Frankenweenie
แอนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เคยถูกสร้างมาแล้วในปี 1984 ในตอนนั้น ทิม เบอร์ตัน ทำเป็นหนังสั้นที่ใช้คนแสดง ซึ่งความตั้งใจแรกนั้น เขาอยากจะทำเรื่องนี้ให้เป็น Stop motion เรื่องยาว แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างในตอนนั้น ทำให้ยังไม่สามารถทำได้
เนื้อเรื่องย่อๆ ก็คือ เจ้า “สปาร์คกี้” สุนัขที่มีนิสัยร่าเริงและซื่อสัตย์ของ “วิคเตอร์” หนุ่มน้อยนักทดลองที่มักจะเก็บตัว ไม่ค่อยมีเพื่อน วิคเตอร์มีแต่เจ้าสปาร์คกี้เป็นเพื่อนยาก ในเย็นวันหนึ่งวิคเตอร์พยายามทำตามคำขอของพ่อแม่ ด้วยการเข้ากลุ่มออกไปเล่นกีฬากับเพื่อนๆ และแน่นอนว่าวิคเตอร์พาเพื่อนซี้สี่ขาไปด้วย แล้วเรื่องราวเลวร้ายก็เกิดขึ้น อุบัติเหตุพรากเจ้าสปาร์คกี้ไปจากวิคเตอร์ เขาเศร้าโศกที่เสียสุนัขแสนรู้และเพื่อนซี้ที่ดีที่สุดไป
แต่แล้ววิคเตอร์ก็ตะลึงกับการทดลองในวิชาวิทยาศาสตร์ของอาจารย์คนใหม่ที่สามารถทำให้กบที่ตายแล้วขยับได้ เค้าจึงปิ๊งไอเดียนำมาทดลองกับสปาร์คกี้ เพื่อให้สุนัขแสนรักฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง
ทิม เบอร์ตัน ได้แรงบันดาลใจในการตั้งชื่อตัวละครจากหนังสยองขวัญคลาสสิคหลายๆ เรื่อง หลายฉากในหนังยังคงเอกลักษณ์งานในปี 1984 ซึ่งหลายๆ มุม มุมกล้องค่อนข้างเชยด้วยซ้ำ (แต่ก็เต็มไปด้วยความคลาสสิคตามสไตล์ผู้กำกับ) แต่ที่ทำให้ผมทึ่งสุดๆ ก็คืองาน Stop motion ที่พลิ้วไหวดูเพลินตา สวยงามน่าหลงใหลจริงๆ
Frankenweenie เป็น Stop motion ที่ผสมกับเทคนิคแอนิเมชั่น สมัยใหม่ ความยาว 84 นาที ซึ่งหนึ่งนาทีมี 60 วินาที และ1 วินาทีสำหรับภาพยนตร์ใช้ 24 เฟรม นั่นหมายความว่าจะต้องขยับรูปร่างท่าทางของหุ่นอย่างน้อยประมาณหนึ่งแสนสองหมื่นครั้ง เพื่อให้ได้ภาพยนตร์ Stop motion เรื่องนี้ขึ้นมา ยังไม่นับตัวหุ่นเชิดกว่า 200 ตัวที่ถูกสร้างขึ้น ซึ่งทุกตัวสามารถขยับได้ทุกส่วนทั้งแขน ขา ข้อต่อ สีหน้าแววตา (ผมชอบตรงแววตามากๆ ในหนังไม่ตกรายละเอียดเลยครับ)
ถึงแม้งานล่าสุดจากผู้กำกับสุดแนวเรื่องนี้ออกจะดูยากไปนิดสำหรับเด็กๆ แต่สำหรับใครหลายคน เรื่องนี้คงจะทำให้คุณหวนคิดถึงเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวโปรดในวัยเด็กได้ไม่ยากครับ