8 เรื่องเซ็กซ์ที่เด็กอยากรู้
ตกดึกพ่อกับแม่ทำอะไรกัน ตอบอย่างไรดี
การโวยวาย เสียงดัง หรือบ่ายเบี่ยงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุดเมื่อเด็กเห็นหรือทราบว่าเมื่อคืนคุณและภรรยาได้มีอะไรกัน เพราะเด็กอาจจะไม่ทราบด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร เป็นอย่างไร และจะส่งผลอะไร
สิ่งที่จะส่งผลกระทบอย่างที่สุดต่อเรื่องนี้ก็คือ การปล่อยให้เด็กได้เห็นบทรักอย่างชาชินเสมือนเป็นเรื่องหนึ่งในชีวิตประจำวัน เพราะเด็กจะกลายเป็นได้รับการกระตุ้นทางเพศก่อนวัยอันควร และอาจทำให้เด็กคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ จะทำที่ไหน อย่างไร หรือใครจะเห็นก็ได้
เช่นนั้นแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก่อนจะต้องมาตอบคำถาม ควรจะต้องป้องกันให้เด็กไม่เห็นสิ่งเหล่านี้เสียก่อน จะล็อคประตู จะอยู่ในที่รโหฐาน มองซ้ายมองขวาให้ดี ก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นถ้าหากคุณมีเด็กอยู่ในบ้านด้วยอีกคน
ส่วนเมื่อเด็กได้เห็นแล้วเราทราบว่าเด็กเห็น การอธิบายถึงความรักที่พ่อมีต่อแม่ แม่มีต่อพ่อก็เป็นเหตุผลดีๆ อีกเหตุผลหนึ่งที่จะทำให้เด็กเข้าใจ และควรมีการแนะนำเพิ่มเติมไปด้วยว่าการกระทำแบบนี้ทำได้ในที่ส่วนตัวเท่านั้น ไม่ใช่อยู่ในที่สาธารณะก็ทำได้ ซึ่งหากเด็กเข้าใจแล้ว ทัศนคติทางเพศของเด็กก็จะยิ่งดีขึ้นอีกด้วย
โทรทัศน์ เคเบิ้ล เด็กดูได้ไหม
คงจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลกันเกินไปแม้ว่าเราจะเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองก็ตามหากจะต้องห้ามไม่ให้เด็กดูทีวี ฟังวิทยุ หรือดูช่องเคเบิ้ล ทว่า สื่อต่างๆ เหล่านี้ในยุคปัจจุบันก็ถือว่าล่อแหลมพอสมควร ฟรีทีวียังมีการควบคุมเรทอายุ ก็นับว่ามีการสกรีนที่ดีพอควร ส่วนทางช่องเคเบิ้ลนั้น จะขยายขนาด แก้ไขอาการต่างๆ อาหารเสริมร้อยพันชนิด โฆษณากันอย่างเต็มที่ และสำคัญคือ พิธีกรที่อยู่ในรายการนั้นๆ แต่งตัวยั่วน้ำลายเป็นอย่างดี และนี่นับเป็นช่องโหว่ที่ใหญ่พอสมควรรูหนึ่งที่จะทำให้เด็กมีพฤติกรรมถูกกระตุ้นในเรื่องเพศมาก ซึ่งไม่ได้ส่งผลดี
เช่นนั้นแล้ว การป้องกัน หรือควบคุมให้เด็กดูรายการที่เหมาะสม และตั้งโทรทัศน์ให้อยู่ในห้องรับแขก ไม่ไปไว้ในห้องส่วนตัวของเด็กก็ถือเป็นส่วนช่วยในการหลีกเลี่ยงเรื่องราวแบบนี้ได้เป็นอย่างดี แต่หากเด็กมีโอกาสได้เห็นเรื่องราวทางเพศทางสื่อโทรทัศน์ เราก็ควรที่จะให้ความรู้และอธิบายถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ได้อย่างกระจ่าง เพื่อให้เด็กได้เข้าใจถึงกระบวนการทางเพศซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ
โลกออนไลน์เด็กเข้าไปสัมผัสได้มากน้อยเพียงใด
ข้อมูลต่างๆ บนโลกที่เกิดขึ้นถูกแชร์และถ่ายทอดลงบนโลกอินเทอร์เน็ต ข้อมูลที่ว่ารวมไปถึงเรื่องราวทางเพศทั้งในทางวิชาการและในทางโลกทั่วไปอีกด้วย และการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ในโลกอินเทอร์เน็ตก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรในปัจจุบัน เด็กส่วนมากรู้จักการเล่น การใช้แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ดังนั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ง่ายๆ เช่นกัน
การจะแก้ปัญหาเรื่องการเข้าถึงภาพลามกอนาจารถึงเนื้อหาทางเพศทางอินเทอร์เน็ตนั้น ผู้ใหญ่อย่างเราจำเป็นจะต้องทุ่มเทเวลา และให้ความรู้กับเด็กอย่างจริงจัง เล่าถึงข้อดี ข้อเสียของสิ่งที่เด็กได้พบเห็นและพบเจอ ว่าสิ่งต่างๆ นั้นเป็นอย่างไร อาจจะใช้ธรรมะเข้ามามีส่วนช่วย เพราะจะส่งผลให้เด็กรู้ผิดชอบชั่วดี และตัดสินใจได้เองว่า สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกอินเทอร์เน็ตอันไหนสมควรเข้าไปดู หรือสิ่งไหนไม่สมควรเข้าไปดู
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อทราบว่าเด็กเข้าไปดู หรือท่องไปในโลกอันไม่สมควร เราไม่ควรใช้อารมณ์ในการตัดสินเด็ก เพราะจะยิ่งทำให้เด็กถอยห่าง และไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ทำไมต้องปฏิเสธคนแปลกหน้า
คงไม่ใช่ทุกคนที่เป็นคนแปลกหน้าจะมุ่งร้ายหรือมุ่งหวังบางอย่างในตัวเด็ก คนดีๆ ที่หวังดีก็อาจจะมีจริงในสังคม ทว่าหากเราไม่สอนหรือให้คำแนะนำเด็กเกี่ยวกับการรับมือคนแปลกหน้าที่หยิบยื่นข้อเสนอต่างๆ เข้ามาให้เด็กแล้ว ก็อาจจะส่งผลอันตรายต่อเด็กได้ เพราะการล่วงละเมิดทางเพศเกี่ยวกับเด็กส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเด็กรู้เท่าไม่ถึงการ
แม้ทุกข้อที่เล่ามาทั้งหมด จะไม่ได้กำหนดบทบาทข้อห้ามแต่อย่างใด แต่สำหรับข้อนี้ การห้ามรับขนมจากคนแปลกหน้า เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราควรให้ข้อมูลว่าคนแปลกหน้าที่หยิบยื่นขนมมาให้นั้น เขาคาดหวังอะไร และบทลงเอยจากการรับขนมหรือสิ่งของจากคนแปลกหน้านั้นน่ากลัวแค่ไหน
สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะติดตัวเด็ก เพราะเมื่อเวลาเขาเติบโตขึ้น เด็กก็จะสามารถนึกคิดได้เองว่า นอกจากการรับขนมหวานแล้ว สิ่งอื่นๆ ที่ถูกเสนอมาจากคนแปลกหน้า ไม่ว่าจะเป็นแก้ว แหวน เงิน ทอง ฯลฯ ก็ไม่ควรรับเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเอง ไม่เพียงแค่เรื่องเพศเท่านั้น รวมไปถึงชีวิตด้วย
และทั้งหมดนี้คือ 8 เรื่องที่เด็กควรรู้ และคุณควรจะต้องตอบเด็กให้ได้ แม้เรื่องเพศยังมีอีกหลากหลายเรื่องราวที่คุณควรรู้ แต่นี่คือเรื่องที่เร่งด่วนที่คุณควรจะให้เด็กเข้าใจตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อให้พวกเขาเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้าครับ
Did You Know?
“ขนาด” บ่งบอกโอกาสเป็นหมัน
ผู้ชายอ่านแล้วอย่าเพิ่งตกใจ นักวิจัยพบว่าขนาดมีส่วนสัมพันธ์กับโอกาสมีลูก แต่ไม่ใช่ขนาดของเครื่องเคราอย่างที่หนุ่มๆ วิตกกัน ขนาดในที่นี่หมายถึง ระยะห่างระหว่างช่องทวารหนักกับถุงอัณฑะ หรือเรียกกันว่า เอจีดี (AGD anogenital distance)
ผลวิจัยในสหรัฐฯ พบว่า ชายใดที่มี เอจีดี สั้นกว่าขนาดเฉลี่ย ประมาณ 2 นิ้ว คนนั้นยิ่งมีโอกาสเพิ่มขึ้น 7 เท่า ที่จะเป็นหมันคือมีปริมาณของน้ำและตัวอสุจิน้อยลง
นอกจากนี้งานวิจัยก่อนหน้านี้พบว่า แม่ที่ได้รับสารเคมี “ทาแลต” ในช่วงตั้งครรภ์ เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ลูกจะมีช่วงเอจีดีสั้น “ทาแลต” พบได้ในน้ำหอม แชมพู สบู่ สี และพลาสติก ผลวิจัยได้วัดปริมาณทาแลตในปัสสาวะของหญิงมีครรภ์ พบว่ามีโอกาสเพิ่มขึ้น 10 เท่า จะมีโอกาสเสี่ยงที่ลูกชายจะมีช่วงเอจีดีสั้น