มีคนเคยบอกผมไว้ว่า “ดาราส่วนใหญ่จะต้องเป็นลูกครึ่งเท่านั้นถึงจะดังได้ ถ้าหน้าตาไทยๆ ไม่ดังหรอก เพราะไม่ใช่สมัยนิยม” คำพูดนี้ผิดไปทันทีที่ผมพบกับเธอ “นุ่น-วรนุช วงษ์สวรรค์” ดาราที่จะมาขึ้นปกให้กับ MiX MAGAZINE ในครั้งนี้ เพราะเธอมีความเป็นหญิงไทยอย่างสมบูรณ์แบบ แทบจะเรียกได้ว่างามอย่างไทย สวยอย่างไทย ก็ไม่ผิดนัก วันนี้เธอในมาดใหม่ สวย เปรี้ยวกว่าเดิม มาพร้อมกับหัวใจสีแดงดวงใหญ่ต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก เธอคนนี้มีใครในใจหรือยัง เธอคิดเห็นอย่างไรกับวาเลนไทน์ ความรักของเธอเปรียบเสมือนดอกไม้ชนิดไหน ผมจะพาคุณผู้อ่านเข้าไปเปิดห้องหัวใจของเธอคนนี้กัน

กลับมาถ่ายแบบอีกครั้ง คอนเส็ปต์เป็นอย่างไรบ้าง

เหมือนเด็กสยามเลย คือมันจะดูออกแบบแนวๆ หน่อย อาร์ตๆ คือมันเป็นวาเลนไทน์ด้วย มีเขียนหลัง 
มีใส่วิก ภาพออกมาก็แฮปปี้ดีค่ะ

ครั้งแรกที่รู้ว่าต้องถ่ายแฟชั่นกับ MiX MAGAZINE

ก็คิดไว้ว่า คงเซ็กซี่เล็กๆ ตอนที่ทีมงานติดต่อมาก็โอเคเลย เพราะว่าเป็นทีมที่เรารู้จัก เคยทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ก็หายห่วง ไม่เกร็งค่ะ

มีอุปสรรคในการทำงานบ้างไหม

ก็มีบ้าง เพราะว่าแดดร้อน ถึงจะเป็นสตูดิโอก็จริง แต่ก็มีแสงแดด แต่โดยรวมๆ ก็โอเค

ระหว่างการถ่ายภาพ หนัง ละคร พิธีกร ชอบอย่างไหนมากที่สุด

ก็คงอย่างที่ทราบๆ กันอยู่แล้ว งานหลักของนุ่นก็คืองานละคร อย่างถ่ายแบบครั้งนี้ก็คือเราอยากถ่าย เก็บพอร์ทตัวเองไปเรื่อยๆนุ่นเล่นละครมาสิบปีแล้ว เป็นอะไรที่ถนัดมากที่สุด ส่วนงานอื่นก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะ หนังยากนะ ยากกว่าละครอีก แต่เวลาที่เราอยู่ในวงการบันเทิง เราก็จะเจออะไรที่ปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม คือทุกอย่างมันมีเสน่ห์ในตัวของมันเอง พิธีกรก็เหมือนกัน 

10 ปีที่อยู่ในวงการบันเทิง ได้อะไรจากตรงนี้บ้าง

ก็ได้หลากหลายอย่าง ตั้งแต่ เงินทองประสบการณ์ รางวัล เพื่อน สังคม อีกเยอะค่ะ 

นอกจากงานในวงการแล้ว อยากทำอะไรอีกไหม

อยากเป็นเจ้าของคอนโด อพาร์ทเมนต์ค่ะ นุ่นคิดว่ามันน่าจะโอเคนะ แต่ตอนนี้ที่ทำอยู่ก็มี “นาฏกะ” เป็นโรงเรียนละครสอนเด็ก เปิดมาแล้ว 4 ปี เมื่อตอนกลางปีที่ผ่านมาก็มีการจัดประกวดเพื่อหาเด็กที่จะเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปเผยแพร่วัฒนธรรมที่ฝรั่งเศส แล้วก็นุ่นยังได้มีโอกาสทำรายการพิเศษเล็กๆ รายการหนึ่ง เป็นเทปพิเศษ 2 เทป เป็นโครงการที่มีไว้สำหรับสนับสนุนเด็กที่มีความตั้งใจและรักศิลปวัฒนธรรมไทย

เป็นดาราย่อมคู่กับข่าว รู้สึกอย่างไรกับตรงนี้

คือนุ่นคิดว่าทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงหมด ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม เราเกิดมาก็ต้องโตขึ้น สังคมเปลี่ยนขึ้น จากเมื่อก่อนที่เป็นวัฒนธรรมแบบไทยจ๋า ก็เป็นตะวันตกมากขึ้น มันมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา มันขึ้นอยู่กับสภาพสังคมต่างๆ ข่าวก็เยอะขึ้น การแข่งขันก็มากขึ้น นุ่นคิดว่าเป็นเรื่องที่เราต้องเข้าใจในธรรมชาติของมัน อย่าไปซีเรียสกับมัน ถ้าเรามัวแต่คิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นประเด็นหลักในชีวิต มันก็คงไม่แฮปปี้แน่ๆ เรายังมีคนที่ห่วงเรา เข้าใจเรา มีคนรอบๆ ข้างที่เขาสนใจเรา ดังนั้นอย่าไปยึดติดกับมัน

แล้วเคยมีไหมที่เป็นข่าวแรงๆ 

ก็มีค่ะ ตอนนั้นเป็นข่าวเรื่องวีซีดี คือเป็นช่วงแรกๆ เลยของการมีข่าวแบบนี้ จะจริงหรือไม่จริงก็แล้วแต่ เมื่อมีข่าวแบบนี้ออกมาแล้ว มันกระทบกับจิตใจของเรามาก ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ คนเขาก็ลือกัน วันนั้นที่ทราบข่าวครั้งแรก นุ่นก็ตกใจนะ เพราะถ่ายโฆษณาอยู่ เป็นงานใหญ่ด้วย ก็เลยตัดสินใจไม่รับโทรศัพท์เลย เพราะต้องทำงานให้ออกมาดี เมื่อเวลาผ่านไป ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์เองว่าเราเป็นอย่างไร 

ผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมาได้ ฝากถึงคนอื่นที่อาจจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ในอนาคต

ชีวิตคนเราเกิดมาเป็นคน เป็นมนุษย์ มันมีค่ามาก ถ้าหากว่าเราจะทำอะไรก็แล้วแต่ ควรจะเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับตัวเราเองอย่าไปคิดลบ ไปคิดอะไรที่มันไม่ดี นุ่นไม่ใช่คนๆ เดียวที่เคยเจอข่าวแบบนี้ คนอื่นเขาก็เจอ หนักกว่านุ่นอีก แต่เราต้องผ่านมันไปให้ได้ ก็ขอส่งกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังทุกข์ใจค่ะ สู้ และผ่านมันไปให้ได้

มาถึงจุดนี้คิดว่าประสบความสำเร็จหรือยัง

ไม่รู้ว่าการประสบความสำเร็จที่สุดเป็นอย่างไร งานมากขึ้น คนรู้จักก็มากขึ้น มันเป็นเรื่องปกติ มีวันขึ้นก็ต้องมีวันลง มันเป็นวัฎจักร เป็นวงจรชีวิต ทุกวันนี้นุ่นแฮปปี้กับงานที่ทำอยู่ ทั้งงานละคร โฆษณา ถ่ายแบบ ก็มีความสุข บอกไม่ได้หรอกว่าเราประสบความสำเร็จหรือเปล่า แต่มันก็บวกขึ้นเรื่อยๆ ก็อยากทำงานตรงนี้ไปนานๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะนานได้แค่ไหน แต่ก็จะทำให้เต็มที่และดีที่สุดค่ะ

ช่วงนี้เป็นเทศกาลวาเลนไทน์ สำหรับนุ่นคำว่าวาเลนไทน์เป็นอย่างไร

ถ้าตอนเด็กๆ จะเป็นวันที่เราเฝ้ารอ ว่าเดี๋ยวจะไปซื้อสติกเกอร์ติดรอบเข็มขัด รอบปกเสื้อ จะมีใครให้ดอกไม้เราไหม คือมันเป็นวันที่ดูสนุกสนานค่ะ แต่พอโตขึ้นมา มันก็ไม่เท่าไร เน้นเรื่องการทำงานมากกว่า แต่นุ่นชอบเทศกาลนี้นะ เพราะเป็นเทศกาลที่มีรอยยิ้ม เห็นแล้วมีความสุข

แล้วเคยได้รับของขวัญวาเลนไทน์ชิ้นที่ประทับใจที่สุดไหม

ไม่มีเลย คือนุ่นจะไม่ค่อยประทับใจกับอะไรง่ายๆ ที่ผ่านมายังไม่มี มีแต่นุ่นจะไปทำให้คนอื่นประทับใจมากกว่า

วาเลนไทน์ก็คู่กับความรัก แล้วความรักของนุ่นเป็นอย่างไรบ้าง

ความรักมันก็เรื่อยๆ นุ่นไม่ได้คิดว่าจะต้องเป็นประเด็นหลักสำคัญในชีวิต คิดว่าเรื่องรักเป็นเรื่องรองมากๆ เพราะทุกวันเรามีเรื่องอื่นให้คิดเยอะแยะ มีครอบครัวให้ดูแล มีเรื่องงานให้ต้องคิด แต่ถ้าถามว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องมีไหม ก็ต้องมี แต่ต้องอาศัยความเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งมันก็อีกยาว

ถ้าความรักเปรียบเหมือนดอกไม้ สำหรับนุ่นจะเป็นดอกไม้อะไร

ดอกมะลิค่ะ นุ่นเป็นคนที่ชอบดอกมะลิอยู่แล้ว เพราะเมื่อก่อนคุณพ่อจะปลูกไว้ แล้วก็เอามาวางไว้บนหัวเตียง แล้วนุ่นจะได้กลิ่นหอม อีกอย่าง ดอกมะลิก็เป็นความหมายแทนวันแม่ด้วย คือมันเป็นอะไรที่บริสุทธิ์ ถ้าใครมีความรักที่บริสุทธิ์จริงๆ แบบดอกมะลิ ก็จะเป็นสิ่งที่ดีมากๆ 

นิยามความรักของนุ่นล่ะ

นุ่นว่าความรักออกแบบได้ แต่เป็นการออกแบบของสองคน ถ้าคิดจะออกแบบให้เหมือนกัน มันก็เหมือนกัน แต่ถ้าเกิดคนสองคนออกแบบไม่เหมือนกัน มันก็ไม่มีทางที่จะอยู่ด้วยกันได้ 

คิดว่าจะแต่งงานเมื่อไร

ไม่รู้หรอก เอาแค่วันนี้ พรุ่งนี้ก็พอแล้ว นุ่นไม่อยากคิดไปไกล เพราะว่าไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา 

อยากจะฝากอะไรทิ้งท้ายดี 

ก็ฝากผลงานของนุ่นค่ะ ตอนนี้ก็มีเรื่อง “เพลงดินกลิ่นดาว” “ดาวเปื้อนดิน” มีงานพิธีกรรายการ “ที่นี่หมอชิต” มีโรงเรียนนาฏกะแล้วก็มีเว็บไซต์  www.woranuch.com เข้าไปติชมกันได้ค่ะ