เธอทำงานทุกอย่างบนความตั้งใจ ทุ่มเททั้งแรงใจแรงกาย เพื่อคุณภาพที่ดีของงานที่เกิดขึ้น เธอผ่านประสบการณ์ทำงานมาแล้วหลายด้าน ทั้งธุรกิจกระเป๋า ดีไซเนอร์ ผู้จัดละคร โปรดักชั่นเฮ้าส์ และนี่คือธุรกิจล่าสุดที่คุณหญิงแมงมุมกำลังทุ่มเทด้วยความตั้งใจ ส่งความพิถีพิถันอย่างดีที่สุด ผ่านอาหารรสชาติจัดจ้านในร้านอาหารบรรยากาศดี ไก่ย่างเสือใหญ่ by MANGMOOM 

“ร้านไก่ย่างเสือใหญ่ by MANGMOOM ที่สุขุมวิท 49 เป็นสาขาที่สามของร้านไก่ย่างเสือใหญ่ สาขาแรกเป็นของคุณยาย สาขาที่สองเป็นของคุณแม่ ส่วนสาขานี้เป็นของแมงมุมเองที่สนใจเปิดธุรกิจร้านอาหารก็เพราะว่าเป็นธุรกิจที่ครอบครัวทำมาก่อน แล้วเพื่อนๆ ของแมงมุมก็ชอบทานอาหารที่ร้าน เลยตัดสินใจมาเปิดในย่านใจกลางเมือง 

“ที่เลือกทำเลย่านนี้ก็เพราะหลายปัจจัย ทั้งกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งพนักงานออฟฟิศ ชาวต่างชาติ หรือลูกค้าที่มาเป็นครอบครัว ที่สำคัญมีที่จอดรถให้ลูกค้า เดินทางสะดวก ทำเลสำคัญมากนะคะ พอมาเจอที่นี่มันตอบโจทย์พอดีทั้งเรื่องที่จอดรถ บริเวณร้านมีเนื้อที่สองชั้น แถมอยู่ใจกลางเมือง

“สำหรับไก่ย่างเสือใหญ่สาขานี้เป็นการรีแบรนด์ดิ้งใหม่ ทั้งสไตล์การตกแต่ง รวมถึงการสร้างบรรยากาศภายในร้าน สไตล์เพลงที่เปิด สไตล์การตกแต่งของที่นี่ก็จะไม่เหมือนสองสาขาแรก เน้นสีสันสดใส ใช้สีสดๆ จัดๆ เพราะเป็นการบอกถึงรสชาติของอาหารในร้าน ออกแนววัยรุ่นหน่อย  แต่ว่านั่งสบายเหมาะสำหรับมากันทั้งครอบครัวด้วย บรรยากาศเป็นกันเอง 

“สูตรอาหารดั้งเดิมก็มาจากคุณยาย คือร้านเราไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ ตั้งแต่แม่ครัว พนักงาน ทุกอย่างเทรนมาจากคุณแม่และคุณยายทั้งหมด คือเราโชคดีที่ได้คุณแม่ช่วย เพียงแต่เราทำให้เป็นระบบมากขึ้น มีเมนูพิเศษ ทันสมัยมากขึ้นเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น

“อาหารในเมนูที่ร้าน แมงมุมจะเป็นคนเลือกเองทั้งหมด ส่วนใหญ่เลือกจากที่แมงมุมชอบทานค่ะ แต่อาหารแนะนำที่อยากให้มาลองก็คือ ตำตะลิงปลิง และที่ขาดไม่ได้ก็คือไก่ย่างเสือใหญ่ ถือเป็นซิกเนเจอร์สูตรเฉพาะของร้านเรา กระแสตอบรับถือว่าดีมากค่ะ เพราะเราเพิ่งเปิดมาไม่ถึงปี แต่ลูกค้าเยอะมาก ต้องขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชน และเพื่อนๆ นักแสดงและคนในวงการบันเทิงทั้งหลายที่ช่วยโปรโมทด้วยค่ะ 

“กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราคือคนที่อยากรับประทานอาหารรสชาติอร่อยและรู้สึกเหมือนคนที่บ้านทำให้ทาน เราเปิดรับลูกค้าทุกกลุ่มทุกวัย ไม่ใช่แค่วัยรุ่นอย่างเดียวหรือมาเป็นครอบครัว นัดมาทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันในวันอาทิตย์

“การประชาสัมพันธ์ของร้านเราก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งในโซเชี่ยลมีเดียอย่าง อินสตาแกรม เฟสบุ๊ก เว็ปไซต์ นิตยสาร วิทยุ รายการทีวี พี่ๆ สื่อมวลชนก็ช่วยเยอะเลยค่ะ ตอนนี้แมงมุมได้เปิดร้านเพิ่มอีกหนึ่งสาขาที่หัวหิน เพิ่งเปิดมาได้สี่เดือนค่ะ ถือเป็นสาขาล่าสุด

“นอกจากร้านอาหารแมงมุมก็ทำโปรดักชั่นเฮ้าส์ด้วย บริษัท ศรีคำรุ้งโปรดักชั่น ทำละครป้อนทีวีหลายๆ ช่อง ที่ทำงานด้านโปรดักชั่นภาพยนตร์ก็เพราะจริงๆ แล้วแมงมุมเรียนจบทางด้านนี้มาโดยตรง ส่วนด้านดีไซเนอร์นั้นก็เป็นอีกหนึ่งความชื่นชอบส่วนตัวไม่ได้เรียนด้านนี้มาโดยตรง ในช่วงแรกอาจยังไม่ค่อยพร้อมที่จะทำงานทางนี้ทั้งวุฒิภาวะและการทำงานกับคนหมู่มาก แต่ด้วยประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้น ตอนนี้คิดว่าพร้อมแล้ว ทำธุรกิจมาสองสามอย่างแล้ว ทำงานดีไซเนอร์ ผ่านการทำงานโฆษณามาแล้ว ก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะกลับมาช่วยบริหารธุรกิจของครอบครัว เป็นสิ่งที่เราเรียนมาและเป็นสิ่งที่เรารัก 

“ผลงานที่ผ่านมาก็มีละครเรื่องผู้ชนะสิบทิศ ทางทีวีดิจิตอลช่อง 8 ส่วนอีกเรื่องที่กำลังจะออกอากาศก็คือ ละครแนวพีเรียดเรื่อง แหวนทองเหลือง ซึ่งกำลังจะออกอากาศช่วงปลายปีนี้ ทางช่อง 8 เหมือนกัน ส่วนผลงานที่จะตามออกมาก็มีละครเรื่อง ปริศนา, รัตนาวดี และ เจ้าสาวของอานนท์ ส่วนจะเป็นช่องไหนตอนนี้ขออุบไว้ก่อน สำหรับเรื่องปริศนาแมงมุมกำกับเองด้วยค่ะ ส่วนอีกสองเรื่องจะเป็นผู้จัดละครไม่ได้กำกับ กระแสตอบรับจากละครเรื่องแรก ผู้ชนะสิบทิศ เรตติ้งดีมากๆ” 

แน่นอนว่าการที่เติบโตมาในครอบครัวราชนิกูล หลายๆ คนมักมองว่าการที่เธอจะหยิบจับอะไรนั้น ล้วนได้มาด้วยความง่ายดายกว่าคนธรรมดา แต่ในความเป็นจริงทุกคนย่อมมีแรงกดดันที่แตกต่างกัน 

“การทำธุรกิจหรือการทำงานทุกอย่างย่อมต้องมีอุปสรรคอยู่แล้ว ความกดดันของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน อย่างแมงมุมเป็นลูกท่านพ่อ (ท่านมุ้ย) อยู่ในวงการภาพยนตร์ทุกคนก็รู้จัก พอเราเป็นลูกสาวคนก็อยากรู้ว่าเราจะเก่งแค่ไหน มันก็มีความกดดันในตรงนั้นด้วย แต่ความโชคดีก็มีเหมือนกัน เพราะแมงมุมได้คลุกคลีกับวงการนี้มาตั้งแต่เด็ก พี่ๆ ที่อยู่ในวงการนี้ก็รู้จักกันหมด 

“แมงมุมว่าทุกอย่างมันมีมุมทั้งสองด้าน แต่สุดท้ายก็ต้องมาวัดกันที่ผลงานอยู่ดี สุดท้ายก็ต้องอยู่ที่ฝีมือของเราเอง ความตั้งใจ ความพยายามของเราเอง ซึ่งแมงมุมเป็นคนที่เอาแรงกดดันมาเป็นแรงผลักดันค่ะ อยากทำให้มันออกมาดี แมงมุมว่าถ้าไปเครียดกับมันก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ และการที่มีคนให้ความสนใจ ติดตามความเคลื่อนไหวของเรานั้น อาจเป็นเพราะว่าภาพแรกๆ ที่คนสนใจนั้นมาจากที่เป็นลูกสาวท่านพ่อ ต่อมาก็เป็นดีไซเนอร์ คิดว่าคนเลยติดตามจากผลงานแฟชั่นในตอนนั้นค่ะ แมงมุมเป็นคนชอบแต่งตัวด้วย คิดว่าเขาก็คงมาดูว่าเราใส่ชุดอะไร ซึ่งตอนนี้แมงมุมคิดว่าคนที่ติดตามความเคลื่อนไหวของเราเพราะงานหรือผลงานที่เราทำมากกว่าค่ะ แมงมุมว่ามันเป็นผลดีกับการทำงานของเราด้วย เพราะทำงานด้านสื่อ พอมีคนติดตามเราก็เหมือนกับการได้พีอาร์ไปในตัวด้วยว่าตอนนี้เรากำลังทำอะไรอยู่

“เสียงซุบซิบในวงสังคมเหรอ ... ชินแล้วค่ะ แต่ตอนที่เรากลับมาจากเมืองนอกใหม่ๆ นี่จะไม่เข้าใจเลย เพราะไม่ใช่ดาราทำไมต้องมีคนมาสนใจ มายุ่งเรื่องส่วนตัวด้วย แต่พอโตขึ้นก็เข้าใจค่ะ ว่ามันเป็นสังคมของวงการบันเทิง ถึงเราจะทำงานเบื้องหลังก็ตาม ก็ต้องเข้าใจและทำใจกับมัน การที่โตมาในครอบครัวราชนิกูลก็ไม่ได้รู้สึกกดดันนะ เราอาจโชคดีที่ได้เกิดมาอยู่ตรงนี้ แต่เราก็ต้องทำตัวให้ดีด้วย

“ธุรกิจทุกอย่างที่แมงมุมทำเกิดจากความชอบทั้งหมด อย่างกระเป๋าก็เกิดจากเราอยากได้แบบนี้ ก็ดีไซน์ออกมาเอง พอเพื่อนๆ มาเห็น หรือคนอื่นมาเห็นก็อยากได้บ้างก็เลยทำแบรนด์ของตัวเองขึ้น ฉะนั้นถ้าให้เลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งคงไม่ได้

“สำหรับคนที่จะทำธุรกิจ อย่างแรกต้องมีความอดทน ต้อง Drive ไปกับมัน ต้องมี Passion กับมัน อยากเห็นมันเติบโต อยากให้มันดี อยากตื่นขึ้นมาทุกเช้าเพื่อที่จะสนุกกับมันต้องรักในสิ่งที่ตัวเองทำ อย่างตอนนี้แม้เวลาพักผ่อนจะยังไม่ค่อยมี แต่ก็ไม่ได้คิดว่าทำงานหนักอะไร เพราะตอนนี้ยังสนุกกับการทำงานอยู่ ยังไม่รู้สึกเหนื่อย ที่บ้านก็ไม่ได้บังคับว่าต้องทำงานเยอะๆ ตอนนี้ยังสนุกกับมัน ยังมีพลังและกระตือรือร้นที่จะทำงานอยู่ตลอดเลยค่ะ

“ยังไงก็ขอฝากร้านไก่ย่างเสือใหญ่ by MANGMOOM ที่เวิ้งพิมาน 49 ในซอยสุขุมวิท 49ไว้ด้วยค่ะ เปิดบริการตั้งแต่สิบเอ็ดโมงจนถึงสี่ทุ่มค่ะ มาชิมกันได้นะคะ หวังว่าทุกคนจะชอบ ส่วนละครเร็วๆ นี้ที่กำลังจะฉายคือเรื่อง แหวนทองเหลือง ทางช่อง 8 มีผู้พันเบิร์ดเล่นคู่กับพิงกี้ค่ะ ส่วนกระเป๋า แบรนด์ Mangmoom ก็สั่งซื้อได้ในเพจเฟสบุ๊คค่ะ มีบริการส่งถึงบ้านเลยค่ะ”