“Lost Star”
Please, don’t see just a boy Caught up in dreams and fantasies
Please, see me Reaching out for someone I can’t see
Take my hand, Let’s see where we wake up tomorrow
Best laid plans sometimes are just a one night stand
I’ll be damned, Cupid’s demanding back its arrow
So let’s get drunk on our tears
*And God, tell us the reason Youth is wasted on the young
It’s hunting season And the lambs are on the run
Searching for meaning
But are we all lost stars try to light up the dark
Who are we? Just a speck of dust within the galaxy?
Woe is me If we’re not careful, turns into reality
But don’t you dare let our best memories bring you sorrow
Yesterday I saw a lion kiss a deer
Turn the page, maybe we’ll find a brand new ending
Where we’re dancing in our tears (*)
**I thought I saw you out there crying I thought I heard you call my name
I thought I heard you out there crying But just the same
(*) (**)
But are we all lost stars try to light up the dark
หนึ่งในหนังม้ามืดประจำปีที่หลายคนชอบ Begin Again แต่ผมไม่ได้อะไรกับหนังมาก อันนี้เป็นรสนิยมส่วนตัวที่ว่ากันไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
โปรดิวเซอร์หนุ่มใหญ่ หลงในป่าคอนกรีตมาเจอกับสาวน้อยนักแต่งเพลง ที่ซมซานเพราะพยายามหนีจากความจริงว่า แฟนหนุ่มที่กำลังกลายเป็นดาวจรัสแสง กำลังกลายเป็นดาวหลงทาง เพราะนอกใจเธอ
สุดท้ายโปรดิวเซอร์ก็ต้องเลือกว่าจะกลับไปคืนดีกับเมียไหม สาวน้อยก็ต้องเลือกว่าจะกลับ “ขึ้นเวที” กับแฟนเก่า หรือจะเริ่มชีวิตใหม่ที่ไม่มีแฟนเก่าที่มาขอคืนดี
คุณอาจถามว่า “แล้วไง มันไม่ดีตรงไหน” ตอบว่า “ก็ดีครับ แต่ผมอาจจะเจอและได้ฟังเรื่องแบบนี้มาเยอะจนผมไม่รู้สึกว่า ผมต้องจ่ายเงินสองร้อยเพื่อเข้าไปดูหรือรับรู้เรื่องแบบนี้ในโรงหนังอีก”
คือถ้าให้คะแนนตัวหนังผมให้แค่ 6.5 /10 แต่สำหรับเพลง ผมให้ 10/10 เพลงเขาดีทุกเพลง อันนี้ยืนยันและรับประกันได้
เพลงนี้มีสองเวอร์ชั่น ทั้งแบบผู้ชายร้องและผู้หญิงร้อง คือในเรื่องนางเอกเป็นคนแต่งให้แฟนเก่าที่กลายเป็น Rock Star เธอเปรียบว่าดาวบางทีก็แค่หลงทาง และพยายามจะส่องแสงแข่งกับความมืด เพื่อจะหาทางของตัวเอง
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยพูดว่า มนุษย์นี่มีความสำคัญในระดับแค่เศษผงของอวกาศ แต่เราชอบคิดว่าเรามีความสำคัญเหลือเกิน เพราะมานะอัตตาที่เรามี
พอรู้สึกว่ามี “กู” ปัญหาของเราเลยสำคัญที่สุด ใหญ่ที่สุด เจ็บที่สุด ทุกข์ที่สุด เพราะมันเป็นเรื่อง “ของกู” แต่ถ้าลองมองให้กว้างขึ้น ใหญ่ขึ้น ลึกขึ้น เราไม่ใช่คนเดียวที่มีปัญหา ไม่ใช่คนเดียวที่มีทุกข์
โลกนี้มีคนที่ลำบากกว่าเรา ชีวิตเขายากกว่าเรา ด้อยโอกาสกว่าเราทุกข์มากกว่าเราเสมอ ถ้าคุณมีปัญญาสามารถอ่าน MiX ในมือคุณตอนนี้ได้ เชื่อเถอะว่า คุณมีโอกาสของชีวิตที่ดีกว่าคนอีกหลายร้อยล้านคนบนโลก
อย่าจมกับความผิดพลาดในอดีตนะครับ ลอง Turns the page พลิกหน้าต่อไปดู แล้วจะรู้ว่า ตอนจบอาจจะไม่ได้เป็นแบบที่คุณคิด
ในทางคริสต์ เขาเปรียบคนที่ยังไม่มีศรัทธาในพระเจ้า เหมือนลูกแกะหลงทาง ในทางพุทธ เราเปรียบมนุษย์ที่หลงในกิเลสไปวันๆ ว่าเหมือนลอยคอ รอวันตาย นอกจากจะว่ายจนขึ้นฝั่งได้
ไม่ว่าที่ผ่านมาชีวิตคุณจะเป็นแบบไหน ขอให้เชื่อว่า ชีวิตคนเรานั้นมัน Begin Again ได้เสมอครับ
สุขสันต์วันที่ยังมีดาวในคืนเดือนมืดก็แล้วกันนะครับ