Park Society@Sofitel So Bangkok
บนชั้น 29 ของโรงแรม บนพื้นที่ทำเลทองตรงหัวถนนสาทรตัดกับพระราม 4 นี่เองที่เป็นจุดหมายเพื่อเติมพลังความสดชื่น ตอบแทนความเหนื่อยล้าที่ทุ่มให้งานมาทั้งวัน และเมื่อถึงเวลาผ่อนคลายทั้งทีจึงต้องเต็มที่สุด ๆด้วยเช่นกัน
ซึ่ง Park Society ถูกแบ่งเอาไว้เป็น 3 โซนหลักได้แก่พื้นที่ภายในที่ตกแต่งได้อย่างเรียบหรูทันสมัยในทุกมุมมอง ทุกโต๊ะได้ถูกจัดวางให้มองเห็นวิวภายนอกได้ทั่วกันหมด รวมถึงจุดเด่นอีกอย่างก็คือครัวเปิด หรือ Chefs Table ที่นอกจากคุณจะได้เห็นการทำงานของเชฟแล้ว ยังสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับอาหารแต่ละจานกับเชฟระดับโลกอย่างเชฟฟอล สมาร์ท
ขณะเดียวกันบรรยากาศในส่วน Open-air ที่เรียกว่า Park So Terrace ก็มีให้บริการค็อกเทลและของทานเล่นที่ดูจะเหมาะกับการนั่งละเลียดเมนูแก้วโปรดไปกับคนรู้ใจพร้อมภาพวิวสวยๆ ของกรุงเทพฯ ที่แต่งแต้มด้วยแสงไฟนับแสนนับล้านดวง เมื่อเดินขึ้นบันได้ต่อไปเพียงเล็กน้อยคุณจะพบโซนสุดท้ายที่ชื่อว่า Hi-So ชั้นบนสุดซึ่งรู้สึกได้เลยว่าความโรแมนติกนั้นอบอวลอยู่ในทุกตารางนิ้ว อาจจะด้วยความเป็นส่วนตัว รวมถึงบรรยากาศไม่ค่อยพลุกพล่านเหล่านี้ ทำให้ทุกนาทีที่หมดไปกับคนพิเศษ ดูจะมีคุณค่ามากขึ้นจริงๆ
เมื่อเป็นเช่นนั้นเราจึงอยากแนะนำค็อกเทลที่มีชื่อว่า PS.I LOVE YOU ซึ่งตรงกับชื่อเพลงรักหวานหยดย้อยของวงสี่เต่าทอง รสชาติหวานหอมกลมกล่อม จิบเพลินๆ พร้อมกับฮัมเพลงเบาๆ ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ แต่ถ้ายังไม่เต็มอิ่มกับความโรแมนติก Lychee and Rose ค็อกเทลอีกแก้วที่น่าสนใจ ทั้งสีสนออกชมพูสดใส แถมรสชาตินุ่มละมุนลิ้น ได้กลิ่นของกุหลาบแดงอ่อนๆ ที่สาวข้างกายคุณน่าจะหลงใหลได้ไม่ยาก หรือแก้วสุดท้ายอย่าง ไหมไทยก็น่าลิ้มลอง ซึ่งความพิเศษจะอยู่ที่น้ำผลไม้ทั้ง น้ำสับปะรด น้ำสตอเบอรี่ และน้ำส้ม ซึ่งเสริฟ์แยกให้คุณได้เติมเพิ่มเข้าไปในแก้วหลัก ซึ่งใครชอบรสชาติของผลไม้ชนิดไหนมากก็สามารถจัดการเองได้ตามใจชอบ
ส่วนเมนูสุดพิเศษสำหรับทานคู่กัน ต้องยกให้กับสองจานนี้ได้แก่ Lobster Tortellini และ Lamb 3 way ที่บอกได้คำเดียวว่ารสชาติเข้าขั้นไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
เมื่อได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนเป็นใจ คำพูดที่คุ้นเคยว่า Work Hard, Play Hard อาจจะไม่เพียงต่ออีกต่อไป เพราะเมื่อได้มารู้จักที่นี่ ก็ยิ่งทำให้รู้ว่า Happy Harder นั้นเป็นอย่างไร