ชนะเบาหวาน
หมอเคยดูรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง พิธีกรถามเด็กว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร เด็กน้อยน่ารักก็รีบตอบไปว่า “อยากเป็นเบาหวานครับ”
เด็กๆ เหล่านั้นคงไม่ทราบหรอกครับว่าโรคเบาหวานนั้นไม่หวานสมชื่อ เพราะจำเป็นต้องรับประทานยาทุกวันตลอดชีวิต แถมยังต้องเจาะเลือดตรวจน้ำตาลอยู่บ่อยครั้ง
หลายเสียงอาจถามว่า โรคเรื้อรังอย่างเบาหวานจำเป็นต้องกินยาไปตลอดชีวิตหรือไม่ คงต้องเรียนกันตรงๆ ครับว่า จำเป็นมากเพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอาการแทรกซ้อนข้างเคียงมากมาย เช่น ถูกตัดขา เนื่องจากแผลเรื้อรังไม่หาย และสุดท้ายก็กลายเป็นเน่า เมื่อเน่าก็จำเป็นต้องตัดทิ้ง เพราะไม่เช่นนั้นแผลจะลามไปยังพื้นที่บริเวณอื่นๆ ของร่างกาย หรืออาจจะเกิดภาวะที่เรียกว่า“เบาหวานขึ้นตา” ทำให้เกิดอาการตามัวขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ทำให้ตาบอดได้
หรือถ้าเลวร้ายไปกว่านั้น ถ้าเกิดเบาหวานไปที่ไต ก็มีโอกาสที่จะเกิดภาวะไตเสื่อมหรือไตวายและมีโอกาสเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ เบาหวานคงจะน่ากลัวมากขึ้นหลายเท่านักในความคิดของคุณผู้อ่าน แต่หมอมีวิธีการดูแลสุขภาพที่จะทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการเบาหวานไม่จำเป็นต้องกินยาตลอดชีวิต และถึงจะไม่รับประทานยาก็ไม่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่กล่าวข้างต้น
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับวิธีนี้ก็คือ “ใช้ใจ”
เหตุผลง่ายๆ ที่หมอบอกเช่นนี้ก็คือ คุณต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเสียใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องยากมากในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของแต่ละคน คนไข้บางท่านกว่าจะป่วยเป็นเบาหวานอายุก็ปาเข้าไปสามสี่ห้าสิบปี เพราะมีพฤติกรรมการกินเช่นนี้มาตลอด จะให้เปลี่ยนไปเป็นแบบอื่น ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จะยากกว่าไหม ถ้าไม่เปลี่ยนแล้วเบาหวานจะคุกคามถึงชีวิต
การเปลี่ยนพฤติกรรมการกินที่หมอบอกนั้น เป็นสูตรการกินแบบง่ายๆ นั่นก็คือ การรักษาเบาหวานด้วยการกินเนื้อกินผัก* ซึ่งถ้าหากใครก็ตามพิจารณาดีๆ จะพบว่าเป็นหลักการที่เข้าใจได้ง่ายมาก หมอสามารถอธิบายแบบสั้นๆ ด้วยข้อความไม่กี่ประโยค ก็คือ“กินได้แต่โปรตีน เนื้อสัตว์ ไขมัน และผักเท่านั้น” นอกเหนือจากนี้ห้ามกิน ก็คือกลุ่มคาร์โบไฮเดรตทั้งหมดจะกินไม่ได้ เช่น แป้งทุกชนิด ข้าวทุกชนิด ผลไม้ทุกชนิด น้ำตาลทุกรูปแบบ ซึ่งเวลาที่ปฏิบัติจริงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวานส่วนมากแล้วจะชื่นชอบอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
และนั่นเองทำให้การรักษาเบาหวานด้วยวิธีนี้ จึงจำเป็นต้องอาศัย “ใจ” เป็นที่ตั้ง
เล่มหน้าหมอจะมาแนะนำเพิ่มเติมถึงวิธีการฝึกใจใหม่ให้เข้มแข็งเพื่อรักษาเบาหวาน และทำให้คุณผู้อ่านเลิก ละ ลด นิสัยการกินแบบเดิมๆ ใครที่สนใจฉบับหน้าพบกันใหม่ครับ