าจะเป็น ประเทศไทยใกล้สงครามทุกวันอย่างซีเรีย (8.250 คะแนน) หรือมีสงครามอยู่อย่างปาเลสไตน์ที่ไม่มีคะแนนส่วนสโมสรแต่ทีมชาติเค้าได้ถึง 15.911 คะแนน
ประเทศที่ไม่มีพื้นที่เตะบอลอย่างฮ่องกง (5.839 คะแนน) หรือที่ตลกร้ายกว่านั้น ทีมชาวเกาะอย่างมัลดีฟส์ยังได้คะแนนของทีมชาติถึง (9.804 คะแนน) ถ้าดูอันดับแค่ในภูมิภาคอาเซียน ภาพรวมสโมสรฟุตบอลลีกของเรานอนมาเป็นอับดับ 1 แต่ภาพรวมของทีมชาติมารั้งท้าย น้อยว่าเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ซะอีก
ถ้ามาดูเกณฑ์การให้คะแนนเหล่านี้ที่อันดับทีมชาติไทยของเราไม่ดีเอาซะเลย สรุปได้ว่าอยู่ที่แมตช์ตามปฏิทินของ “ฟีฟ่าเดย์” ที่บางสัปดาห์เราจะเห็นเป็นแมตช์ของฟุตบอลทีมชาติซึ่งทางฟีฟ่าหรือเอเอฟซีก็จะเอาคะแนนจากการลงแข่งในส่วนนี้มาคิด
แต่ที่ผ่านมา บางสัปดาห์ของทีมชาติ เราก็ไม่มีโปรแกรมลงเล่นหรือหาทีมอุ่นเครื่องไม่ได้ บางทีอุ่นเครื่องไม่ตรงกับที่ฟีฟ่ากำหนดไว้เช่นคนละช่วงเวลา หรือเปลี่ยนตัวเกินจำนวนที่ฟีฟ่ากำหนดในแมตช์อุ่นเครื่องซึ่งส่งผลต่อการให้คะแนนค่าอันดับทีมชาติของเอเอฟซีด้วยที่เราคะแนนก็รั้งท้ายของทวีป
ยิ่งผลงานของทีมชาติออกมาดีแล้วอันดับของทีมชาติแย่ ถือเป็นความรับผิดชอบของสมาคมฟุตบอลโดยตรง ต้องรีบแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยจะปฏิเสธหรือตีงงไม่ได้เพราะเรื่องนี้ชัดเจนและถ้าสงสัยว่าวิธีเพิ่มอันดับของทีมชาติทำยังไง ขอเพียงเข้าไปดูในเว็บไซด์ของฟีฟ่า เอเอฟซีหรือ แม้กระทั่งวิกิพีเดียยังมีเขียนไว้เลย
ดังนั้นคำตอบว่า ทำไมผลงานของทีมชาติออกมาดียิ่งปีที่ผ่านมาด้วย แต่การจัดอันดับของฟีฟ่าหรือเอเอฟซีออกมาแย่ ง่ายมากเพราะเราไม่ทำตามเกณฑ์การให้คะแนนในส่วนนี้ที่มาในรูปแบบของเกมอุ่นเครื่อง “ฟีฟ่าเดย์”
ซึ่งความสำคัญของคะแนนการจัดอันดับทีมชาติ จะมีผลตอนคัดเลือกหรือเป็นทีมวางในการแข่งขันรายการที่ “ฟีฟ่า” รับรอง ถ้าอันดับดีก็มีสิทธิ์เป็นทีมวางอันดับต้นๆ เจอคู่แข่งที่ไม่แข็งมาก แต่ถ้าคะแนนไม่ดีอันดับท้ายๆ ก็มีสิทธิ์เจอคู่แข่งแข็งๆ ครับ
สุดท้ายเมื่ออันดับของเราดีขึ้นจะได้ไม่ต้องอายใครที่จะบอกว่า นายกสมาคมฟุตบอลของเราเป็น “ฟีฟ่าเมมเบอร์”