กริช จิราภิรักษ์
-1-
คงไม่มีใครปฏิเสธว่าถนนราชดำเนินเป็นถนนที่คนมักนึกถึงเรื่องของการเมือง การเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกว่าถ้ามีการชุมชุมทางการเมืองเมื่อไหร่ ถนนราชดำเนินจะเป็นถนนลำดับต้นๆ ที่มวลชนจะมารวมตัวกัน ซึ่งที่ผ่านมามีการชุมนุมมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง และแต่ละครั้งก็ทิ้งความสูญเสียไว้ไม่น้อย
“ปี พ.ศ.2516 มีการเรียกร้องประชาธิปไตยจากนักศึกษาครั้งใหญ่ แต่ความจริงแล้วตอนนั้นก็ไม่ค่อยกระทบกับโรงแรมสักเท่าไหร่ ช่วงเวลานั้นมีแต่กองสลากที่ถูกเผา แต่โรงแรมของผมรอด
“อีก 3 ปีต่อมา พ.ศ.2519 ก็มีการเรียกร้องประชาธิปไตยอีกครั้ง ครั้งนั้นเหตุการณ์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในธรรมศาสตร์เป็นหลักโรงแรมของเราก็กลายเป็นที่รักษาพยาบาลของคนที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือปี พ.ศ.2535 หรือ
พฤษภาทมิฬ เพราะมีผลกระทบเข้ามาถึงในโรงแรม แต่หลังเหตุการณ์สงบลง ทางโรงแรมเราก็ไม่ได้มีผลกระทบมากนัก
“ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็ตาม ผมจะให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก ทุกเหตุการณ์ผมไม่เคยปิดประตูโรงแรมเลย ที่อื่นอาจจะปิดหนี แต่ที่นี่ประชาชนวิ่งเข้ามาได้โดยเสรี เพราะถ้าเราไม่ช่วยประชาชน แล้วเขาจะพึ่งใครได้ในสถานการณ์แบบนั้น
“สมัยก่อน ระหว่างทหารกับประชาชนมีการกระทบกระทั่งกัน แต่ทุกวันนี้เปลี่ยนเป็นการประจันหน้าระหว่างประชาชนกับประชาชนซึ่งผมว่ามันเลวร้ายกว่าอีก สมัยก่อนความรุนแรงเกิดขึ้นครั้งเดียวแล้วจบ แต่ตอนนี้มันเรื้อรังและเสียหายหนักกว่า อย่างล่าสุดยิงกันที่คอกวัวมันก็ไม่น่าเกิดขึ้น
“เท่าผมที่สังเกต บอกตรงๆ นะว่าสมัยก่อนจะถืออาวุธ เผชิญหน้า แล้วเจรจาตามหลัง ตรงข้ามกับสมัยนี้ที่เจรจาก่อน ตั้งแต่ยุคพ.ศ.2514 พ.ศ.2519 พ.ศ.2535 ความรุนแรงลดลงเรื่อยๆ หรือล่าสุด 19 กันยายน พ.ศ.2549 ทหารก็เอารถถังมาจอดไว้เฉยๆ ถ้าเป็นสมัยก่อนต้องมีการออกมาตอบโต้แล้ว แต่กลายเป็นว่าเหมือนมีงานวันเด็ก ใครๆ ก็แห่ไปถ่ายรูปยืนคู่กับรถถัง”
-2-
ต้องยอมรับกันตรงๆ ว่าโรงแรมรัตนโกสินทร์เองก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมือง ตั้งแต่มีการประท้วงตั้งแต่ปิดถนนเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว อย่าง 2 ปีที่แล้วมีการปะทะกันที่สี่แยกคอกวัว ต่อมาก็มีเดินขบวนปิดถนน มีการไปชุมนุมราชประสงค์เดินประท้วงต่อที่สนามหลวง
“ปัจจุบันคนที่จะมาพักในช่วงมีการชุมนุม เขาก็กลัวด้านความปลอดภัย กลัวจะเกิดลูกหลง แถมเรื่องของการเดินทางก็ชะงักอย่างปิดถนนนี่ปิดกันเป็นเดือนๆ มันกระทบกันไปหมด แม้กระทั่งโรงแรมแถวราชประสงค์ก็เริ่มมีผล เพราะเริ่มโดนหนักๆ แต่ของเราโดนมาทุกรอบตั้งแต่อดีต เราทำอะไรไม่ได้ เพราะมันอยู่นอกเหนือการคาดหมาย
“ถ้าถามผม พอเหตุการณ์สงบ ผมอยากให้ทุกคนเคารพกฎหมาย อยากให้กฎหมายมันศักดิ์สิทธิ์ เพราะสิ่งที่เกิดหลายอย่างในทุกวันนี้ เกิดจากคนเราไม่เคารพกฎหมาย ถ้าทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายในขอบเขตที่กำหนด ก็จะมีชีวิตที่สบายเป็นปกติสุข แต่พอทุกคนละเมิด มันก็ควบคุมลำบาก เพราะกฎหมายคือการควบคุมคนให้อยู่ในกรอบที่ดีงาม”
“ธุรกิจโรงแรมมันเลยแย่ลง แล้วการเมืองไทยก็ไม่แน่นอน ทำให้วางแผนงานลำบาก แต่ส่วนมากผมจะวางแผนผู้ใช้บริการไว้ที่กลุ่มข้าราชการมากกว่า พอมีเรื่องการจัดอบรม สัมมนา ประชุมในกรุงเทพฯ ก็จะมาใช้บริการโรงแรมเราเป็นหลัก
“นโยบายของเราสมัยก่อน ในยุคที่เป็นโรงแรม 5 ดาว ผู้บริหารก็ตั้งราคาไว้ไม่สูง เพราะอยากให้คนไทยมาพัก อย่างคนต่างจังหวัดสมัยก่อน ก็จะรู้ว่าเป็นโรงแรม 5 ดาว แต่ไม่มีโอกาสได้มาพัก ตอนนี้จากที่โรงแรมเราเคยเป็นเกรด 5 ดาว เราก็ต้องปรับกลยุทธ์ลงมาให้เป็น 3 ดาว เพื่อให้คนไทยส่วนใหญ่ได้เข้ามาพัก
“จุดด้อยอย่างหนึ่งที่ผมต้องยอมรับก็คือเราไม่ทันตลาดข้างนอก แต่เราก็ไม่ได้ทำงานครอบครัวกันทั้งหมดนะ ก็มีการทำเรื่องการตลาด การประชาสัมพันธ์อยู่ สมัยก่อนใครอยากเข้ามาก็เข้ามาหาเอง แต่ปัจจุบันนี้ไม่ใช่ วิวัฒนาการมันเปลี่ยน พวกสื่อออนไลน์มีส่วนเยอะ การตลาดเดี๋ยวนี้กว้างกว่าเมื่อก่อน
“แต่ผมก็ไม่ได้มองว่าทำเลนี้มีแต่การปฏิวัติหรือการประท้วงเพียงอย่างเดียว เพราะก็ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ดีๆ ที่เกิดในบริเวณนี้เช่น พระราชพิธีต่างๆ ของการเฉลิมฉลอง เรื่องงานของพระบรมวงศานุวงศ์ หรืองานฉลองของบริษัทเอกชน เราอยู่ใกล้ๆ ก็มีส่วนร่วมเสมอ เวลามีงาน ก็จะมีคนมาพักเยอะเพื่อมาดูงาน เพราะฉะนั้นในแง่ของประวัติศาสตร์มันก็มีหลายด้าน”
-3-
โรงแรมรัตนโกสินทร์นั้นเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ของคุณกริช เพราะวิ่งเล่นที่นี่มาตั้งแต่เด็กๆ ทุกวันนี้คุณกริชจึงไม่ได้รู้สึกว่ามาทำงาน พนักงานที่นี่ก็อยู่กันเหมือนครอบครัว ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่าพนักงานส่วนใหญ่ที่นี่มีอายุมากกันทุกคน เพราะทำงานด้วยกันมานานจนเหมือนพี่น้องที่ช่วยกันทำมาหากินมากกว่าลูกน้องกับเจ้านาย
“ผมกับพ่อมีความคิดเหมือนกันก็คือ ถ้าเราอยู่นี่อย่างเดียวก็เหมือนกบในกะลา ผมจึงไปเรียนปริญญาโทที่ต่างประเทศ ไปลองใช้ชีวิตข้างนอกดูบ้างว่าเป็นอย่างไร ผมเองจบมาทางด้านบริหาร พอเรียนจบก็ไปหาประสบการณ์ข้างนอกมาก่อน ไปเป็นเซลล์ แล้วก็ไปทำงานบริษัทหลักทรัพย์ ก่อนจะกลับเข้ามาบริหารโรงแรมรัตนโกสินทร์แห่งนี้
“ตอนนี้เราก็ตั้งใจว่าจะมีการปรับรูปโฉมโรงแรมให้เข้ากับบรรยากาศของถนนราชดำเนิน แต่ก็ยังรอรัฐบาลว่าจะวางนโยบายถนนสายนี้อย่างไร ซึ่งรูปแบบก็คงต้องทำเป็นแนวโบราณแบบเดิมเป็นหลัก จะมาบูติกเกินเหตุก็ไม่ได้ มันต้องอนุรักษ์ไว้ เพราะที่นี่เป็นโรงแรมเก่าแก่ที่ต้องรักษาเอกลักษณ์ไว้
“ในอดีตผมว่าโรงแรมรัตนโกสินทร์สวยมาก มีสระว่ายน้ำ มีสวนอยู่ข้างหลัง แต่เนื่องจากพื้นที่จำกัด ก็เลยเปลี่ยนสภาพเป็นที่จอดรถ ก็ปรับปรุงมาเรื่อยๆ ตอนนี้เลยกลายเป็นตึกอนุรักษ์ที่จะทำอะไรก็ต้องขออนุญาตกรมศิลปากรไปแล้ว
“อนาคตผมมองว่าธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยจะแย่ลงนะ เพราะการสร้างโรงแรมเยอะ แล้วก็มีการตัดราคา ซึ่งถ้าเทียบในละแวกอาเซียนด้วยกัน ค่าที่พักในโรงแรมของประเทศเราราคาถูกมาก คำถามก็คือทำไมเราไม่ทำงานให้ดี เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ อย่างตอนนี้โรงแรม 3 ดาวเกิดขึ้นเยอะมาก ผมดูแล้วอีกหน่อยจะอยู่กันไม่รอด
“สมัยก่อนนั้นการบริหารงานโรงแรม เรามองแค่คู่แข่งเฉยๆ แต่เดี๋ยวนี้ต้องมองสภาพแวดล้อม ขนบธรรมเนียมหลายอย่างประกอบกัน โรงแรมจึงไม่ใช่แค่การที่แขกมาเข้าพักแล้วก็ออกไปแบบสมัยก่อน
“ผมยังจำคำสอนของพ่อแม่ได้ ตอนเด็กๆ ฟังแล้วก็คิดว่าเป็นเรื่องเก่าค่ำครึ ไม่น่าเป็นไปได้ แต่ทุกวันนี้เป็นสัจธรรม เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ท่านสอนเราว่าทำงานทุกอย่างต้องซื่อสัตย์สุจริต อย่าคดโกง เพราะความเก่งนั้นมันฝึกฝนกันได้ แต่ความซื่อสัตย์มันเป็นที่นิสัยของใจเรา
“คำสอนของพ่อแม่ทำให้ผมเอาตัวรอดทางสังคมได้ สมัยก่อนจะบอกว่าถ้าไปโกงเขาเดี๋ยวกรรมจะตามทันนะ แต่วันนี้ผมบอกว่าไม่ต้องรอปีหน้าหรือชาติหน้า คุณทำวันนี้ ไม่กี่วันก็เห็นผลแล้ว”
Know Him
• เขาชอบขี่จักรยานตระเวนไปในบริเวณถนนราชดำเนิน เพื่อซื้อของตามย่านเมืองเก่า แวะชมวังโบราณที่คนไม่ค่อยสำรวจนอกจากนี้ยังชอบเข้าป่าไปอยู่กับธรรมชาติ แม้แต่โทรศัพท์มือถือเขาก็จะปิดเพราะชอบความเงียบสงบ
• เขาไม่ได้ตั้งเป้าหมายของชีวิตไว้ที่เงินทอง เพราะคิดว่าเงินทองเป็นของนอกกาย แต่สิ่งที่เขาอยากทำก็คือ การบริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือคนป่วย และเน้นเรื่องของการศึกษาในชนบทเพื่อพัฒนาคนและสังคม